หัด เป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายและมีความรุนแรง โดยเฉพาะในเด็กพบมากในอายุ 2-14 ปี อาการในระยะแรกมีอาการคล้ายไข้หวัด แตกต่างกันที่ผู้ป่วยจะมีไข้สูงอยู่ตลอดเวลาแม้ว่าได้รับประทานยาลดไข้ไปแล้ว
หัด หัดเป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายและมีความรุนแรง โดยเฉพาะในเด็กพบมากในอายุ 2-14 ปี มักไม่พบในทารกอายุต่ำกว่า 6-8 เดือน เนื่องจากยังมีภูมิคุ้มกันที่ได้รับจากมารดาตั้งแต่อยู่ในครรภ์ โรคหัดเกิดจากเชื้อไวรัสหัด ซึ่งมีอยู่ในน้ำมูกและน้ำลายของผู้ป่วย ติดต่อโดยการหายใจรดกัน หรือโดยการสัมผัสถูกมือ หรือสิ่งของเครื่องใช้ที่เปี้อนโรค เช่นเดียวกับการติดต่อของโรคไข้หวัด ระยะฟักตัวของโรคใช้เวลา 9-11 วัน
อาการ
ในระยะแรกมีอาการคล้ายไข้หวัด แตกต่างกันที่ผู้ป่วยจะมีไข้สูงอยู่ตลอดเวลาแม้ว่าได้รับประทานยาลดไข้ไปแล้ว ผู้ป่วยเด็กจะซึม กระสับกระส่าย เบื่ออาหาร มีน้ำมูกใสๆ ไอแห้งๆ น้ำตาไหล ตาแดง ไม่สู้แสง หนังตาบวม อาจมีอาการถ่ายเหลวบ่อยครั้งเหมือนท้องเดินในระยะก่อนผื่นขึ้น หรืออาจมีอาการชักจากไข้สูง ภายใน 1-2 วัน จะมีจุดสีขาวขนาดเล็กคล้ายเม็ดทรายบริเวณกระพุ้งแก้ม เรียกว่า จุดคอปลิก ลักษณะเฉพาะของหัดคือ จะมีผื่นขึ้นหลังมีไข้ 3-4 วัน อาการไข้สูงสุดในระยะใกล้ๆ มีผื่นขึ้นและจะเริ่มลดเมื่อผื่นขึ้นแล้ว ไข้มักจะเป็นอยู่นานประมาณ 1 สัปดาห์
ภาวะแทรกซ้อนมักพบในเด็กที่ขาดอาหารหรือมีร่างกายอ่อนแอ ที่พบบ่อยได้แก่ ปอดอักเสบ ท้องเดิน ซึ่งพบหลังผื่นขึ้นและไข้เริ่มทุเลาลงแล้ว อาจพบหูชั้นกลางอักเสบ ปากเปี่อย หลอดลมอักเสบ เยื่อตาขาวอักเสบ ที่รุนแรงมากแต่พบได้น้อยคือ สมองอักเสบ นอกจากนี้ยังทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง มีโอกาสเป็นวัณโรคปอดได้ง่ายขึ้น
ข้อแนะนำ
- ควรแยกเด็กออกต่างหาก อย่าให้คลุกคลีกับเด็กอื่นเป็นเวลา 1 สัปดาห์นับแต่มีผื่นขึ้น
- โรคนี้ส่วนใหญ่หายได้เอง ส่วนน้อยที่มีภาวะแทรกซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าพบในผู้ใหญ่ มักมีความรุนแรงมากกว่าเด็ก
- โรคนี้ไม่มีอาหารแสลง ควรให้เด็กรับประทานอาหารจำพวกเนื้อ นม ไข่ ถั่วต่างๆ ซึ่งจะทำให้เด็กมีความต้านทานโรค
- โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสที่สามารถแพร่กระจายรวดเร็ว เด็กที่ไม่เคยออกหัดจึงมีโอกาสเป็นกันทุกคน เมื่อเป็นแล้วมักมีภูมิคุ้มกันไปจนตลอดชีวิต จะไม่เป็นซ้ำอีก