ความรู้ เกร็ดความรู้ สารานุกรม สารานุกรมออนไลน์ ความรู้รอบตัว ความรู้ทั่วไป พจนานุกรม เกมส์ เพลงใหม่ เพลง

การดูแลการฝากครรภ์และคลอดบุตร, การดูแลการฝากครรภ์และคลอดบุตร หมายถึง, การดูแลการฝากครรภ์และคลอดบุตร คือ, การดูแลการฝากครรภ์และคลอดบุตร ความหมาย, การดูแลการฝากครรภ์และคลอดบุตร คืออะไร
| เปิดอ่าน 0 | ความคิดเห็น 0
การดูแลการฝากครรภ์และคลอดบุตร

ทำำไมต้องฝากครรภ์
        การฝากครรภ์มีความสำคัญมากสำหรับคุณแม่ เพราะจุดมุ่งหมาย ในการฝากครรภ์นั้นเพื่อให้แน่ใจว่าคุณแม่และทารกใน ครรภ์ยังคงมีสุขภาพดี แข็งแรงตลอดการตั้งครรภ์ หากมีปัญหาหรือสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นในระหว่างนั้น คุณแม่จะได้รีบปรึกษาคุณหมอและเข้ารับการรักษาได้ทันท่วงที
        การทราบล่วงหน้าว่ามารดาหรือทารกมีความเสี่ยงด้านสุขภาพจะทำให้แพทย์สามารถแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม เช่น การดูแลครรภ์อย่างใกล้ชิด กำหนดวิธีคลอด และระยะเวลาที่จะคลอด รวมทั้งการดูแลหลังคลอด ตัวอย่างแม่ที่อายุมาก มีโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม หรือการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ ก็อาจต้องตรวจหาความผิดปกติของทารก ถ้าทารกมีขนาดใหญ่มากหรือแม่มีเชิงกรานแคบ อาจต้องวางแผนทำการผ่าตัดคลอด ถ้าเลือดแม่กับลูกเข้ากันไม่ได้ ก็ต้องเตรียมการถ่ายเลือดภายหลังคลอด เป็นต้น
        หญิงมีครรภ์ต้องมีความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตนด้านโภชนาการ การใช้ยาต่างๆ เพศสัมพันธ์ การเตรียมตัวสำหรับการคลอด และการให้นมบุตร รวมทั้งการวางแผนครอบครัวหลังจากคลอดบุตรแล้ว นอกจากนั้นยังต้องรู้จักสังเกตความผิดปกติของการตั้งครรภ์และอาการเจ็บครรภ์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้หญิงมีครรภ์จะได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือพยาบาลเมื่อมาฝากครรภ์

การตรวจสุขภาพของมารดาและทารกเมื่อได้รับการฝากครรภ์
        เมื่อหญิงมีครรภ์มาฝากครรภ์ แพทย์จะซักประวัติ ตรวจร่างกาย และตรวจทางห้องปฏิบัติการที่จำเป็น แพทย์จะซักประวัติการขาดประจำเดือน โรคประจำตัวต่างๆ การตั้งครรภ์และการคลอดในอดีต ตลอดจนสภาวะของทารกในครรภ์ก่อนๆ เพื่อวินิจฉัยว่ามีการตั้งครรภ์และค้นหาสภาวะที่ต้องระวังสำหรับการตั้งครรภ์ครั้งนี้
        การตรวจร่างกายโดยละเอียด จะทำให้แพทย์ทราบถึงสุขภาพของหญิงมีครรภ์ การตรวจขนาดของมดลูกจะสามารถบอกสภาวะของเด็ก เช่น ถ้ามดลูกเล็กกว่าที่ควรอาจเป็นเพราะเด็กไม่หรือพิการ แต่ถ้ามดลูกใหญ่อาจเป็นเพราะเด็กตัวใหญ่เกินไป เป็นเด็กแฝด หรือมีปริมาณน้ำคร่ำมากผิดปกติ
        นอกจากนั้นการตรวจครรภ์ยังสามารถบอกท่าของเด็กที่อยู่ในครรภ์ และการฟังเสียงหัวใจเด็กก็ช่วยบอกว่าเด็กยังมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตแล้ว
        การตรวจทางห้องปฏิบัติการบางอย่างจำเป็นต้องทำเมื่อมีการตั้งครรภ์ เช่น การตรวจปัสสาวะเพื่อยืนยันการตั้งครรภ์ ตรวจความเข้มข้นของเลือด เพราะทารกต้องใช้ธาตุเหล็กจากแม่เพื่อการสร้างเลือด จึงอาจทำให้แม่มีสภาวะโลหิตจางได้ และการตรวจไข่ขาวในปัสสาวะเพื่อค้นหาความผิดปกติของไตหรือสภาวะครรภ์เป็นพิษ (pre-eclampsia)
        การตรวจน้ำเหลืองเพื่อดูภูมิคุ้มกันต่อเชื้อซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบชนิดบี และเอชไอวี ก็มีความจำเป็น ซึ่งถ้าเป็นบวกแพทย์จะต้องวางแผนป้องกันการถ่ายทอดโรคจากมารดาไปสู่ทารก
        บางกรณีอาจต้องมีการตรวจพิเศษ เช่น การตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (อัตราซาวนด์) เพื่อดูอายุครรภ์ที่แน่นอน ดูความผิดปกติของทารก เช่น ความพิการต่างๆ รวมทั้งการเต้นของหัวใจ เพื่อประเมินว่าเด็กมีชีวิตหรือไม่

การเฝ้าติดตามพัฒนาการของทารกในครรภ์
        การเจริญเติบโตของทารกในครรภ์สามารถประเมินได้จากขนาดของมดลูกที่ใหญ่ขึ้นเป็นสัดส่วนกับอายุครรภ์ และน้ำหนักของแม่ที่เพิ่มขึ้น
        สามเดือนแรกของการตั้งครรภ์ มดลูกจะอยู่ในอุ้งเชิงกราน อายุครรภ์ครบห้าเดือน ยอดมดลูกอยู่ที่ระดับสะดือ และอยู่เกือบถึงลิ้นปี่เมื่อครรภ์ครบกำหนด
        ส่วนน้ำหนักของแม่ในสามเดือนแรกของการตั้งครรภ์จะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย เพราะหญิงมีครรภ์มักมีอาการคลื่นไส้อาเจียนและรับประทานอาหารได้น้อย หลังจากนั้นน้ำหนักจะเพิ่มขึ้นเป็นลำดับประมาณเดือนละ 1-1.5 กิโลกรัม โดยตลอด การตั้งครรภ์น้ำหนักของแม่จะเพิ่มขึ้นประมาณ 10-12 กิโลกรัม ทั้งนี้เป็นส่วนของเด็ก รก และน้ำคร่ำประมาณ 5 กิโลกรัม เป็นส่วนของมดลูกและส่วนอื่นของแม่อีก 7 กิโลกรัม
        กรณีที่น้ำหนักของแม่เพิ่มน้อย หยุดเพิ่ม หรือน้ำหนักลดลง รวมทั้งยอดมดลูกไม่สูงขึ้น อาจแสดงถึงความผิดปกติของทารกในครรภ์ เช่น เด็กโตช้าหรือเด็กเสียชีวิตในครรภ์ ซึ่งจะต้องมีการตรวจและเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนกรณีตรงกันข้ามอาจเกิดจากครรภ์แผด น้ำคร่ำมากผิดปกติ หรือมีเนื้องอกของมดลูกและรังไข่ ซึ่งจำเป็นต้องวินิจฉัยสาเหตุที่แน่นอนเช่นกัน

สิ่งที่หญิงมีครรภ์ควรสังเกตและระมัดระวัง
        ยาหลายชนิดมีอันตรายต่อทารกในครรภ์ ทำให้เกิดความพิการชนิดต่างๆ การเจริญเติบโตช้า หรือสมองเสื่อม ดังนั้นการใช้ยาขณะตั้งครรภ์โดยเฉพาะในช่วงสามเดือนแรกควรปรึกษาแพทย์ก่อน
        บุหรี่ ทำให้ทารกมีน้ำหนักน้อย แม่จึงควรหยุดสูบบุหรี่เมื่อตั้งครรภ์ สุราก็ทำให้เด็กซึมและดิ้นน้อยลง จึงอาจมองข้ามความผิดปกติอย่างอื่นของเด็ก
        การดิ้น แสดงถึงความแข็งแรงของทารก ถ้าทารกดิ้นน้อยลงหรือหยุดดิ้นต้องรีบไปพบแพทย์
        การบวม โดยเฉพาะการบวมทั้งตัว มักแสดงถึงพยาธิสภาพของไตหรือภาวะครรภ์เป็นพิษ จึงควรมารับการตรวจเพิ่มเติมเพื่อวินิจฉัยโรคให้แน่ชัด ถ้ามีสภาวะครรภ์เป็นพิษต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ
        น้ำเดิน เกิดจากการที่ถุงน้ำคร่ำรั่วหรือแตกซึ่งควรจะมีลักษณะเป็นน้ำใสๆ ไม่ใช่มูก ถ้ามีน้ำเดินและยังไม่มีการเจ็บครรภ์ภายใน 24 ชั่วโมง ควรพบแพทย์เพื่อดูแลรักษาในโรงพยาบาลเพราะอาจเกิดการติดเชื้อในแม่และทารก หรือทารกเสียชีวิตได้
        อาการเลือดออกเล็กน้อย โดยเฉพาะที่มีมูกปน มักเป็นอาการนำของการเจ็บครรภ์คลอด แต่ถ้าเลือดออกมาก ไม่ว่าจะเป็นช่วงครรภ์ก่อนครบกำหนดหรือครบกำหนดแล้ว และจะร่วมกับการเจ็บครรภ์หรือไม่ก็ตาม ต้องรีบมาพบแพทย์เพราะอาการดังกล่าวอาจเกิดจากสภาวะรกเกาะต่ำหรือรกลอกตัวก่อนกำหนด ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรงต่อชีวิตของแม่และทารก
        ในเดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์หญิงบางคนจะมีอาการเจ็บครรภ์เพราะมดลูกรัดตัว แต่ไม่สม่ำเสมอและอาการปวดมักจะอยู่บริเวณท้องน้อยหรือขาหนีบ อาการเจ็บครรภ์แบบนี้เรียกว่าเจ็บเตือน ซึ่งจะหานไปเมื่อได้หลับพักผ่อน แต่ถ้าอาการเจ็บเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ถี่ขึ้น และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ควรรีบไปโรงพยาบาล เพราะกระบวนการคลอดได้เริ่มขึ้นแล้ว

ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลพญาไท
แหล่งที่มา : https://www.phyathai.com

การดูแลการฝากครรภ์และคลอดบุตร, การดูแลการฝากครรภ์และคลอดบุตร หมายถึง, การดูแลการฝากครรภ์และคลอดบุตร คือ, การดูแลการฝากครรภ์และคลอดบุตร ความหมาย, การดูแลการฝากครรภ์และคลอดบุตร คืออะไร

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

คำยอดฮิต

Sanook.commenu