ชีวิตทารกของคุณจะเริ่มเกิดขึ้นตามเวลาปฏิทินในหนึ่งครั้งต่อเดือนจะมีช่วงที่ร่างกายของคุณพร้อมที่จะตั้งครรภ์เรียกช่วงเวลานี้ว่า “ การตกไข่ ” ซึ่งจะเกิดขึ้นทุกเดือน คือ ตั้งแต่วันแรกถึงวันที่ 14 ไข่หรือเซลล์สืบพันธุ์จะสุกภายอิทธิพลของโฮร์โมน “ เอสโตรเจน ” จะมีถุงเล็กๆ ที่ค่อยๆ เติบโตขึ้นอยู่ภายใน แต่จะมีถุงเดียวเท่านั้นที่ได้รับการพัฒนาให้เติบโต จนมีขนาดเท่าผลเชอร์รี่ขนาดเล็ก จากนั้นจะเคลื่อนตัวไปที่ผนังของรังไข่ และรอการปลดปล่อยออกมาตามสภาวะของโฮร์โมน ซึ่งเซลล์สืบพันธุ์ของคุณจะผสมกับอสุจิ กลายเป็น “ ไข่มนุษย์ ” หรือ “เมล็ดพันธุ์ทารก” ซึ่งเกิดจากการผสมของเซลล์สืบพันธุ์ทั้ง 2 ตัวดังกล่าว
การทดสอบครั้งแรกของการตั้งครรภ์
การทดสอบการตั้งครรภ์ เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกรวดเร็ว จะมีประสิทธิภาพเมื่อคุณทำการทดสอบในช่วงวันแรกการขาดประจำเดือน โดยการทดสอบน้ำปัสสาวะในตอนเช้าหลังการขัยออกไปแล้วครั้งแรก หากคุณตั้งครรภ์คุณสามารถรู้ผลได้เลยภายใน3-4 นาที เครื่องมือทดสอบดังกล่าวมีวางขายตามร้านค้าขายยาทั่วไป เครื่องมือนี้สามารถยืนยยันการตั้งครรภ์ได้ เมื่อคุณทราบผลแล้ว ขั้นตินต่อไป คือการปรึกษากับสูตินารีแพทย์ เพื่อทำการฝากครรภ์ต่อไป
สัญญาณเบื้องต้นที่บ่งบอกถึงอาการตั้งครรภ์
*** ประจำเดือนขาด เหนื่อยง่าย คัดหน้าอก คลื่นไส้ และปัสสาวะบ่อย
ไข่จะเคลื่อนที่ผ่านท่อนำไข่ไปยังมดลูกและถือเป็นการบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว หลังจากการเดินทางเป็นเวลา 3-4 วัน ทารกของคุณจะอาศัยอยู่ในมดลูก และจะฝังลงไปในเยื่อบุมดลูกซึ่งเป็นการสร้างรังและจะไม่ขยับเขยื้อนไปไหนอีกเลย จนกว่าจะคลอด
9 เดือน พร้อมลืมตาดูโลก
ประมาณ 40 สัปดาห์ ทารกจะปรับเปลี่ยนจากเซลล์ขนาดเล็กเป็นทารกที่มีน้ำหนักประมาณ 3.5 กิโลกรัม
ช่วง 1-3 เดือน
10 วัน : ไข่กลายเป็นตัวอ่อน
เริ่มมีการแบ่งเซลล์ออกเป็น 3 ส่วน แตกต่างกันเพื่อสร้างอวัยวะต่างๆ ผม ระบบปราสาท กระดูกอ่อน กระดูกกล้ามเนื้อ ระบบย่อยอาหาร และต่อมสมองต่าง ๆ ขึ้นมา
3 สัปดาห์ : หัวใจเริ่มเต้น
ท่อขนาดเล็กถูกสร้างขึ้นมาจากหลอดเลือด 2 เส้น มีบทบาทเป็นหัวใจ หัวใจเต้น เริ่มเป็นโครงสร้างศรีษะ ปอดเริ่มทำงาน และหนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น ตัวอ่อนจะเติบโตขึ้นมามีขนาดเท่าผลลูกเบอรี่ และน้ำหนักมากขึ้นจจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ระบบปราสาทเริ่มเกิดขึ้นแต่ยังมีมีอวัยวะอื่นปรากฏ
5 สัปดาห์ : ตัวอ่อนเริ่มมีการปลี่ยนแปลง
ตัวอ่อนจะมีลักษณะโค้งงอและเห็นโครงของร่างกาย อวัยวะทุกส่วนจะทำงานสัมพันธ์กัน ศรีษะมีขนาดใหญ่ขึ้น มีเค้าโครงหน้า ดวงตากลมและดำ ในช่วงเวลานี้ตัวอ่อนจะมีน้ำหนักอยู่ 11 กรัม ยาวประมาณ 3 เซนติเมตร
ระวัง:ร่างกาย ในช่วง 2 เดือนแรก ทารกจะเป็นผู้ที่ทำงานหนักเพราะมีการปรับเปลี่ยนและแปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้ทารกรับรู้ได้ไว พึงควรระวังครรภ์ของคุณเพื่อปกป้องทารกก่อนวันที่จะมีประจำเดือน ทารกของคุณอาจมาจะมาถึงอย่างเงียบ ๆ แล้วก็ได้ในกรณีที่มีความกังวล ควรรักษาสุขอนามัย หลีกเลี่ยงของมึนเมา บุหรี่ ยา และการถ่ายเอกซเรย์
3 เดือน: ตัวอ่อนฟักตัวเสร็จ
สร้างผลงานชิ้นใหญ่สำเร็จแล้ว กล่าวคืออวัยวะต่างๆ เริ่มมีการพัฒนาขึ้น กล้ามเนื้อขยายตัว กระดูกแข็งขึ้นมีภาพเค้าร่างปรากฏของสมองและปฏิบัติการต่างๆ เริ่มมีสั่งการเป็นระบบ ช่วงระยะ 3 เดือน ทารกมีลำตัวยาว 10 เซนติเมตร และหนัก 45 กรัม ทารกกำลังผ่านขั้นตอนการเป็น “ตัวอ่อน” ในช่วงนี้ทารกเริ่มมีฟันเรียงแถว มีเล็บ ผมเริ่มขึ้น.... และทารกจะมี “ ศีรษะโต”
ช่วง 4-6 เดือน ตัวอ่อนมีการพัฒนาส่วนต่างๆ ในร่างกาย
4 เดือน : ตัวอ่อนก่อตัวเป็นรูปร่างเป็นร่าง
4 เดือน ตัวอ่อนเริ่มมีพัฒนาการเป็นทารกแล้วอวัยวะทุกอย่างเริ่มทำงาน และมีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว จึงต้องมีกำหนดเวลาว่า ทารกจะมีอัตราการเต้นของหัวใจ 140 ครั้งต่อนาที ศีรษะโตเกือบสมบูรณ์ มีผมขึน กระดูกอ่อนที่เชื่อมต่อกับเส้นเลือดเล็กเริ่มก่อตัวขึ้นตามผิวหนังที่บอบบาง มีเส้นขนอ่อน ๆ หรือ “ ขนอ่อน” ที่ห่อหุ้มร่างกายทารกน้อยจนกระทั้งถึงคลอด
ชายหรือหญิงกันแน่ ?
มรดกทางพันธุกรรมจากอสุจิซึ่งปฏิสนธิกับไข่ จะเป็นตัวกำหนดว่าทารกเป็นเพศชายหรือหญิง รอจนถึงปลายเดือนที่ 4 เมื่ออัลตราซาวด์จะเห็นเพศได้ชัดเจน โดยดูจากตำแหน่งของทารกขณะอัลตราซาวด์
5 เดือน : เด็กตอบสนองการสัมผัสจากคุณ
เป็นเรื่องโชคดีสำหรับ การตั้งครรภ์ครั้งแรกคุณจะดีใจกับการรับรู้แรกที่ทารกสัมผัสทารกจะออกแรงเพื่อถีบตัวตอนคุณพักผ่อน เขาจะบิดตัวเมื่อรู้สึกตัวและเขามักชอบทำเช่นนั้น ในถุงของเหลวที่มีเยื่อถุงน้ำคร่ำที่มีพื้นที่ที่ให้ทารกน้อยอาบน้ำได้
6 เดือน : แห่งการตื่นตัวของทารก
ทารกอาจขยับตัว 20 ตัวต่อชั่วโมงและมากกว่านี้เมื้อทารกตกใจ แขนจะพับอยู่ตรงทรวงอก หัวเห่างอขึ้นมาถึงช่วงท้อง ซึ่งเด็กส้วนใหญ่จะอยู่ในท่าอย่างที่ควรจะเป็น ทารกอาจนอนหลับ 16 ถึง 20 ชั่วโมงต่อวัน
สื่อสารกับทารกได้ !
ทารกยังไม่เกิดแต่สามารถแสดงความคิด สามารถส่งข้อความและการรับรู้จากสิ่งกระตุ้นเร้าของสิ่งรอบด้าน กล่าวคือ เสียงของคุณแม่ที่พูดคุยหรือการสัมผัสลุบไล้ครรภ์ จะสามารถเตรียมตัวความพร้อมทางจิตใจ และการเกิดการเรียนรู้ที่ดีของทารกน้อยได้
ช่วง 7-9 เดือน เป็นเวลาที่ทารกเจริญเติบโตเต็มที่และรอคอยการออกมาสู่โลกภายนอก
7 เดือน : ชีวิต คือ การมองเห็น
ทารกของคุณเริ่มมองเห็นรูปร่างที่คลุมเครือที่มีสีแดงจากเนื้อเยื่อของมดลูก ทารกเริ่มมีแก้วหูได้ยินชัดเจน มีหนักตัว 1,800 กรัม ความสูง 40 เซนติเมตร เนื่องจากร่างหายทารกเจริญเติบโต จึงเหลือเนื้อที่ ที่ ขยับตัวน้อยลง “ การออกกำลังกาย” สิ้นสุดแล้ว ขณะนี้ทารกจะอาศัยการออกกำลังกายเพื่อเคลื่อนไหวร่างกาย และทำให้ระบบปราสาทสมบูรณ์ ช่วงระยะนี้มี “ไข่หุ้มทารกคล้ายเนยแข็ง” หรือเปลือกหุ้มสีขาว ที่คอยปกป้องทารกจนกว่าจะคลอด
8 เดือน : เด็กเจริญเติบโตเมที่และเจริญอาหาร
ช่วงระยะนี้ทารกสามารถรับรู้รสชาติอาหารของคุณได้ ผล คือก็คือเจ้าตัวน้อยของคุณอ้วยท้วน ผิวหนังของทารกที่มีไขมันเกาะคลายตวและเริ่มป็นสีชมพูสดใส อวัยวะหลัก ๆ เริ่มเจริญเติบโตเต็มที่ ส่วนหัวใจนั้นยังต้องเจริญเติบโตต่อไป หัวใจข้างซ้าย และข้างขวาจะปิดตัวก็ต่อเมื่อ ถึงเวลาคลอดเท่านั้น ถ้าทารกคลอดก่อนการเจริญเติบโตเต็มที่ทารกจะหายใจอ่อน สารอาหารที่มีไขมันจะช่วยทำให้วงจรของปอดแข็งแรง ระบบอวัยวะของทารกจะจัดวางเป็นระเบียบก่อนกำหนดคลอดคือศีรษะกลับลงอยู่ด้านล่างตรงปากมดลูก
9 เดือน: พร้อมลืมตาดูโลก
ส่วนของขนอ่อนหายไปมันจะดูสวยงามตอนคลอด ! จะเวลาออกแรง 20 ถึง 30 กรัม ต่อวัน เป็นการเตือนว่าจะคลอดล่วงหน้า ช่วงสัปดาห์ที่ 38 ทารกพร้อมออกมาผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่่ สวัสดีโลกใบใหม่