
08 กันยายน พ.ศ.2437 : แฮร์มันน์ วอน เฮล์มโฮลทซ์ แพทย์และนักฟิสิกส์ชาวเยอรมันเสียชีวิต
แฮร์มันน์ วอน เฮล์มโฮลทซ์ (Hermann Ludwig Ferdinand von Helmholtz) แพทย์และนักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน เสียชีวิต เฮล์มโฮลทซ์เกิดที่เมืองโพตส์ดาม เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2364 พ่อเป็นครูสอนภาษาเยอรมัน ปรัชญา คณิตศาสตร์ และฟิสิกส์ ที่โรงเรียนมัธยมในเมือง ตอนเด็ก ๆ เขาชอบวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ และสามารถสอบชิงทุนได้เรียนแพทย์ที่ Friedrich Wilhelm Institute of Medicine and Surgery นอกจากตั้งในเรียนในสายวิทยาศาสตร์อย่างจริงจังแล้ว เฮล์มโฮลทซ์ยังชอบอ่านกวีนิพนธ์ของเกอเธ่ และปรัชญาของคานท์ด้วย หลังจากเรียนจบเขาได้เป็นศัลยแพทย์ประจำกองทัพ ระหว่างนั้นก็ทำงานวิจัยมาตลอด ในปี 2390 เขาเสนอผลงานวิจัยเรื่อง "conservation of energy" ซึ่งมีใจความว่า พลังงานไม่สูญหายและพลังงานในจักรวาลมีค่าคงตัว แม้เขาจะไม่ใช่คนแรกที่ค้นพบพลังงาน แต่เขาเป็นคนแรกที่เขียนกฎนี้ออกมาในรูปของสมการ และพิสูจน์ความถูกต้องโดยการทดลอง กฎทรงพลังงานของเฮล์มโฮลทซ์ทำให้นักวิทยาศาสตร์มีมุมมองธรรมชาติในรูปแบบใหม่ จึงนับได้ว่ากฎของเขาได้ปฏิรูปวิทยาศาสตร์ครั้งใหญ่ จากนั้นเขาก็ถูกดึงตัวไปเป็นอาจารย์กายวิภาคศาสตร์ที่ Academy of Arts แห่งกรุงเบอร์ลิน ไม่นานก็ได้ดำรงตำแหน่งทางศาสตราจารย์ทางสรีรวิทยา นอกจากนี้เขายังได้ศึกษาทดลองเรื่องระบบประสาทของมนุษย์และสามารถวัดความเร็วของสัญญาณประสาทได้เป็นครั้งแรก จากนั้นเขาก็ได้ศึกษาทางเดินของแสงในเลนส์ตา และจอรับภาพในตา รวมถึงการใช้สมองแปลความหมายของสิ่งที่เห็น ในปี 2394 เขาประดิษฐ์ "Opthalmoscope" เครื่องตรวจสอบสภาพภานในดวงตา ซึ่งจักษุแพทย์ยังใช้กันอยู่จนทุกวันนี้ จากนั้นในปี 2406 เขาได้เขียนหนังสือเรื่อง "Theory of the Sensations of Tone" อธิบายเรื่องการได้ยินว่า เมื่อหูได้รับพลังกระตุ้นจากภายนอก หูจะทำงานโดยการส่งสัญญาไฟฟ้าไปที่สมอง แล้วสมองแปลความหมายของสัญญาณที่ได้รับอีกทอดหนึ่ง ในระหว่างทำงานอยู่ที่เบอร์ลินเขาได้แปลความหมายของสมการแม่เหล็กไฟฟ้าของแม็กซ์เวลล์(Electromagnetism, Maxwell’s equations) ทำให้โลกรู้ว่าแสงเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ระหว่างเดินทางไปอเมริกาโดยทางเรือ เขาเมาคลื่นจนตกบันไดศรีษะฟาดพื้น จากนั้นสุขภาพก็เริ่มทรุดโทรม เป็นอัมพฤกษ์และเส้นเลือดในสมองอุดตันและเสียชีวิตในที่สุด