ความรู้ เกร็ดความรู้ สารานุกรม สารานุกรมออนไลน์ ความรู้รอบตัว ความรู้ทั่วไป พจนานุกรม เกมส์ เพลงใหม่ เพลง

คำแนะนำพิเศษในการใช้ยา, คำแนะนำพิเศษในการใช้ยา หมายถึง, คำแนะนำพิเศษในการใช้ยา คือ, คำแนะนำพิเศษในการใช้ยา ความหมาย, คำแนะนำพิเศษในการใช้ยา คืออะไร
| เปิดอ่าน 0 | ความคิดเห็น 0
คำแนะนำพิเศษในการใช้ยา

ยาที่รับประทานก่อนอาหาร
          ควรรับประทานก่อนอาหาร 1/2 -1 ชั่วโมง เนื่องจากอาหารอาจลดการดูดซึม หรือยับยั้งให้ยาบางชนิดออกฤทธิ์น้อยลง เช่น ยาปฏิชีวนะต่าง ๆ ยาบางอย่างต้องการให้ออกฤทธิ์ก่อนอาหารเพื่อผลต่อระบบทางเดินอาหาร เช่น ยาแก้อาเจียน หรือในกรณียาเบาหวานบางชนิดที่ต้องรับประทานก่อนอาหารเพื่อให้การดูดซึมและการออกฤทธิ์มีความสัมพันธ์กับการลดระดับน้ำตาลในเลือด

ยาที่รับประทานหลังอาหาร 
          โดยทั่วไปควรรับประทานหลังอาหาร 15 – 30 นาที ยกเว้น ยาที่ระบุให้รับประทานหลังอาหารทันที

ยาที่รับประทานหลังอาหารทันที หรือ พร้อมอาหาร 
          ยาบางชนิดทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร อาจทำให้คลื่นไส้อาเจียนได้ การรับประทานหลังอาหารทันทีหรือพร้อมอาหารเพื่อลดปัญหาดังกล่าว เช่น Prednisolone , Aspirin เป็นต้น หรือในกรณียาเบาหวานบางชนิดรับประทานพร้อมอาหารเพื่อช่วยลดการดูดซึมน้ำตาล

ยาที่ใช้เฉพาะเมื่อมีอาการ 
          เป็นยาที่ใช้บรรเทาอาการต่าง ๆ เช่น ยาแก้ไอ , ยาแก้ไข้ , ยาแก้ท้องเสีย แพทย์อาจสั่งให้รับประทานเป็นช่วง ๆ เช่น ทุก 4 ชั่วโมง เวลามีอาการ เมื่อมีอาการทุเลาลงจึงหยุดยาได้ ไม่จำเป็นต้องรับประทานต่อเนื่อง

ยาที่ควรดื่มน้ำตามมาก ๆ 
          ยาพวก ซัลฟา ละลายน้ำได้น้อยมากอาจตกตะกอนในไต การดื่มน้ำตามมาก ๆ จะช่วยเพิ่มการละลายน้ำได้ หรือยาถ่ายที่ทำให้เพิ่มกากอุจจาระ หรือที่ทำให้อุจจาระนิ่ม ควรดื่มน้ำตามมากๆ

ยาที่ห้ามรับประทานร่วมกับเหล้า หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ 
          เช่น ยาปฏิชีวนะบางชนิด , ยาลดน้ำตาลในเลือด, ยาระงับประสาท , ยานอนหลับ , ยาแก้ปวด หรือ ยากดประสาทต่าง ๆ ตลอดจนยาแก้แพ้ จะเสริมฤทธิ์กับแอลกอฮอล์ทำให้เกิดอันตรายได้

ยาที่ไม่ควรกินพร้อมกับยาลดกรดและห้ามเคี้ยว 
          ยาเม็ดเคลือบ เช่น Bisacodyl , Diclofenac เพื่อไม่ให้ฤทธิ์ของยาเปลี่ยนแปลงไป

ยาที่มีอันตรายควรแนะนำเพิ่ม 
          เช่น Fosamax
          •
ควรรับประทานยานี้พร้อมน้ำเปล่า 1 แก้วเต็มก่อนอาหารเช้าอย่างน้อย ครึ่ง ชั่วโมง 
          • ไม่ควรรับประทานยานี้พร้อมกับเครื่องดื่มใด ๆ เช่น ชา , กาแฟ , นม และยาอื่น 
          • ห้ามนั่งเอนตัวหรือนอนอย่างน้อย 30 นาที จนกว่าจะรับประทานอาหารเช้า 
          • ไม่ควรรับประทานยาก่อนนอน หรือ ขณะนอนอยู่ 

ยาที่รับประทานแล้วทำให้ง่วงซึม 
          เช่น ยาแก้แพ้ , ยานอนหลับ , ยาแก้ปวดบางชนิด อาจทำให้ง่วงนอนหรือมึนงง ผู้ใช้ยาควรระวังในการขับรถหรือใช้เครื่องจักรกล

ยาที่รับประทานแล้วปัสสาวะจะมีสีส้มแดง 
          เช่น ยาพวก Phenazopyridine ทำให้ปัสสาวะมีสีแดงอาจเข้าใจผิดว่าเป็นเลือด แต่แท้จริงเป็นสีจากยา หรือยา Rifampicin ทำให้น้ำลาย น้ำตา ปัสสาวะมีสีส้มแดง

ยาที่ควรเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืนแล้วดื่มน้ำตาม 
          ยาลดกรดชนิดเม็ด ยาแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ หรือยาถ่ายพยาธิบางชนิด ต้องเคี้ยวก่อนเพื่อให้ยากระจายตัวในกระเพาะอาหารและออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น

ยาที่ไม่ควรกินเกิน 6 เม็ด 
         
ภายใน 24 ชม. หรือไม่ควรกินเกิน 10 เม็ด ภายในหนึ่งสัปดาห์

ยารักษาไมเกรน เช่น Cafergot

ยาที่ใช้อมใต้ลิ้น เช่น Isosorbide dinitrate

ยาที่ต้องละลายหรือผสมยาในน้ำก่อนรับประทาน 
          •
ผงเกลือแร่ ORS 
          • ยาละลายเสมหะ เช่น Fluimucil 
          • ยาระบาย เช่น Metamucil 
          • ยาแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ เช่น Eno

ยาที่ห้ามเคี้ยว
          - รูปแบบยาเม็ดเคลือบ เช่น Diclofenac
          - รูปแบบยาออกฤทธิ์เนิ่น เช่น Theophylline เพื่อไม่ให้ฤทธิ์ของยาเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
          

ยาที่ควรเก็บไว้ในตู้เย็นแต่ห้ามแช่แข็ง 
          
โดยทั่วไปหมายถึงการเก็บที่อุณหภูมิ 2 – 8 C* ( แช่ในช่องธรรมดาไม่ต้องใส่ในช่องทำน้ำแข็ง ) หรือเก็บในกระติกน้ำแข็งตลอดเวลา ใช้สำหรับยาที่สลายตัวได้ง่ายเมื่อเก็บที่อุณหภูมิห้อง เช่น ยาอินซูลิน วัคซีน หรือยาหยอดตาบางชนิด

ข้อแนะนำวิธีการใช้ยาเหน็บทวารหนัก
          • ล้างมือให้สะอาด 
          • ถ้ายาเหน็บนิ่มให้แช่ยาในตู้เย็นก่อนหรือแช่ในน้ำเย็นก็ได้เพื่อยาเข็งตัวและสอดได้ง่ายขึ้น 
          • แกะยาออกจากกระดาษห่อ 
          • นอนตะแคงโดยให้ขาล่างเหยียดตรงและงอขาข้างบนขึ้นจนหัวเข่าจรดกับหน้าอก 
          • สอดยาเหน็บเข้าไปในทวารหนักโดยเอาด้านที่มีปลายแหลมกว่าเข้าไปก่อนโดยใช้นิ้วดันยาเข้าไปอย่างช้า ๆ และเบา ๆ พยายามสอดให้ลึกที่สุดเพื่อไม่ให้ยาเหน็บไหลออกมา 
          • นอนในท่าเดิมสักครู่ประมาณ 15 นาที ถ้าเป็นยาระบายให้นอนท่าเดิม ไม่ต่ำกว่า 15 นาที จึงจะลุกไปถ่ายอุจจาระ

ข้อแนะนำวิธีใช้ยาเหน็บช่องคลอด
          •
ล้างมือให้สะอาด 
          • แกะยาออกจากกระดาษห่อแล้วจุ่มยาในน้ำสะอาดพอชื้นประมาณ 1-2 วินาที 
          • นอนหงายเอนหลังแต่ไม่ถึงกันนอนราบกับพื้น ชันเข่าขึ้นและแยกขาออก 
          • เหน็บยาเข้าในช่องคลอด.โดยใช้นิ้วช่วยดันยาเข้าไปให้ลึกที่สุดนอนที่เดิมสักครู่ไม่ต่ำกว่า 15 นาที


คำแนะนำพิเศษในการใช้ยา, คำแนะนำพิเศษในการใช้ยา หมายถึง, คำแนะนำพิเศษในการใช้ยา คือ, คำแนะนำพิเศษในการใช้ยา ความหมาย, คำแนะนำพิเศษในการใช้ยา คืออะไร

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

คำยอดฮิต

Sanook.commenu