คัมภีรืไบเบิลกับสมัยปัจจุบัน
คัมภีรืไบเบิลกับสมัยปัจจุบัน, คัมภีรืไบเบิลกับสมัยปัจจุบัน หมายถึง, คัมภีรืไบเบิลกับสมัยปัจจุบัน คือ, คัมภีรืไบเบิลกับสมัยปัจจุบัน ความหมาย, คัมภีรืไบเบิลกับสมัยปัจจุบัน คืออะไร
ถึงเวลานี้ คัมภีร์ไบเบิลก็มีอายุนานกว่า 3500 ปีแล้ว ตั้งแต่ที่มีการจารึกเมื่อ 15 ศตวรรต ก่อนคริสต์กาล โดยผู้เขียนต่างฐานะอาชีพราว 40 คน ที่มีชีวิตอยู่ต่างสมัยกันตลอดช่วง 1600 ปี ในดินแดนทางตะวันออก ( แถบปาเลสสไตล์ ) พระธรรมเล่มสุดท้ายได้รับการจารึกในช่วงปลายศตวรรตที่ 1สากลศักราช คือช่วงสมัยที่พระเยซู และบรรดาสาวกผู้ติดตามมีชีวิตอยู่ ราวครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้เขียน ได้เขียนพระคัมภีร์เสร็จนานก่อนที่จะมีคำสอนของขงจื้อ,พุทธ,หรือปรัชญากรีก ฯลฯ. หลังจากนั้นมาผู้คนทั่วโลกได้รู้จักคัมภีร์ไบเบิลว่าเป็นหนังสือศักดิ์สิทธิ์ อาจเป็นเพราะเหตุที่มีความพยายามของบุคคลต่าง ฯ ในศตวรรตต่อมาที่ต้องการทำให้ข่าวสารของพระคัมภีร์ เป็นที่รู้จักเนื่องจากเป็นข่าวสารจากพระเจ้า -[ พระยะโฮวา ] โดยการคัดลอกและแปลออกเป็นภาษาต่าง ฯ จนถึงปัจจุบันคัมภีร์ไบเบิล สามารถหาได้ทั่วไป เพราะมีการพิมพ์ออกในปริมาณมาก ทั้งครบทุกตอนและบางส่วนด้วยกัน . ที่จริงข้อความตอนหนึ่งของพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า "ด้วยว่าคำพยากรณ์ที่เขียนไว้แล้วคราวก่อนนั้น ไม่ได้เขียนตามลำพังใจของมนุษย์ แต่มนุษย์ได้กล่าวคำที่ได้รับการดลใจจากพระเจ้า ตามที่พระวิญญานบริสุทธิ์ได้ดลใจให้กล่าว " ( 2 เปโตร 1 : 20,21 ) แต่ในอีกด้านหนึ่งคัมภีร์ไบเบิลก็ถูกคุกคามจากเหล่านักวิพากษืวิจารณ์ นักอเทววิทยา นักอไญยนิยม นักปกครอง - การเมือง อยู่ หลายครั้งหลายหนเพื่อหักล้างความน่าเชื่อถือ .น่าสนใจ ที่คัมภีร์ไบเบิลรอดจากการโจมตีในประเด็นต่าง ฯ มาได้อย่างเป็นที่น่าสังเกตเช่นกัน. ตัวอย่างเช่น.- ในศตวรรตที่ 17 มีการแสดงความสงสัยต่อข้อเขียนของพระคัมภีร์อย่างเปิดเผยโดย ปีแอร์ เบล ซึ่งเดิมนับถือคาทอลิค เขาสงสัยเรื่องความถูกต้องทางประวัติศาสตร์และลำดับเวลาที่กล่าวในพระคัมภีร์.และคนอื่น ฯอีกก็เอาอย่างเขา ความสงสัยเต็มที่ได้ขยายตัวมากขึ้นในศตวรรตที่ 19 นักวิจารณ์ยืนกรานว่า พระคัมภีร์ไม่เป็นอย่างที่มีเห็นกันในเวลานี้.อย่างไรก็ตาม วิค บรูมอล ศาสตราจารย์วิชาศาสนศาสตร์ ได้ให้การสนับสนุนต่อความน่าเชื่อถือของคัมภีร์ไบเบิล ในหนังสือของเขา-บิบลิคัล คริทิซิสซึม ว่า " ไม่อาจจะพิสุจน์ได้ในกรณีใดฯ โดยเฉพาะว่า พระธรรมต่าง ฯ ซึ่งประกอบกันขึ้นเป็นพระคัมภีร์นั้น มีความเป็นมาโดยการฉ้อฉล ดังที่การสอนแบบวิพากษ์วิจารณ์ได้พรรณาไว้.การยืนยันดังกล่าวเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การที่จะพิสุจน์เรื่องนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งทีเดียว "
จะเหมาะกับผู้คนสมัยนี้อย่างไร ?
ข้อหนึ่งของพระคัมภีร์ที่ สุภาษิต 2 :11,12 อ่่านว่า .."ความสุขุมรอบคอบจะพิทักษ์เจ้าไว้ ความเข้าใจจะรักษาชีวิตเจ้าไว้ เพื่อจะช่วยเจ้าให้พ้นจากทางของคนชั่ว และพ้นจากคนที่พูดดื้อดันไปในทางหลงผิด" ให้เราคิดถึงบางตัวอย่างของการทำตามคำแนะนำที่คัมภีร์ไบเบิลให้ไว้ ในบางประเด็น.
ประมาณตนในการดื่ม ( สุรา )
คัมภีร์ไบเบิลไม่ได้ตำหนิการใช้แอลกอฮอล์พอประมาณ แต่บอกว่า "จงใช้เหล้าองุ่นบ้างเล็กน้อย เพื่อประโยชน์แก่กะเพาะอาหารของท่าน และเพื่อบำบัดโรคที่บังเกิดแก่ท่านเนือง ฯ" - 1 ติโมเธีร์ 5 :23 และในตอนอื่นฯ ก็แสดงให้เห็นว่า พระเจ้า ตั้งพระทัยจะให้เหล้าองุ่นไม่เป็นเพียงการรักษาโรคเท่านั้น แต่ก็พรรณาถึงเหล้าองุุ่่นว่าเป็นสิ่งที่ทำให้ ใจมนุษย์ชื่นบาน กระนั้นก็มีข้อเตือนใจว่า ..ให้ระวังการตกเป็นทาสของเหล้าองุ่น -ทิโต 2 : 3 เป็นจริงอย่างไร หากไม่ใส่ใจต่อคำเตือนนี้ รายงานสถานการณ์โลกเรื่องแอลกอฮอล์ ปี 2004 แห่งองค์การอนามัยโลกกล่าวว่า "ปัญหาที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ชาวไอร์แลนด์ ต้องจ่ายเงินประมาณปีละ 2.4 พันล้านยุโรไปกับภาระการดูแลสุขภาพ,อุบัติเหตุบนถนน,อาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการดื่มแอลกอฮอล์,การสูญเสียผลิตผลเนื่องจากการขาดงาน.
นิสัยที่ก่อให้เป็นมลทิน ! ( ยาเสพติด )
2 โกรินทร์ 7 : 1 บอกว่า "จงชำระตัวให้ปราศจากมลทินทุกอย่างแห่งเนื้อหนังและวิญญานจิตต์ " นี่พิสูจน์แล้วว่าเป็นคำแนะนำที่พึงเอาใจใส่. จากการแถลงขององค์การอนามัยโลกปี 2006 กล่าวว่า " สาเหตุสำคัญอันดับสองของการตายที่เกิดขึ้นในโลก" แต่ละปี ประชากรโลกประมาณห้าล้านคนเสียชีวิตเนื่องจากการใช้ยาสูบ.ในศตวรรตที่แล้ว การสูบบุหรี่คร่าชีวิตผู้คนไปประมาณ 100 ล้านคน ซึ่งเทียบเท่ากับจำนวนคนที่เสียชีวิตในสงครามทั้งหมดที่เกิดขึ้นในศตวรรตเดียวกัน.นั่นเป็นคำแนะนำที่เหมาะกับปัจจุบันแน่นอน.
การดำเนินในหน้าที่การงาน
คัมภีร์ไบเบิลสนับสนุนผู้ที่เป็นลูกจ้าง ที่จะทำงานด้วยความซื่อสัตย์และขยันขันแข็ง โดยกล่าวว่า "ฝ่ายคนที่เคยลักขโมยก้อย่าใด้ขโมยอีกเลย แต่ให้ใช้มือของตนกระทำการงานที่ดีดีกว่า " เอเฟโซ 4 : 28 คำแนะนำนี้ใช้ได้แม้แต่เมื่อนายจ้างไม่เห็น เขาจะเชื่อฟังนายของตนตามเนื้อหนัง ไม่ใช่อย่างที่ทำต่อหน้า แต่ด้วยน้ำใสใจจริง นายจ้างคงเห็นคุณค่าของลุกจ้างที่ทำตามหลักการนี้ทีเดียว. ในอีกด้านหนึ่งนายจ้าง ก็ได้รับคำแนะนำเช่นกันว่า "คนที่ทำการควรจะได้ค่าจ้างของตน " - 1 ติโมธีรื 5 : 18 พระบัญญัติที่ให้แก่ชาติอิสราเอลบอกให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างแก่ลูกจ้างตามกำหนดและอย่างยุติธรรม . ลูกจ้างคงยินดีและเต็มใจที่จะอยู่ด้วยกับนายจ้างแบบนี้ทีเดียว.
ความสุขในครอบครัว !
โกโลซาย 3 : 19 กล่าวว่า " สามีจงรักภรรยาของตน และอย่าได้พูดคำขมขื่นต่อนาง" สามี ที่ทำตามคำแนะนี้ เขาย่อมประสบว่าได้รับความรักและนับถือจากภรรยา.ในส่วนของภรรยา เธอได้รับคำแนะนำด้วยว่า " ให้ภรรยาทั้งหลายยอมอยุ่ในอำนาจของสามี เพราะสามีเป็นประมุขของเธอ และควรแสดงความนับถืออย่างสุดซึ้งต่อสามี " ภรรยาที่ทำตามคำแนะนำนี้ ทั้งการพูดและการกระทำ เธอย่อมได้รับความรักจากสามีอย่างสุดซึ้งเช่นกัน.
ในเรื่องการสั่งสอนบุตร ผู้เป็นบิดาได้รับคำแนะนำว่า " อย่ายั่วบุตรของตนให้ขัดเคืองใจ แต่จงอบรมด้วยการตีสอนและปรับความคิดเด็กตามหลักการขององค์พระผู้เป็นเจ้า " เอเฟโซ 6 : 4 ( ความถูก/ผิด ตามหลักพระคัมภีรื ) และในส่วนของบุตร เอง เขาได้รับคำแนะนำว่า " จงนบนอบเขื่อฟังบิดามารดาของตัวและนับถือบิดามารดาของตน " เอเฟโซ 6 : 1,2.....ทั้งครอบครัวคงประสบความอบอุ่นจากการใช้คำแนะนำนี้.
ในเรื่องเพศ ?
คัมภีร์ไบเบิลไม่ได้ตำหนิว่า ความปรารถนาทางเพศทุกอย่างเป็นการบาป แต่ให้คำแนะนำที่ดีเกี่ยวกับวิธีที่คนเราจะแสดงความปรารถนาทางเพศอย่างเหมาะสม โดยกล่าวว่า " เพศสัมพันธ์เป็นสิ่งที่สงวนไว้สำหรับวชายหญิงที่สมรสกันแล้วเท่านั้น. ที่ มัดธิว 19 : 4 - 6 อ่านว่า " พระผู้สร้างมนุษย์แต่เดิม ได้ทรงสร้างให้เป็นขายและหญิง และตรัสว่า " เพราะเหตุนั้น บุรุษจึงต้องละจากบิดามารดาของตน ไปผูกพันอยู่กับภรรยา และทั้งสองจะเป็นเนื้ออันเดียวกัน เขาจึงไม่เป็นสองอีกต่อไป......อย่าให้มนุษย์ทำให้เขาพรากจากกันเลย." และที่ เฮ็บราย 13: 4 บอกอีกว่า " อย่าทำเตียงสมรสให้เป็นมลทิน ด้วยว่าคนผิดประเวณี พระเจ้าจะทรงพิพากษา " เพศสัมพันธ์เป็นวิธีที่คู่สมรสแสดงออกและตอบรับความรักและความรู้สึกที่มีต่อกัน. แต่การสำส่อนทางเพศก่อผลร้ายมากมาย อาจเห็นสถานการณ์ที่ว่า ทั่วโลกมีอัตราการตั้งครรภ์ที่ไม่พีงต้องการ และการทำแท้งมากเป็นล้าน ฯราย นักวิจัยท่านหนึ่งเขียนถึงสถานการณ์ดังกล่าวว่า " การเปลี่ยนไปของครอบครัวที่มีพ่อหรือแม่ฝ่ายเดียว อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำห้มีการเพิ่มขึ้นของปัญหาสังคมอื่น ฯ เช่น อัตราที่เพิ่มขึ้นของเด็กที่ต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน. การใช้แอลกอฮอล์และยาเสพติด,การตั้งครรภ์และมีบุตรของวัยรุ่น,รวมถึงการกระทำผิดทางอาญาในหมู่เยาวขน.คนที่สำส่อนทางเพศยัง
เสี่ยงต่อการมีปัญหาสุขภาพร้ายแรง ทั้งร่างกายและจิตใจ วารสารกุมารเวชศาสตร์ (ภาษาอังกฤษ ) รายงานว่า " ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า วัยรุนที่มีเพศสัมพันธ์มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคซึมเศร้าและลงเอยด้วยการฆ่าตัวตาย " เกี่ยวกับอันตรายอื่น ฯ สมาคมสุขภาพแห่งอเมริกากล่าวว่า " มากกว่าครึ่งของคนทั้งหมด ในสหรัฐ ฯ จะติดโรคติดต่อทางเพศ-เอสทีดี. ในช่วงใดช่วงหนึ่่งของชีวิต "
คัมภีรืไบเบิลกับสมัยปัจจุบัน, คัมภีรืไบเบิลกับสมัยปัจจุบัน หมายถึง, คัมภีรืไบเบิลกับสมัยปัจจุบัน คือ, คัมภีรืไบเบิลกับสมัยปัจจุบัน ความหมาย, คัมภีรืไบเบิลกับสมัยปัจจุบัน คืออะไร
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!