รถยนต์ Hybrid คือ รถที่มีแหล่งกำเนิดของพลังงานมากกว่า 1 แห่ง หรือ รถที่เกิดจากความพยายามในการรวมข้อดีและแหล่งพลังงานแต่ละชนิดเข้าด้วยกัน และหลีกเลี่ยง หรือ ขจัดข้อเสียของแต่ละพลังงานออกไป ซึ่งรถ Hybrid แต่ละประเภทแตกต่างกันอยู่บ้างเช่น ประเภทที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากับเครื่องยนต์ประเภทเผาไหม้ภายใน หรือ ใช้เครื่องยนต์กับล้อช่วยแรง หรือ มอเตอร์ไฟฟ้ากับล้อช่วยแรง หรือกังหันแก๊สกับล้อช่วยแรง เป็นต้น
ต้นกำเนิดของรถยนต์ Hybrid
โตโยต้าถือเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกของโลก ที่สามารถนำเทคโนโลยีไฮบริดมาใช้ในการผลิตเชิงพาณิชย์ หรือ MASS PRODUCTION กับการเปิดตัวรุ่นพรีอุสในปี 1997 ก่อนที่ฮอนด้าจะส่งรุ่นอินไซต์ ตามออกมาประกบในปี 1999 หลังจากนั้น ตลาดกลุ่มนี้ก็ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และมีรุ่นใหม่ๆ ถูกส่งออกมาขาย โดยมีโตโยต้าและฮอนด้าเป็น 2 ค่ายหลักที่ทำตลาด สิ่งที่ทำให้ระบบไฮบริดได้รับความนิยมก็คือ ความที่ไม่แตกต่างจากเครื่องยนต์แบบเดิมๆ มากจนเกินไป เพราะส่วนประกอบพื้นฐานของระบบไฮบริด ยังต้องใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน เป็นระบบหลักของการขับเคลื่อน แต่มีมอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่เสริมการทำงาน และแบตเตอรี่สำหรับเก็บกระแสไฟฟ้าเพิ่มเข้ามา รถยนต์ไฮบริดยังต้องเติมน้ำมันเชื้อเพลิงเหมือนกับรถยนต์ทั่วไป แต่จากการที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาช่วยทำงาน ทำให้ประหยัดน้ำมันขึ้น และมีระบบที่เข้ามาช่วยให้มีค่าลดมลพิษในไอเสียต่ำลง
อย่างไรก็ตาม รถยนต์ไฮบริดน่าจะได้รับความนิยมในวงกว้างมากกว่านี้ หากในช่วงแรกที่ถูกเปิดตัวออกมา เป็นการนำระบบไฮบริดมาติดตั้งกับรถยนต์ที่มีขายอยู่ ไม่ใช่พัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้งคันเหมือนอย่างในช่วงแรก เพราะนั่นทำให้ทั้งพริอุสและอินไซต์ มีราคาแพงจนคนที่นั่งคิดและวิตกเรื่องค่าน้ำมัน ไม่สามารถเอื้อมมือไปซื้อได้ และกลายเป็นของเล่นเศรษฐีไปโดยปริยาย จนกระทั่งฮอนด้าเปิดตลาดด้วยการนำมาวางในรถยนต์ที่มีขายอยู่ในตลาด นั่นก็คือรุ่นซีวิค จึงทำให้รถยนต์ไฮบริดเริ่มเป็นสิ่งที่คนส่วนมากสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
เครื่องยนต์ Hybrid ทำงานอย่างไร
ขณะออกรถ และใช้ความเร็วต่ำ
ระบบขับเคลื่อนจะใช้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งใช้แหล่งพลังงานมาจากแบตเตอรี่ ชนิด High Voltage Nickel Metal Hybrid (คล้ายกับแบตเตอรี่ของโทรศัพท์มือถือแต่มีประสิทธิภาพสูงกว่า) ขนาดใหญ่ อยู่ที่ห้องเก็บของด้านหลัง
ขณะที่เร่งเครื่องขับขี่ด้วยความเร็วสูง หรือขึ้นเขา
ระบบขับเคลื่อน จะใช้กำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องยนต์เบนซิน ร่วมกัน เพื่อให้กำลัง เพียงพอต่อการใช้งาน
ขณะลงเขา และขณะเบรก
ทั้ง 2 สถานการณ์นี้ระบบขับเคลื่อนจะไม่ต้องการกำลังมาใช้ในการขับเคลื่อน แต่จะเปลี่ยนกำลัง ที่ได้จากแรงเฉื่อยที่เกิดขึ้นให้กลับไปอยู่ในรูปไฟฟ้า และนำไปสำรองไว้ในแบตเตอรี่แทน
ขณะจอดรถ
เครื่องยนต์จะถูกดับโดยอัตโนมัติ
ข้อดีของรถยนต์ Hybrid
จากระบบการทำงานดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ข้อดีของเครื่องยนต์ชนิดนี้มีมากมาย ไม่เฉพาะ ช่วยลดมลภาวะแต่ช่วยประหยัด และให้ความสะดวกสบายในการใช้งานด้วยดังนี้
ช่วยลดมลภาวะ
เนื่องจากภาระของเครื่องยนต์เบนซินลดลงกว่าครึ่งโดยการใช้มอเตอร์ไฟฟ้ามาช่วยส่งกำลังแทนไอเสียที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงจึงลงด้วย จากการทดสอบจริงด้วยรูปแบบการขับขี่ 10/15 (รูปแบบจำลองการขับขี่ในเมืองที่ใช้ในการทดสอบของญี่ปุ่น) ก๊าซพิษที่สำคัญทั้ง 3 ตัว (CO,HC & NOx) มีปริมาณเพียง 1 ใน 10 ของเครื่องยนต์ทั่วไปเท่านั้น รวมทั้งสามารถลด ก๊าซ CO2 ลงได้ถึง 50 % เลยทีเดียว
ช่วยประหยัดน้ำมัน
เนื่องจากภาระของเครื่องยนต์เบนซินลดลงกว่าครึ่งจึงประหยัดน้ำมันได้กว่าครึ่งด้วยจากการทดสอบ ด้วยรูปแบบ 10/15 รถรุ่นนี้ ( เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ) จะวิ่งได้ประมาณ 14 ก.ม./ลิตร
ใช้งานได้สะดวก
เนื่องจากการประจุไฟจะเกิดขึ้นในขณะใช้งาน ( ทั้งขณะวิ่งลงทางลาด และ ขณะเบรก ) จึงไม่จำเป็นต้องจอดรถเพื่อชาร์ทแบตเตอรี่เหมือนรถไฟฟ้าทั่วไป
ลดเสียง
นอกเหนือจากหัวข้อที่กล่าวแล้ว ประโยชน์ทางอ้อมที่ได้รับคือ เสียงการทำงานของเครื่องจะน้อยลงด้วย
ข้อมูลจาก Internet
เรียบเรียงโดย Sanook! Guru