เต้าหู้เป็นอาหารกินง่าย นุ่ม หอม มีประโยชน์ไม่แพ้ผักผลไม้ กินบ่อยๆเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรงก็ได้อีกทาง
เนื้อขาวเนียน นุ่ม เด้งดึ๋ง ยั่วยวนใจ อยากจะฟาด "เต้าหู้" ให้เรียบ เพื่อกระดูกและฟันจะได้แข็งแรงข่าวล่ามาไว ประกาศเตือนพวก Meat Lover ให้ระวังตัวไว้ เพราะอันตรายจากการกินโปรตีนมากเกินไป จะทำให้ปัสสาวะเพิ่มความเป็นกรดมากขึ้น ร่างกายจึงต้องออกโรงปกป้องตัวเอง โดยมีกลไกขับแคลเซียมเพื่อลดปริมาณกรด ทำให้บ้านของมัน คือ กระดูกของเรานั้นอยู่รอด
ก่อนเข้าหลักสี่ (อายุ 40ปี) คลังของแคลเซียมก็จะเร่งสร้างการเจริญเติบโต แต่พอเข้าสู่วัยทอง มันกลับทรยศหันมาทำลายเนื้อกระดูกเสียนี่ ทำให้กระดูกสูญเสียความแข็งแรงและหนาแน่น และยังมีข้อมูลการแพทย์ระบุว่าระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงยังทำให้ร่างกายต้องสูญเสียแคลเซียมถึงร้อยละ 3-5จึงเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุน แตกหักได้ง่ายอีก
ปัจจัยต่างๆเหล่านี้คือ ตัวการร้ายทำลายกระดูก ฉะนั้นทางที่ดี เราจำเป็นต้องลดโปรตีนลง และควรบริโภคอาหารที่มีแคลเซียมสูงให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 75จากปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับในแต่ละวัน (800มิลลิกรัม) เพื่อช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน โดยไม่ต้องพึ่งแคลเซียมอัดเม็ดสำเร็จรูป อาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียมที่หาซื้อได้ง่าย ราคาถูกสุดๆ คือ "เต้าหู้"
ศ.นพ. วิโรจน์ ไววานิชกิจ ผู้เขียนหนังสือ "น้ำดื่มสมุนไพร ใกล้ตัว แต่ไกลโรค" อธิบายว่าเต้าหู้ ทับศัพท์จากภาษาจีนแปลว่า ทำจากถั่ว เต้าหู้จะมีอยู่ 2แบบใหญ่ๆ คือชนิดกลมนิ่ม อย่างเต้าหู้ขาว และเต้าหู้เหลืองที่จะผสมไข่เข้าไปด้วย ตามด้วยชนิดแผ่นแข็งสีเหลืองๆ ออกแข็งหน่อย นิยมนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ ผัดกินกับผัก หรือที่เราเห็นมากๆในผัดไท และผัดหมี่
อาหารไทยหลายชนิด เป็นเมนูสุขภาพกลุ่มอาหารแคลเซียมสูงอยู่แล้ว อย่าง เต้าหู้ทรงเครื่อง แกงจืดเต้าหู้ ก๋วยเตี๋ยวเส้นหมี่เต้าหู้ทรงเครื่อง เต้าหู้อบหม้อดิน ผัดเต้าหู้กับถั่วงอก เป็นต้น
เหล่านี้เป็นเมนูตัวอย่างที่กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะนำจัดเป็นสำรับอาหารที่รับประทานควบคู่กับอาหารอื่นๆ ซึ่งมีเต้าหู้เป็นส่วนประกอบหลัก เป็นแหล่งของแคลเซียมที่ดีสำหรับร่างกาย ช่วยทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง
แต่ที่ทำง่ายดายสุดๆ และได้ประโยชน์สูงเกินคาด ก็คือ น้ำเต้าหู้ สามารถดื่มพร้อมเครื่องเคียง เป็นน้ำเต้าหู้ทรงเครื่องได้ อย่างธัญพืช เช่น ลูกเดือยและสาคู ให้แป้ง วิตามินและเกลือแร่ ส่วนวุ้นเป็นขนมที่ทำจากแป้ง ให้น้ำตาลและพลังงาน หรือฟองเต้าหู้ ทำจาถั่วให้โปรตีนสูงเป็นดับเบิ้ล
ชาวจีนยกย่องให้น้ำเต้าหู้เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเสริมสร้างร่างกาย มันให้โปรตีน ทำให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เสริมสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้เพศหญิงมีผิวพรรณเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล กระชับมดลูก เสริมเต้านม (ทำให้อึ๋ม) และต้านมะเร็ง
คุณหมอบอกว่า ในน้ำเต้าหู้นั้น เต็มไปด้วยโปรตีน กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายมากกว่า 10ชนิด พกพาหน่วยต้านมะเร็ง 2กำลัง อย่างโฟลีฟีนอล และฟลาโวนอยด์ โดยเฉพาะไอโซฟลาโวน มาด้วย
ไม่เท่านั้น ยังมีไฟโคเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง พร้อมด้วยไขมันที่เป็นประโยชน์ให้พลังงาน รวมทั้งวิตามิน เอ ดี อี เค และที่ขาดไม่ได้เลยคือ แคลเซียม เสริมสร้างกระดูก ทำให้กระดูกแข็งแรง และป้องกันปัญหากระดูกผุด
แต่ก็ใช่ว่าจะบริโภคอาหารบำรุงกระดูกและฟันโดยไม่เหลียวหน้าแลหลัง มีข้อสังเกตกันว่าแคลเซียมจะดูดซึมได้ดี ต้องอาศัยตัวนำพาอย่าง วิตามินดี ที่จะเร่งการเกาะของเกลื แคลเซียมในกระดูก กระตุ้นให้แคลเซียมเคลื่อนผ่านลำไส้ไปดูดซึมเข้าร่างกายได้ดีขึ้น
ขณะเดียวกันก็จะมีตัวขัดขวางการดูดซึม อย่าง อาหารที่มีเส้นใยมาก หรือผักที่มีกรดอ๊อกซาลิค ซึ่งมีมากในผักโขม ผักแพว กะหล่ำปลี ชะพลู ใบมันสัมปะหลัง แขยง มะรุม หน่อไม้ กระโดน เสม็ด หรือกรดไฟติคในผักใบเขียว และพวกอาหารที่มีไขมันสูง ซึ่งควรลดปริมาณการบริโภคลง เพื่อให้ร่างกายได้ดูดซึมแคลเซียมได้ดีที่สุด
น้ำเต้าหู้ ง่ายๆด้วยตัวเอง
1. นำเมล็ดถั่วเหลืองประมาณครึ่งกิโลกรัมมาล้างน้ำให้สะอาด แช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 6ชั่วโมง
2. นำถั่วที่แช่ไว้ขึ้นมาบด(หรืออาจจะปั่น) รวมกับน้ำ ให้ละเอียด แล้วขยำบีบให้น้ำนมถั่วออกมา กรองด้วยผ้าขาวบาง แยกกากออก
3. ต้มน้ำถั่วเหลืองที่ได้กับใบเตย เคี่ยวเรื่อยๆ คนบ่อยๆ จนหายเหม็นเขียว
4. ยกลงทิ้งไว้ให้เย็น แล้วกรองออกอีกที จะได้น้ำเต้าหู้สีแบบนม น่ารับประทาน
5. นำมาตั้งไฟอุ่นๆ จะเติมน้ำตาลก็ได้ และดื่มพร้อมเครื่องเคียง อาทิ ธัญพืชต่างๆ สาคู วุ้น เป็นต้น
แหล่งที่มา : https://www.banprak-nfe.com/webboard/index.php/topic,2201.0.html
