พิธีทำบุญอายุ นั้น จัดขึ้นเพื่อความต้องการความสุขสวัสดี มีอายุยืนยาวเจริญวัฒนาต่อไปในภายภาคหน้า ส่วนใหญ่หากเป็นการทำบุญวันครบรอบวันเกิด โดยทั่วไปมักไม่ค่อยจัดใหญ่โตนัก เพียงทำบุญตักบาตรพระในตอนเช้า หรือถวายภัตตาหารพระที่วัด เสร็จแล้วจึงถวายจตุปัจจัยไทยธรรมตามศรัทธา เมื่อพระสวดเจริญพระพุทธมนต์ให้พร อนุโมทนา และกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล ก็เป็นอันเสร็จพิธี
สำหรับการทำบุญอายุนั้น นิยมจัดเป็นงานใหญ่กว่าการทำบุญวันเกิด โดยทั่วไป เมื่ออยู่ในช่วงที่มีอายุเบญจเพส คือ 25 ปี หรือช่วงที่มี อายุกลางคน คือ 50 ปี หรือทำเมื่อครบรอบ ทุก 12 ปี ซึ่งมักนิยมทำกันเมื่อครบ 5 รอบ คือ 60 ปี และ 6 รอบ คือ 72 ปี
สาเหตุที่นิยมทำเมื่ออายุครบ 25 ปี เพราะวัยเบญจเพสเป็นช่วง หัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต จากวัยรุ่นเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ส่วนทำเมื่อครบ 50 ปีนั้น เพราะถือว่าอายุยืนยาว มาได้ครึ่งหนึ่งของชีวิตแล้ว จึงควรทำบุญและเลี้ยงฉลอง แสดงความยินดี
พิธีการทำบุญอายุ
เมื่อจะทำบุญอายุ ให้จัดเตรียมสถานที่และนิมนต์พระสงฆ์มาสวดเจริญ พระพุทธมนต์ โดยให้โหรเป็นผู้กำหนดฤกษ์และมาเป็นผู้ประกอบพิธี การนิมนต์พระต้องนิมนต์ให้มากกว่าอายุ 1 รูป เช่น อายุ 25 ก็ให้นิมนต์ 26 รูป หรือนิมนต์เพียง 9 รูป เท่าจำนวนดาวนพเคราะห์ก็ได้ และเป็นการสะดวกต่อการจัดสถานที่การทำพิธี
สิ่งของที่ต้องเตรียม
- ขี้ผึ้งอย่างดี 2 เล่ม เล่มหนึ่งหนัก 9 บาท ไส้ยาวโดยวัดรอบศีรษะของเจ้าภาพจำนวน 33 เส้น อีกเล่มหนึ่งมีขนาดสูงเท่าตัวเจ้าภาพ หนักเท่าอายุ ไส้ทำเท่าอายุ คือ อายุ 25 ก็ทำ 25 เส้น เทียนนี้จะต้องจัดทำด้วย ความประณีต หาที่บังลมให้ดี เมื่อจุดแล้วอย่าให้ลมพัดดับหรือล้มได้
- ผ้าขาวนุ่ง 1 ผืน ทำบัตรพลีเทวดาเป็นบัตร 9 ชั้น 1 บัตร (เป็นบัตรพลีพระเกตุ) และ 3 ชั้น 8 บัตร (ตั้งเป็นบัตรพลีเทวดาประจำทิศต่างๆ รวม 8 ทิศ) ฉะนั้นบัตรพลีต้องมี 9 บัตร ทำด้วยกาบกล้วย ติดธงสีประจำวันเทวดา มีรูปเทวดาบัตรละองค์ ใส่ขนมอาหารหวานคาว รวมทั้งข้าวตอก ดอกไม้ ธูปเทียน จัดประดับให้สวยงาม (ส่วนใหญ่ผู้รับทำพิธีจะเป็นธุระจัดหาและตระเตรียมข้าวของเครื่องใช้ที่สำคัญๆ ให้เอง)
สำหรับข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ส่วนใหญ่โหรผู้ทำพิธีจะเป็นผู้จัดเตรียมให้ โดยการเขียนเทวดานพเคราะห์ หรือจัดหารูปเทวดานพเคราะห์มา นำพระประจำวันเกิดของเจ้าภาพ มาเป็นพระพุทธรูปบูชาในงาน โหรจะเอาสายสิญจน์วงรอบบัตรพลีติดเทียนตามกำลังวัน
การประกอบพิธี
เมื่อถึงวันงาน เมื่อเจ้าภาพจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยแล้ว ให้จุดเทียนมงคลบูชาเทวดานพเคราะห์ด้วย ต่อจากนั้น จึงรับศีลและฟังพระสวดพระพุทธมนต์ ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล เมื่อพระกลับแล้วจึงมีการกินเลี้ยงฉลองหรือมีการละเล่นรื่นเริง
วันรุ่งขึ้นมีการถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ พอได้ฤกษ์เจ้าภาพจะนุ่งขาวห่มขาว มาอาบน้ำมนต์มีผู้ใหญ่รดน้ำอำนวยพร แล้วเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวตามวันเพื่อความเป็นสิริมงคล ดังนี้(การนุ่งผ้าสีตามวัน จากสวัสดิรักษาคำกลอนของสุนทรภู่)
- วันอาทิตย์ สีแดง - วันจันทร์ สีขาว,สีนวล - วันอังคาร สีม่วง,สีคราม
- วันพุธ สีแสด,สีเหลือง - วันพฤหัสบดี สีเขียว,สีเหลือง - วันศุกร์ สีหมอก,สีฟ้า
- วันเสาร์ สีดำ หรือจะนุ่งห่มตามสีของวันก็ได้ เช่น วันจันทร์สีเหลือง วันอังคารสีชมพู เป็นต้น
ประวัติความเป็นมา
ในสมัยพุทธกาล มีพราหมณ์ 2 คนผัวเมีย พาลูกน้อยของตนไปหาพราหมณ์ที่เป็นสหายซึ่งถือพรตบำเพ็ญตบะ เมื่อพราหมณ์ 2 ผัวเมียทำความเคารพ พราหมณ์ที่บำเพ็ญตบะได้กล่าวอำนวยพรว่า " ขอจงจำเริญอายุยืนนาน" แต่เมื่อให้บุตรของตนทำความเคารพ พราหมณ์ผู้บำเพ็ญตบะหาได้กล่าวอวยพรให้ตามธรรมเนียมไม่ โดยบอกเหตุผลบอกว่า ลูกน้อยของพราหมณ์ 2 ผัวเมียจะต้องตายภายใน 7 วัน
พราหมณ์ผู้บำเพ็ญตบะ ได้แนะนำให้พราหมณ์ 2 ผัวเมียพาลูกไปหาพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ได้ตรัสแถลงเช่นเดียวกัน และแนะนำอุบายป้องกัน โดยการนิมนต์พระสงฆ์สวดพระปริตรตลอด 7 วัน ซึ่งพราหมณ์ทั้งสองก็กระทำตาม
ครั้นถึงวันที่ 7 พระพุทธองค์เสด็จไปด้วยพระองค์เอง ทำให้ยักษ์ผู้ได้รับพรมาเพื่อฆ่ากุมารไม่อาจทำอันตรายพระกุมารนั้นซึ่งนอนฟังพระปริตรอยู่ ด้วยพุทธานุภาพประกอบกับอายุไม่ถึงการดับแห่งขาร ทำให้ทารกนั้นรอดพ้นอันตราย และมีอายุยืนยาวถึง 120 ปี
ที่มา www.uamulet.com