:: ประวัติย่อ :: ยีน แฮ็กแมน ได้รับสองรางวัลตุ๊กตาทอง : Best Actor จาก “The French Connection” และ Best Supporting Actor จาก “Unforgiven” เขายังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ จาก “Bonnie and Clyde”, “I Never Sang For My Father” และ “Mississippi Burning” รายชื่อเกียรติคุณของเขายังรวมถึงรางวัลตุ๊กตาทองของอังกฤษสองรางวัล, ลูกโลกทองคำสามรางวัล, National Organization of Theatre Owners Awards สองรางวัล, รางวัล Cannes Film Festival Best Actor Award และอีกมากมายหลายรางวัลจากบรรดากลุ่มนักวิจารณ์ชั้นนำ เขายังได้รับเกียรติมากมายจากทั้ง British Film Institute, San Francisco Film Festival และ American Film Institute ล่าสุดเขาเพิ่งได้รับ Cecile B. DeMille Award จาก Hollywood Foreign Press Association ในปี 2003 จากงานฉลองลูกโลกทองคำ
หนึ่งในบรรดาหลักการที่สร้างชื่อให้กับแฮ็กแมนกับความเป็นนักแสดงใหญ่ในรุ่นของเขานั้น คือไม่มีการทำงานในบทของยีน แฮ็กแมน บทบาทล่าสุดของแฮ็กแมนได้แก่ หัวหน้าครอบครัวเจ้าระเบียบของครอบครัวที่ไม่เป็นระบบใน “The Royal Tenenbaums” ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลลูกโลกทองคำตัวที่สาม และบทผู้บัญชาการเรือหัวรั้น ที่ใช้วิธีการซึ่งสร้างความเสียหายให้กับระบบในเรื่อง “Behind Enemy Lines” และนักตุ๋นชั่วชีวิตที่ล้มเลิกแผนการตุ๋นครั้งสุดท้าย ในหนังของเดวิด มาเหม็ด เรื่อง “The Heist” หนังเรื่องล่าสุดยังได้มอบบทนักธุรกิจผู้ต้องทนทุกข์ในเรื่องเพศในเรื่อง “Under Suspicion” และบทชายผู้ถูกบังคับให้เป็นโค้ชทีมฟุตบอลระหว่างการสไตรค์ในเรื่อง “The Replacements” คนเหลือขอที่เป็นตกเป้าหมายสำคัญของสองสาวสวยใน “Heartbreakers”
ผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของแฮ็กแมน รวมถึงบทนำในเรื่อง “Enemy of the State” แสดงกับวิล สมิธ, หนังของ โรเบิร์ต เบนตัน เรื่อง “Twilight” แสดงกับพอล นิวแมน และซูซาน ซาแรนดอน, เรื่อง “Extreme Measures” “The Birdcage” ร่วมแสดงโดยโรบิน วิลเลียมส์ และเนธาน เลน และหนังของคลินท์ อีสต์วู้ด เรื่อง“Absolute Power” ซึ่งอีสต์วู้ดร่วมแสดงด้วย
แฮ็กแมนได้รับรางวัลออสการ์ตัวที่สอง จากบทบาทนายอำเภอชั่วร้ายในเรื่อง “Unforgiven” หนังตะวันตกที่ได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง กำกับฯ และร่วมแสดงโดย คลินท์ อีสต์วู้ด และมอร์แกน ฟรีแมน เขายังแสดงในหนังตะวันตกอีกเรื่องใน “The Quick and the Dead” ร่วมกับชารอน สโตน และเรื่อง“The Crimson Tide” กับเดนเซล วอชิงตัน, และเรื่อง “Get Shorty” กับจอห์น ทราโวลต้า และแดนนี่ เดอวิโต
ก่อนหน้านี้แฮ็กแมนได้แสดงในหนังอีกสองเรื่องจากนิยายของจอห์น กริสแชม ใน “The Firm” และ “The Chamber” แฮ็กแมนเริ่มอาชีพของเขาบนเวทีละคร และมีผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกในปี1964 ในเรื่อง “Lilith” ซึ่งแสดงโดยวอเรน เบ็ตตี้ นับแต่นั้นมาแฮ็กแมนก็ได้สร้างผลงานในภาพยนตร์กว่า 70 เรื่อง ทั้งที่เป็นคอมเมดี้ไปจนถึงหนังแอ็คชั่น หนังตะวันตกไปจนถึงดราม่า ซึ่งรวมถึงหนังเรื่องดังของฟรานซิส ฟอร์ด คอพโพลา เรื่อง “The Conversation” หนังติดอันดับบ็อกซ์ออฟฟิศ “The Poseidon Adventure,” หนังได้รับรางวัลตุ๊กตาทองของวเรน เบ็ตตี้
เรื่อง “Reds,” “Scarecrow,” “Hoosiers,” “Another Woman,” “Under Fire,” “All Night Long,” “Twice in a Lifetime,” “Night Moves,” กำกับฯ โดยอาเธอร์ เพนน์, และหนัง “Superman” อีกสามเรื่องที่เขารับบทเล็กซ์ ลูเธอร์
แฮ็กแมนเกิดที่ริเวอร์ไซด์ แคลิฟอร์เนีย และโตในแดนวิลล์ อิลลินอยส์ ที่ซึ่งบิดาของเขาเป็นผู้พิมพ์หนังสือพิมพ์ เขาเข้าร่วมนาวิกโยธินเมื่ออายุ 16 และกลายเป็นเจ้าหน้าที่วิทยุ หลังจากพ้นราชการ แฮ็กแมนย้ายจากวิทยุไปยังโทรทัศน์และทำงานตามสถานีโทรทัศน์เล็กๆ หลายแห่งของเมือง ในที่สุดเขาก็กลับมายังฝั่งตะวันตก และสมัครเข้าที่ Pasadena Playhouse ซึ่งเพื่อนคนหนึ่งในชั่นเรียนคือดัสติน ฮอฟแมน ที่นัน้ แฮ็กแมนได้มีผลงานบนเวทีเรื่องแรกร่วมกับซาซู พิทส์ใน The Curious Miss Caraway
หลังจากทำงานสต้อกช่วงซัมเมอร์เสร็จสิ้น แฮ็กแมนได้ย้ายมายังนิวยอร์คเพื่อศึกษากับจอร์จ มอร์ริสัน และเริ่มได้รับบทเล็กๆ ในโทรทัศน์และเวทีละคร เขาได้รับรางวัล Clarence Derwent Award จากผลงานของ เออร์วิน ชอว์ เรื่อง “Children at Their Games” และได้แสดงบทนำเป็นครั้งแรกบนบรอดเวย์ กับแซนดี้ เดนนิส ในคอมเมดี้เรื่องฮิต “Any Wednesday” นอกเหนือจากการเป็นนักแสดง แฮ็กแมนยังเป็นนักเขียนนิยายเรื่อง Wake of the Perdido Star ซึ่งเขาเขียนกับแดเนียล เลนิแฮน แฮ็กแมนยังวาดภาพ ขับเครื่องบินและแข่งรถ นอกจากนั้นเขายังเป็นนักสะสมภาพยนตร์ตัวยง
