เรื่องน่ารู้ประเทศบราซิล
• เมืองหลวงของรัฐคือ เมืองเซาเปาโล เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ของโลก มีประชากรมากกว่า 70 เชื้อชาติพำนักอยู่ในปัจจุบัน ร้อยละ 31 ของ GDP ของบราซิลมาจากประชากรในเมืองเซาเปาโล
• เมืองเซาเปาโลเป็นเมืองที่มีชาวญี่ปุ่นพำนักอาศัยอยู่มากเป็นอันดับหนึ่ง (สถิติเทียบกับจำนวนชาวญี่ปุ่นที่พำนักอยู่นอกญี่ปุ่นในเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก) สำหรับชาวยุโรป นั้น ชาติที่อาศัยอยู่ในเมืองเซาเปาโลมากที่สุด คือ อิตาลี เยอรมนี และสเปน ตามลำดับ
• รายได้ประชากรต่อคนในเมืองเซาเปาโล สูงกว่ารายได้ประชากรต่อคนในเมืองอื่น ๆ ในประเทศบราซิลถึงร้อยละ 75
• ในปี 2553 บราซิลมีเศรษฐีระดับพันล้านที่มีชื่อติดอยู่ในการจัดลำดับของนิตยสาร Forbes รวม 18 คน
• เมืองเซาเปาโลเป็นศูนย์กลางที่สำคัญด้าน private banking และการบริหารจัดการทรัพย์สิน (asset management) โดย BM&FBovespa คือ ตลาดหลักทรัพย์บราซิลที่มีมูลค่าการค้าขายหลักทรัพย์มากเป็นอันดับ 2 ของโลก และเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนการลงทุนดีที่สุดในโลกเมื่อปี 2552
• ปัจจุบัน รัฐบาลบราซิลกำลังเร่งดำเนินโครงการลงทุนขนาดใหญ่เพื่อปรับปรุงอาคารที่อยู่อาศัย ศูนย์รวมการแสดงทางวัฒนธรรมและงานภูมิสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะในบริเวณ Nova Luz ซึ่งรัฐบาลใช้เงินลงทุนไปแล้วกว่า 325 ล้านยูโร (หรือ 13.3 หมื่นล้านบาทโดยประมาณ) ตลอดจนโครงการทำนุบำรุงอาคารที่ทรงคุณค่าด้านสถาปัตยกรรม เช่น Sala Sao Paulo ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1938 และการปรับเปลี่ยนพื้นที่ยาว 75 กิโลเมตรริมแม่น้ำ Tietê ให้เป็นสวนสาธารณะ พร้อมมีเส้นทางสำหรับการขี่จักรยานได้ยาวรวมกันทั้งสิ้น 230 กิโลเมตร อีกทั้งรัฐบาลยังได้พิ่มการลงทุนกว่า 700 ล้านยูโร (หรือ 28.5 หมื่นล้านบาท) เพื่อปรับปรุงระบบการระบายน้ำฝนในพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำ
• ปัญหาที่รุนแรงที่สุดในเมืองเซาเปาโลในปัจจุบัน คือ ปัญหาการจราจรที่ติดขัด รัฐบาลจึงกำลังเพิ่มเลนในถนนเส้นที่การจราจรติดขัดที่สุด คือ Marginal Tietê Motorway มีช่วงความยาว 23 กิโลเมตร โดยหวังว่าจะช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางได้ร้อยละ 30 ประหยัดน้ำมันได้ 1.5 ล้านลิตร และลดชั่วโมงการทำงานที่สูญเสียไปเนื่องจากการจราจรติดขัด 1.7 ล้านชั่วโมงต่อปี
• ด้วยปัญหาการจราจรในปัจจุบัน ทำให้เมืองเซาเปาโลเป็นเมืองที่มีการใช้เฮลิคอปเตอร์สูงที่สุดในโลก มากกว่าทั้งลอสแองเจลิสและนิวยอร์ก ปัจจุบันมีจำนวนเฮลิคอปเตอร์ของเอกชนในเมืองเซาเปาโลรวม 410 ลำ มีที่จอดสำหรับเฮลิคอปเตอร์โดยเฉพาะในเขตเซาเปาโลรวมกว่า 500 ที่ มีบริษัทเอกชนที่ให้บริการเช่าเครื่องเฮลิคอปเตอร์สำหรับนักท่องเที่ยวระหว่างที่พักและสนามบินโดยเฉพาะ
• อุตสาหกรรมแฟชั่นบราซิลในปัจจุบันนำรายได้ร้อยละ 3 ให้กับ GDP รวมของบราซิล แต่ร้อยละ 95 ของสินค้าแฟชั่นที่ผลิตในบราซิล เป็นการผลิตเพื่อใช้ภายในประเทศ อุปสรรคสำคัญของผู้ประกอบการในธุรกิจประเภทนี้ คือ ภาษีที่สูงมากและกฎหมายแรงงานที่ทำให้ต้นทุนธุรกิจแฟชั่นสูง อย่างไรก็ดี ตลาดสินค้าระดับไฮเอนด์ เช่น แอร์เมส กุชชี่ ได้เติบโตขึ้นกว่าร้อยละ 22 และป็นที่คาดการณ์ว่า มูลค่าการค้าปลีกในบราซิลจะเพิ่มขึ้นจาก 541 พันล้านยูโร ในปีนี้ เป็น 792 พันล้านยูโรในอีก 4 ปีข้างหน้า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะวัฒนธรรมชาวบราซิลที่นิยมการแต่งตัน และที่สำคัญ คือ การที่กลุ่มชนชั้นกลางใบราซิลกำลังจะเพิ่มขึ้นจาก 50 ล้านคน เป็น 80 ล้านคนภายในศตวรรษหน้า
• ตัวอย่างสินค้าบราซิลที่เป็นที่รู้จักดี คือ Erva Mate tea, Diletto (ไอศกรีมรส Pistachio), ขนมปังกรอบตรา Vale D’ouro Papa-Ovo mandioca, รองเท้าแตะ Havaianas
• อสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจอีกประเภทหนึ่งที่ทำรายได้มหาศาลแม้ค่าครองชีพในเมืองเซาเปาโลจะจัดว่าสูง และเชื่อว่าจะสูงเทียบเคียงได้กับในนครนิวยอร์กและกรุงโตเกียวในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ปัจจุบันมีโครงการด้านอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดตัวใหม่เฉพาะในเมืองเซาเปาโลกว่า 31,500 โครงการในปี 2552
• ตัวอย่างบริษัทสถาปนิกและดีไซเนอร์ในบราซิลที่น่าจับตามอง – Paulo Mendes da Rocha, Ruy Ohtake, Macio Kogan, MMBB, SPBR, Claudia Moreira Salles, Hugo França, Sergio Rodrigues, Lina Bo Bardi, Joaquim Tenreiro
• สถานที่ท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรมที่น่าสนใจในเมืองเซาเปาโล 10 แห่งที่คุณไม่ควรพลาด – Brazillian Museum of Sculpture, Sao Paulo Museum of Art, Museum of Image and Sound, Ibirapuera Biennale Complex, Gardens of the Fundação Maria Luisa e Oscar Americano, Instituto Tomie Ohtake Cultural Centre, Cathedral da Sé, Pinacoteca do Estado, Museu Afro Brasil, Roberto Burle Marx’s landscaping ในเขต Ibirapuera (มีลักษณะคล้ายสวนสาธารณะ Central Park ในนครนิวยอร์ก)
• ร้านอาหารเด่น 10 แห่งในเมืองเซาเปาโล – Kinoshita, Dalva e Dito, Mani, La Frontera, Arturito, Ici Bistro, Rota do Acaraje, Mocoto, Spot และ Lorena 1989
วัฒนธรรมประเทศบราซิล
ศิลปะทางดนตรี
วัฒนธรรมของประชากรบราซิล จะต่างกันแต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ ความรักดนตรีจะฝังอยู่ในสายเลือดของชาวบราซิลเลียน มานาน เพราะพวกเขาจะรักดนตรีเป็นชีวิตจิตใจ ดนตรีจึงมีวิวัฒนาการเรื่อย ๆ บราซิล จะรับเอาวัฒนธรรมของแอฟริกา เอาไว้มาก ลักษณะการร้องรำทำเพลงและจังหวะกลองเป็นเครื่องดนตรีหลัก การเต้นรำและเสียงดนตรีจึงเป็นศิลปะที่โดดเด่นที่สุดของบราซิล ชาวบราซิลเป็นคนเปิดเผย เป็นมิตรกับคนง่าย รักสนุก ลักษณะเด่นที่เป็นธรรมชาติคือเวลาพูดจะเคลื่อนไหวร่างกายไปด้วย ภาษาท่าทาง บางครั้งใช้แทนคำพูดได้ เช่น เมื่อยกนิ้วหัวแม่มือขึ้น หมายถึงตกลงหรือขอบคุณ และอาจเป็นคำพูดที่ทักทายเมื่อพบกับ
แซมบา (Samba)
แซม บา เป็นดนตรีที่มีลักษณะผสมผสาน กันจากชน 3 ทวีป ที่มาอยู่ในบราซิล คือการร้องเพลงแบบโบเลโร ของสเปน จังหวะกลองของแอฟริการและการเต้นรำจะเป็นแบบชาวลาตินอเมริกัน ซึ่งรวม 3 อย่างเข้าด้วยกันแล้วจะสนุกสนานทั้งคนเต้นและคนฟัง ซึ่งดนตรีแซมบา เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมสูงสุด
บอสซาโนวา (Bossanova)
เป็น จังหวะดนตรีที่มีวิวัฒนาการมาจากแซมบา นอกจากแซมบาและบอสซาโนวา ยังมีดนตรีที่เป็นที่นิยมกันในปัจจุบัน คือ แรมบาดา (Lambada) จังหวะดนตรีจะสนุกสนามด้วยจังหวะกลองของชาวแคริเบียน
บราซิลมีเทศกาลที่ น่าสนใจและยิ่งใหญ่ 2 งานด้วยกัน งานแรกคือ งานคานิวัล ที่ ลิโอ เดอ จาเนโร จะจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ งานที่สอง งานคานิวัล ที่ เบเฮีย จะจัดขึ้นหลังเทศกาล คริสมาสต์ ช่วงเดือนธันวาคม - มีนาคม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก aspa.mfa.go.th กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ Regional Policy Unit กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ 18 พฤศจิกายน 2553, webhtml.horhook.com
ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.gettyimages.com
ติดตามข่าวบอลโลก 2014 โปรแกรมบอลโลก ผลบอลโลก ได้ที่
https://sport.sanook.com/worldcup
