ปัญหา ส้นเท้าแตกและหยาบกร้าน
ผู้หญิงไทยมีอาการส้นเท้าแตกหยาบกร้านมากถึง 4 ใน 10 โดยไม่ทราบสาเหตุและวิธีการรักษาที่ถูกต้อง บางคนส้นเท้าแตกมากจนสร้างความรำคาญและความเจ็บปวดที่เท้า ลดน้ำหนัก3-5 กกต่อเดือน คลิ๊กคลิ๊ก
ปัญหา ส้นเท้าแตก 80 % เกิดจากลักษณะรองเท้าที่สวมใส่ โดยเฉพาะรองเท้าแตะคีบ รองเท้าสาน รองเท้าเปิดส้น หรือแม้แต่เท้าเปล่า การใส่รองเท้าลักษณะนี้เป็นเวลานานๆ ผิวบริเวณส้นเท้าจะค่อยๆ แข็งและหนาขึ้น ต่อมาทำให้แห้งและแตกในที่สุด นอกจากนี้อุณหภูมิก็มีผลเช่นกัน อย่างในที่อากาศเย็นมาก เช่นทำงานในห้องแอร์ หรือเท้าที่สัมผัสน้ำบ่อยๆ แช่นานๆ การยืนเป็นเวลานานๆ บนพื้นเข็ง โดยเฉพาะผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากก็ทำให้ส้นเท้าแตกง่ายด้วย (นิตยสาร Health Today)
มีเท้าที่สวยง่ายๆ เพียง 3 ขั้นตอนเท่านั้น https://www.youtube.com/watch?v=ODL_PzD6_5E
- แช่เท้าในน้ำสบู่ แช่มือหรือเท้าลงในน้ำสบู่ ประมาณ 10-15 เพื่อทำให้ผิวหนังที่แห้งหยาบกร้าน ชุ่มและนิ่มตัวลง ขั้นตอนนี้สำคัญมาก เพื่อให้ได้รับผลลัพท์ที่น่าพึงพอใจ
- ขจัดผิวหนังที่ด้านหนา ใช้อุปกรณ์ถูที่ส่วนปลายบริเวณผิวหนังที่แข็งกระด้าง โดยการจับที่ปลายด้าม สแคร็พ อิท ในลักษณะตั้งตรง 80-90 องศา ให้สัมผัสกับพื้นผิวที่ต้องการดูแล, ตามภาพที่ปรากฎ, ใช้ลูบในระยะสั้นอย่างเบาๆ, ปล่อยให้อุปกรณ์ทำหน้าที่ขจัดผิวหนังที่แห้งกร้านออก ชั้นต่อชั้นของผิวหนังที่แห้งกร้าน, ทำซ้ำๆสลับกับการแช่มือหรือเท้าในน้ำสบู่ เราขอแนะนำว่าถ้าผิวหนังที่ด้านมีความหนามาก ไม่ควรจะทำรวบรัดทำซ้ำกันหลายๆครั้งภายในทีเดียว เพราะ จะทำการ ผิวระคายเคือง ขอแนะนำให้ทำประมาณ 3 ครั้ง เพื่อความพึงพอใจ
- ฆ่าเชื้อและบำรุง หลังจากการใช้อุปกรณ์กำจัดผิวหนังที่ด้านหนาออกไปแล้ว สิ่งที่สำคัญก็คือการดูแลบำรุงผิว ด้วยโลชั่น และ ฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอลล์ บริเวณผิวที่ใช้ สแคร็พ อิท ต้องทำความสะอาดอุปกรณ์ สแคร็พ อิท เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโดยใช้ แอลกอฮอลล์ ไอโอดีน หรือ ไฮโดรเจนเพอร์อ็ออกไซด์ ก่อนและหลังใช้งาน