เจ - มณฑล จิรา เกิดที่ประเทศฮ่องกงในปี 2521 เมื่ออายุได้ 9 ปี ครอบครัวเขาก็ย้ายมาอยู่ที่เมืองไทย พออายุ 13 ปี อยู่ๆ คุณพ่อขก็จับเขาส่งเข้าประกวด โดมอนมินิ และได้รางวัลชนะเลิศ จากนั้นแมวมองชื่อดังอย่างพจน์ อานนท์ ก็นำหนุ่มเจมาขึ้นปก เธอกับฉัน ฉบับวันวาเลนไทน์ ปี 36 ต่อมาโมเดลลิ่งก็จับไปเทสต์หน้ากล้อง จนถูกใจกรรมการ ทำให้มีงานโฆษณาเข้ามามากมาย พร้อมกับออกรายการเกมโชว์เป็นว่าเล่น พออายุ 17 ปี ก็ได้เล่นละคร
เขาตัดสินใจไปเรียนต่อ ม.6 ที่ Robert Lovis Stevenson High School ในแคลิฟอร์เนีย จบด้วยเกรด 3.8 จบปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์ และดนตรี ที่ University of California ในเวลา 3 ปีครึ่ง ซึ่งระหว่างปิดภาคเรียนทุกครั้ง เขาจะบินกลับมาเมืองไทยเพื่อไปเล่นเกมโชว์ ด้วยเหตุผลที่ว่ามันได้เงินง่าย ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่ชอบ แถมยังบอกอีกว่า เกมโชว์ไม่ใช่งานที่สร้างสรรค์ แต่เราจะเอาเงินไปทำในสิ่งที่เราชอบ เขาจึงทำมันเพื่อนนำเงินมาซื้อเครื่องดนตรี และได้ออกงานเดี่ยวชิ้นแรกกับค่าย โพลีแกรม แต่ก็ไม่ดังเปรี้ยงปร้าง
เขาเลือกที่จะไปหางานทำอยู่คนเดียวในนิวยอร์ค เมืองที่มีค่าครองชีพมหาโหดคนเดียว มากกว่าการที่จะอยู่ในเมืองไทยมีงานเข้ามาหาเอง และมีเงินใช้ สบายๆ
หลังจากเรียนจบเขาก็ได้เข้าไปเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Femme Fatal และภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Street of Paradise เป็นผู้ช่วยตัดต่อเสียงในเรื่อง Lion King1 ½ และอีกมากมายในฮอลลีวู้ด แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่งานที่เขาชอบ ซึ่งเป็นช่วงที่เพื่อนของเขาเป็นหัวหน้าวง Kenna วงดนตรีอีเล็คโทรแครช ที่กำลังมาแรงโดยมี Chad Hugo โปรดิวเซอร์ระดับ Top 5 ของโลก เป็นโปรดิวเซอร์ กำลังจะออกจากวงพอดี เขาจึงเข้าไปเป็นหัวหน้าวงคนใหม่ ต้องเล่นทั้งกีต้า, เบส และคีย์บอร์ด แต่เขาเล่นเบส กับคีย์บอร์ด ไม่เป็นต้องใช้เวลาฝึกอยู่นาน
Kenna ออกงานชุดแรกกับค่ายโคลัมเบีย แร็คคอร์ด มียอดขายกว่า 30,000 แผ่น และยังได้เป็นวงเปิดในการทัวร์ทั่วอเมริกาให้กับ Dave Gahan นักร้องนำวง Depeche Mode และวง Fischerspooner กว่า 80 โชว์
เขามีงานเพลงส่วนตัวออกมาร่วมอยู่ในอัลบั้ม Compilation The Sweets of Siam(ไม่มีขายในไทย), Smallroom 003 & 004 กับค่าย Small Room และโปรเจคส่วนตัวที่เขาตั้งใจจะทำ EP อัลบั้มในแบบซีรี่ส์มีทั้งหมด 7 EP โดยแบ่งเป็นอัลบั้มละ 3-5 เพลง ที่มีความแตกต่างให้ได้สัมผัส ภายใต้การโปรดิวซ์ของเขาแต่เพียงผู้เดียว และออกมาแล้ว 2 อัลบั้ม คือ "The First Album" เป็นแนว "Montonntronics" หรือ Montonn's Indietronica pop electronic dance glitch mixture และ Too เป็นแนว "Montonnpop" เพลง Pop ในแบบฉบับของเขาเอง เร็วๆ นี้ EP ชุดที่ 3 Three Love Songs เป็นแนว MICRO HOUSE ก็กำลังจะวางแผง นายเจได้บอกไว้ว่า ชุดนี้จะทำแค่ 1,000 แผ่น หมดแล้วหมดเลย ถ้าอยากจะได้ก็คงต้องไปหาจาก Mp3 ซึ่งคิดว่าตลาดเพลงผีน่าจะมีขาย ผมไม่ซีเรียสเรื่องรายได้จากการจำหน่าย แต่ที่ทำเพราะอยากทำ และยังบอกถึง EP ที่เหลืออีกชุด 4 จะเป็นแนว Abstract Hiphop ชุด 5 เป็นแนว Rock Band โดยจะเล่นเองทั้งหมดเลย ชุด 6 กับ 7 ยังไม่รู้ แล้วยังมีโปรเจคพิเศษที่ทำร่วมกับ จอนนี่ อันวา ในชื่อ คัทสุ (Katsue) ซึ่งก็เป็น EP 4 เพลง ออกแนวนิวป๊อป ทำแค่ 3,000 แผ่น
นอกจากนี้เขายังเป็นดีเจ เปิดแผ่นในบาร์ที่นิวยอร์คอีกด้วย ซึ่งฝีมืออการมิกซ์ของเขาก็ไม่ธรรมดาเคยฝากผลงานในการมิกซ์เพลง เวตาล ให้กับ Modern Dog มาแล้ว
ถึงแม้ว่างานของเขาจะมีความ แตกต่าง กับงานในบ้านเราค่อนข้างมาก แต่ความ "แตกต่าง" อย่างที่เขาคิด กลับถูกคนอื่นมองว่า "ฟังยาก" แต่ก็ไม่เป็นไร เขาว่า ถ้าอยากฟังง่ายๆ ก็ไปฟังบอดี้สแลมก็แล้วกัน"
ที่มา https://dream-pop-art.exteen.com/20060314/entry-1
ภาพจาก https://cms.truelife.com
