โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นหนึ่งในโรคติดเชื้อที่มีความรุนแรง มีระยะเวลาการดำเนินโรคที่เฉียบพลัน และอาจมีอาการรุนแรงมาก โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ขวบ เกิดจากการติดเชื้อของเยื่อหุ้มสมอง จะมีไข้สูง ปวดศีรษะรุนแรง คลื่นไส้อาเจียน คอแข็ง
สำหรับเด็กทารกจะวินิจฉัยยาก อาจสังเกตได้จากเด็กงอแง ซึม ไม่กินนม และบางรายอาจมีอาการชักร่วมด้วย หากรักษาไม่ทันท่วงทีอาจเสียชีวิตและเกิดความพิการ ผู้ปกครองควรสังเกตว่าเด็กมีอาการดังกล่าวหรือไม่ และรีบพาไปพบแพทย์ ในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 1 ขวบ หากมีอาการที่น่าสงสัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีไข้และชักควรได้รับการตรวจน้ำไขสันหลัง
ปัจจุบันพบว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อยา ทำให้การรักษายุ่งยากขึ้น โดยต้องปรับเปลี่ยนเป็นยาที่แรงและครอบคลุมเชื้อที่กว้างขึ้น ซึ่งมีโอกาสก่อให้เกิดผลเสียตามมาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีการเจ็บป่วยบ่อยและต้องใช้ยาปฏิชีวนะอาจมียาเหลือให้ใช้น้อยลง การรักษาอาจล้มเหลวและมีภาวะแทรกซ้อนระยะยาวหรือพิการได้ จึงต้องพยายามป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อจะดีที่สุด
ดังนั้น การป้องกันที่สามารถทำได้คือ ให้ทารกกินนมแม่อย่างเดียวใน 6 เดือนแรก และพยายามให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อเพิ่มภูมิต้านทาน รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ล้างมือให้สะอาดอย่างถูกวิธี หลีกเลี่ยงพาเด็กเล็กไปสถานที่แออัด รวมถึงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กเล็กด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อที่ทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบเพื่อป้องกันเชื้อดื้อยาควรใช้ยาปฏิชีวนะอย่างเหมาะสม ไม่ควรใช้ยาที่มีฤทธิ์ครอบคลุมเชื้อที่กว้างโดยไม่จำเป็น และรับประทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่งเพื่อกำจัดเชื้อก่อโรคให้หมด จะได้ไม่กลับมาเป็นใหม่ หากใช้ยาปฏิชีวนะที่ออกฤทธิ์กว้างจะส่งผลให้เชื้อในร่างกายมีการปรับตัวดื้อยาตามมาได้ นอกจากนั้นต้องระวังการปนเปื้อนยาปฏิชีวนะที่พบในเนื้อสัตว์ที่ใช้เป็นสารเร่งการเจริญเติบโต ซึ่งจะทำให้ร่างกายได้รับยาปฏิชีวนะทางอ้อม และอาจเพิ่มโอกาสการติดเชื้อดื้อยาได้ในภายหลัง ข่าวประชาสัมพันธ์
แหล่งที่มา : https://www.thaihealth.or.th/healthcontent/article/28263
