:: ประวัติย่อ :: อิซซาร์ดได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสแตนด์อัพคอเมดีที่สดใหม่ที่สุดในรุ่นของเขา เขาได้นำเอาความคิดและสถานการณ์ต่างๆ มาขยายเพิ่มเติมให้กลายเป็นเรื่องราวอัศจรรย์ แปลกประหลาดและพิสดารเหลือเชื่อ เขาเป็นคนแรกที่ออกมายอมรับว่า เขาได้รับค่าจ้างอย่างงามในการพูดเพ้อเจ้อ และค่าจ้างอย่างงามนั้นก็เป็นเพราะการพูดเพ้อเจ้อของเขาไมเหมือนกับที่พวกเราส่วนใหญ่พูด แต่มันตลกนั่นเอง
นับตั้งแต่การขึ้นเวทีแสดงครั้งแรกในละครเดี่ยวเรื่อง “Live at the Ambassadors” ที่เวสต์เอนด์ในกรุงลอนดอน เอ็ดดีก็ได้อาศัยอยู่ในโลกพิเศษสุด “ที่เต็มไปด้วยสิ่งไร้ค่าที่บรรจงสร้างสรรค์ขึ้น” ของตัวเอง หลังจากเรื่อง “Live at the Ambassadors” เขาก็มีผลงานละครอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ “Unrepeatable” ในปี 1994, “Definite Article” ในปี 1996, “Glorious” ในปี 1887, “Dress to Kill” ในปี 1998 และ “Circle” ในปี 2000 หลังจากช่วงเริ่มแรกที่เขาตระเวนแสดงในคลับคอเมดีระดับล่างของลอนดอน ตอนนี้ เอ็ดดีได้แสดงในอารีนา ซึ่งก่อนหน้านี้ เป็นสถานที่แสดงสำหรับศิลปินชั้นนำในแวดวงเพลงป๊อปและร็อค แอนด์ โรลเท่านั้น อย่างไรก็ดี ไม่ว่าเวทีจะมีขนาดเล็กใหญ่แค่ไหน เขาก็ยังคงพูดถึงเรื่องราวน่าสนใจมากมาย เช่น เทพเจ้าแห่งความโกลาหลใช้ชีวิตในคาราวานรึเปล่า ฟลิปเปอร์พูดจริงๆ หรือว่า เหมาเจ๋อตุงได้ครอบครองจีนแผ่นดินใหญ่ และเกิดอะไรขึ้นเมื่อดาร์ธเวเดอร์พยายามจะสั่งเพนเน อาร์ราเบียตาในห้องอาหารพนักงาน
การรำพึงรำพันของเอ็ดดีในหัวข้อลักษณะนี้ส่งให้เขาได้รับรางวัลชั้นนำจากไทม์ เอาท์และเพอร์เรียร์ แพแนล “Live at the Ambassadors” ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลโอลิวิเยร์ อวอร์ดสาขาผลงานโดดเด่น เขาได้รับรางวัลบริติช คอเมดี อวอร์ดสาขานักแสดงสแตนด์อัพคอเมดียอดเยี่ยมในปี 1993 และ 1996 และ “Dress to Kill” ก็ทำให้เขาได้รับรางวัลนิวยอร์ก ดรามา เดสก์และสองรางวัลเอ็มมี
แม้อิซซาร์ดจะเป็นนักแสดงตลกเลื่องชื่อ แต่เขาก็เป็นนักแสดงภาพยนตร์ ละครเวทีและละครโทรทัศน์คนสำคัญเช่นกัน ผลงานละครเวทีของเขาได้แก่ ละครของมาเมต์เรื่อง “The Cryptogram,” “900 Oneonta,” บทนำในละครของมาร์โลว์เรื่อง “Edward II” และ “A Day in the Death of Joe Egg” ในลอนดอนและบรอดเวย์ ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงการเสนอชื่อชิงรางวัลโทนีสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาคือการร่วมแสดงกับบ็อบ ฮอสกินส์และโรบิน วิลเลียมส์ในภาพยนตร์ปี 1996 เรื่อง “Secret Agent” และผลงานภาพยนตร์ที่โดดเด่นของเขาได้แก่ “The Avengers” ที่แสดงกับฌอน คอนเนรี, “Velvet Goldmine” ที่แสดงกับยวน แม็คเกรเกอร์, “All the Queen’s Men” ที่แสดงประกบแมท เลอบลังค์และ “Revengers Tragedy” ที่ร่วมแสดงกับคริสโตเฟอร์ เอ็คเคิลสตัน ในปี 2001 เอ็ดดีได้รับเสียงวิจารณ์ชื่นชมจากนักวิจารณ์ทางฝั่งอเมริกาและอังกฤษจากการแสดงบทชาร์ลี แชปลินในภาพยนตร์ของปีเตอร์ บ็อกดาโนวิชเรื่อง “The Cat’s Meow” ในปี 2004 เขาได้แสดงในภาพยนตร์เวสเทิร์นลึกลับเรื่อง “Blueberry” ร่วมกับไมเคิล แมดเซนและจูเลียต ลูอิส ก่อนที่เขาจะสร้างความสนุกสนานให้กับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ด้วยการให้เสียงภูติทรายในภาพยนตร์ดิสนีย์เรื่อง “Five Children and It” ประกบเคนเนธ บรานาห์และโซอี วันนาเมคเกอร์ และเขาก็ได้มีบทเล็กๆ ในซีเควลการหักเหลี่ยมเฉือนคมของสตีเวน โซเดอร์เบิร์กห์เรื่อง “Ocean’s Twelve” ประกบจอร์จ คลูนีย์และแบรด พิตต์
ในเร็วๆ นี้ ผู้ชมจะมีโอกาสได้เห็นเอ็ดดีแสดงความสามารถทางดนตรีของเขาใน “Romance and Cigarettes” ภาพยนตร์ผลงานการสร้างของพี่น้องโคเอน ที่กำกับโดยจอห์น เทอร์เทอร์โร และนำแสดงโดยซูซาน ซาแรนดอนและเคท วินสเต็ต เขายังจะมีผลงานในภาพยนตร์ของอีวาน รีทแมนเรื่อง “Super Ex-Girlfriend” ที่นำแสดงโดยอูมา เธอร์แมนและลุค วิลสัน และกำลังอยู่ระหว่างการถ่ายทำตอนไพล็อตให้กับเอฟเฟ็กต์ เน็ตเวิร์ค
