จากเด็กชายที่เกิดมาในครอบครัวชาวนาที่ยากจนในหมู่บ้านสร้างแต้ อ.กุดชุม จ.ยโสธร
เด็กชายคนนั้นได้รับการเลี้ยงดูจากครอบครัวมีอดบ้างมีกินบ้าง คละเคล้ากันไปตามสภาพสังคมชนบท กาลเวลาผ่าน ไปจนเขาเติบใหญ่ และเรียนจนจบมัธยมปลาย เขาจึงเดินทางเข้ากรุงเทพด้วยความคิดแต่เพียงว่ามาช่วยพี่สาวขายลาบแต่แล้วชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปเมื่อมีคนเห็นแววและพยายามผลักดันกันอยู่หลายปี จนเขาได้มีโอกาสทำเพลงกับค่ายกับแกรมมี่โกลด์ในชื่อชุดว่า“ฝนรินในเมืองหลวง”
ไผ่ พงศธร เกิดเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2525 มีพี่น้อง 4 คนไผ่จะเป็นคนสุดท้ายที่บ้าน มีอาชีพทำนาและพ่อแม่จะมีอาชีพเสริมคือเล่นหมอลำชีวิตในวัยเด็กของไผ่ จะเป็นครอบครัวที่ลำบากด้วยความยากจน พ่อแม่ไผ่ต้องพาครอบครัวออกไปอยู่ที่นาที่ห่างจากหมู่บ้านออกไปประมาณ3 ก.ม. โดยปลูกเป็นกระต๊อบเล็กๆที่แทบจะกันแดดกันฝนได้บ้างไม่ได้บ้าง ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกอะไรเลยนอกจากวิทยุทรานซิสเตอร์และทีวีขาวดำขนาดเล็กที่เวลาดูต้องต่อไฟจากแบตเตอรี่ จนต่อมาเมื่อขึ้นชั้น ม.4 พ่อของไผ่ก็เสียชีวิต ในช่วงนั้นถือเป็นการหักเพชีวิตครั้งใหญ่เพราะพ่อคือเสาหลักของบ้าน ไผ่ต้องตัดสินใจออกไปทำงานเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวเพิ่มขึ้น และเป็นจังหวะเดียวกันกับคณะหมอลำแถวบ้านที่ไผ่มักชอบไปนั่งดูการแสดงเสมอ
ขาดนักแสดงหน้าวงพอดีเขาจึงตัดสินใจเข้าร่วมวงหมอลำทำหน้าที่ทุกอย่างตั้งแต่เด็กยกเครื่องและเต้นโชว์หน้าเวที ร่วมคณะอยู่ประมาณ2 ปี ทางวงหมดหน้างานจึงทำให้เด็กในวงลำบากจนต้องออกมา “ลำขอข้าว” เป็นการลำในหมู่บ้านเพื่อขอข้าวจากบ้านต่างๆจะถือกระบุง กระสอบบ้างตระเวนไปตามหมู่บ้านต่างๆเพื่อขอข้าวมาขายแล้วเลี้ยงในวงที่ไม่มีงาน ทำอยู่ได้ไม่นานก็ต้องแยกย้ายกันไป เพราะเงินไม่พอเลี้ยงเด็กในวง ในช่วงที่อยู่บ้าน ไผ่ได้รู้จักกับ หยก ลูกหยี (จิตรชัย ภวังคาม)จากการชักชวนของญาติ หยกได้ชักชวนอยากให้ไผ่ได้เป็นนักร้อง ด้วยการทำเดโมเพื่อไปเสนอตามค่ายเพลงต่างๆสลับการประกวดร้องเพลงจากเวทีต่างๆ และก็ได้ห่างกันไป เล่นหมอลำและเรียนหนังสืออยู่จนจบ ม.6 จากนั้นพี่สาวก็ให้ไผ่ เข้ากรุงเทพฯ มาช่วยขายลาบแถวราษฏร์บูรณะ ไม่ว่าจะล้างจาน เด็กเสิร์ฟ ทำความสะอาด และต่อมาได้รับการติดต่อจากหยก เพื่อจะนำเสนองานเพลงกับค่ายเพลงอีกครั้ง
ในช่วงนั้นไผ่จึงตัดสินใจแยกออกมาจากพี่สาวเพื่อทำเพลงเสนอค่ายเพลงอีกครั้ง ช่วงนั้นเป็นช่วงของความลำบากของไผ่ หยก และเพื่อนๆเป็นอย่างมาก บางวันมีเงินรวมกันแล้วได้แค่ 5 บาทต้องเอาเงินซื้อข้าวเปล่ามา 1 ถุงส่วนกับข้าว ไม่ต้องพูดถึงไม่มีอยู่แล้วเพราะมีเงินแค่นั้นจึงต้องใช้วิธีขอน้ำปลาจากร้านที่ซื้อข้าวโดยเทใส่ถุงเล็กๆมาด้วย พอถึงห้องก็ใช้น้ำปลาราดข้าวและด้วยความที่ไม่มีเงินทั้งจานและช้อนกินข้าวก็เลยไม่มี พอไม่มีช้อนก็เลยเอามีดตัดขวดพลาสติกมาทำเป็นช้อนแบ่งกันคนละนิดละหน่อยจนบางครั้งถึงขนาดที่ไม่ได้กินข้าวถึง 2 วัน เพราะไม่มีเงิน ซื้อจนบางครั้งต้องเอาบัตรประชาชนไปเซ็นร้านค้าแถวนั้นแต่พอบ่อยๆก็ไม่ให้เซ็นแม้กระทั่งขึ้นรถเมล์ยังไม่มีเงินจำต้องเดินเป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตรเลยทีเดียวหรืออย่างบางครั้งต้องเดินดูตามตู้โทรศัพท์สาธารณะเพื่อดูว่ามีเงินที่ค้างอยู่ตามช่องคืนเหรียญบ้างหรือเปล่า บางครั้งต้องเดินเป็นสิบๆ ตู้ซึ่งก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง ถ้าได้ก็แค่ประมาณ
4 – 5 บาทเท่านั้น ไผ่บอกว่าช่วงนั้นอย่าว่าแต่เรื่องของอนาคตเลยไม่มีความหวังเขาคิดแคเพียงว่า วันพรุ่งนี้จะเอาอะไรมากินแค่นั้นเอง
ชีวิตเป็นแบบนี้อยู่นานและบ่อยครั้งที่ไผ่ท้ออยู่หลายครั้ง และคิดเลิกจะเป็นนักร้องในที่สุดไผ่ก็ตัดสินใจไปช่วยพี่สาวขายลาบอีกครั้ง แต่จากนั้นไม่นานโชคชะตาก็เข้าข้างเมื่อหยกได้พบอ.สลาและนำเดโมที่เคยทำให้ อ.สลาลองได้ฟัง จน อ.สลาสนใจและเรียกเข้าไปสกรีนเทสต์ที่แกรมมี่ในครั้งแรกไผ่ไม่เชื่อหยกว่าเป็นเรื่องจริง เพราะเค้ามีความคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ยากที่จะเข้ามาแกรมมี่ได้จนในที่สุดได้สกรีนเทสต์ และได้เซนต์สัญญา จนได้ออกอัลบั้มในที่สุด ช่วงรอ
ทำอัลบั้ม ทางบริษัท แกรมมี่โกลด์ ก็หางานให้ทำ โดยส่งให้ขึ้นเวทีวงไมค์ ภิรมย์พร เป็นครั้งแรก เพื่อฝึกฝนตัวเอง และเก็บเกี่ยวประสบการณ์หน้าเวทีให้ดีขึ้น ซึ่งในช่วงนั้นก็นำเพลงของนักร้องรุ่นพี่อย่าง เอกพล มนต์ตระการ มา
ขับร้อง เพราะยังไม่มีเพลงเป็นของตัวเอง กับอัลบั้มแรกในชีวิต“ฝนรินในเมืองหลวง” จากนั้นการเริ่มต้นของชีวิตนักร้องก็เกิดขึ้น แกรมมี่โกลด์ ได้ใช้เวลาบ่มเพาะร่วม 2 ปีอัลบั้มชุดนี้จึงเกิดขึ้นภายใต้การดูแลของครูสลา คุณวุฒิ“กลุ่มดาวรุ่งลูกทุ่งติดดาว” และนักแต่งเพลงดาวรุ่ง วสุ ห้าวหาญ โดยมีสิงห์เฒ่า ทุ่งขี้เหล็ก เป็นผู้สร้างสรรค์งานดนตรี มีหลากหลายบทเพลงอยากให้ลองฟัง+ ฟังเพลงของ ไผ่ พงศธร ได้จากสนุก! ออนไลน์
ชุดที่ 2 คำสัญญาของหนุ่มบ้านนอก
1. คำสัญญาของหนุ่มบ้านนอก คำร้อง/ทำนอง วสุ ห้าวหาญ / เรียบเรียง ศราวุธ ทุ่งขี้เหล็ก เพลงนี้ดูจะเป็นเพลงที่สะท้อนความเชื่อแบบคนบ้านนอกเป็นสัญลักษณ ์
แทนตัว ไผ่ เนื้อเพลง จะหมายถึงใบตองที่ห่อความฝัน แรงงานมาขายในเมือง
2. เต็มใจให้ตั๋ว คำร้อง/ทำนอง สลา คุณวุฒิ / เรียบเรียง ธีระพงษ์ ศักดิ์แก้ว
มนุษย์ทุกคนต้องการรักจริง แต่เจอแต่ผู้หญิงที่หลอกลวงตลอดเวลา แต่หนุ่มคนนี้
ก็รักจริง เต็มใจที่จะถูกหลอกเป็นบุคลิกของคนบ้านนอกแท้ๆ ที่หายาก
3. ไปรักกันทื่อื่น... ได้บ่ คำร้อง/ทำนอง ศราวุธ ทุ่งขี้เหล็ก /เรียบเรียง ธีระพงษ์ ศักดิ์แก้ว
เพลงสนุกๆ เป็นคำประชดที่อ่อนโยนน่ารักๆ ของจิ๊กโก๋ คนหนึ่งที่บอกกับผู้หญิง
ที่ตนรักอย่า แสดงความรักต่อหน้าเขา
4. เบอร์โทรนี้มีแฟนหรือยัง คำร้อง/ทำนอง วสุ ห้าวหาญ / เรียบเรียง ศราวุธ ทุ่งขี้เหล็ก
เนื้อเพลงพูดถึงคนที่แอบรักเพื่อนร่วมงานและไม่อยากอกหัก เวลาเขาโทรมา
เลยอยากถามว่า เขามีแฟนหรือยังเพื่อจะมีความหวังเล็กๆอยู่บ้าง
5. สาวนาขาแดนช์ คำร้อง/ทำนอง ศราวุธ ทุ่งขี้เหล็ก / เรียบเรียง ศราวุธ ทุ่งขี้เหล็ก
ตั๊กแตน ชลดา ช่วยคอรัส เพลงสนุกๆ เป็นภาพชีวิตของสาวหางเครื่องวงอิเล็คโทนตาม
บ้าน นอกเป็นความฝันง่ายๆของเด็กสาวที่มายึดอาชีพหางเครื่องเพียงเพื่อต้องการ
ทำงานหาเงินไป เรียนหนังสือ
6. ใจหล่นที่หน้าราม คำร้อง/ทำนอง ศราวุธ ทุ่งขี้เหล็ก / เรียบเรียง ศราวุธ ทุ่งขี้เหล็ก
เป็นเพลงอกหัก ที่พูดถึงหนุ่มสาวที่เป็นแฟนกันผู้หญิงเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงส่วน ผู้ชายทำงานอยู่ผับเพื่อชีวิต
7. สุดท้ายคืออ้ายเจ็บ คำร้อง/ทำนอง วสุ ห้าวหาญ / เรียบเรียง ปิยะวุฒิ ณ บางช้าง เนื้อเพลงพูดถึงคนที่พ่ายแพ้รักคนหนึ่งซึ่งสำหรับเขาคำว่ารัก ไม่ได้เขียนลงบนกระดาษ
แต่ใช้ ความรู้สึกเขียนลงบนหัวใจ เสมือนเป็นปัญญา เมื่อสัญญานี้ถูกฉีกก็เหมือนหัวใจ
บาดเจ็บไป ด้วย
8. หวานใจหน้าจอ คำร้อง/ทำนอง สลา คุณวุฒิ / เรียบเรียง ปิยะวุฒิ ณ บางช้าง
เป็นเพลงสนุกๆ ปัจจุบันการตลาดทำให้เพลงมีความซับซ้อนมากเพลงนี้จะฟังง่าย
เป็นเพลงจีบ สาวมี่มีภาษาง่ายๆใช้ขนบของเพลงลูกทุ่งเก่าๆมาเขียน
9. ขอแค่ได้บอก คำร้อง/ทำนอง เสถียร ทำมือ / เรียบเรียง เสถียร ทำมือ
เป็นเพลงที่พูดถึงความฝันที่อยากทำอะไรสักอย่าง ขอเพียงได้ทำ ไม้รอผลลัพธ์ผิดหวังหรือ สมหวังก็ไม่เป็นไร
10. ห่วงเจ้าสาวลำน้ำมูล คำร้อง/ทำนอง วสุ ห้าวหาญ / เรียบเรียง สมศักดิ์ พิลารัตน์
พูดถึงความงามของแก่งตะนะและความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับที่สะท้อนออกมาแบบที่ฟัง แล้วไม่กระทบใคร
ข้อมูลจาก : https://www.phaiclub.com/
ชุดที่ 1 ฝนรินในเมืองหลวง
1. ฝนรินในเมืองหลวง คำร้อง/ทำนอง วสุ ห้าวหาญเรียบเรียง ศราวุธ ทุ่งขี้เหล็ก
บอกเล่าวิถีชีวิตของคนต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานในเมือง ที่มีทั้งแพ้ และชนะ ซึ่งเมื่อ
เวลายามเหงาช่วงฝนตกจะคิดถึงภาพบรรยากาศที่บ้านที่ต่างจังหวัดที่จากมา
คิดถึงบ้าน คิดถึงยาย
2. คิดฮอดวันละหน่อย คำร้อง/ทำนอง วสุ ห้าวหาญ เรียบเรียง ศราวุธ ทุ่งขี้เหล็ก
พูดถึงความรักของหนุ่มสาวต่างจังหวัด ที่มีในเรื่องของขนบทำเนียมประเพณีว่าค่อยๆ
ดูใจกันไปนานๆ เข้าตามตรอกออกตามประตู ถึงแม้จะทำงานกันคนละที่ก็ยังคิดถึงกัน
และเป็นกำลังใจให้กันอยู่เสมอ
3. ยืมหน้ามาเข้าฝัน คำร้อง/ทำนอง สี คันโซ่ เรียบเรียง สมศักดิ์ พลารัตน์
พูดถึงผู้ชายคนหนึ่งไปหลงรักผู้หญิงคนหนึ่ง ได้แต่ชื่นชอบ คิดว่าถ้าจีบคงจะไม่สำเร็จ
เพราะเค้าอยู่สูงเกินไป จึงได้แต่มองหน้าแล้วเก็บไปฝันถึง
4. ฮักสาวอีเล็คโทน คำร้อง/ทำนอง ศราวุณ ทุ่งขี้เหล็ก เรียบเรียง ศราวุธ ทุ่งขี้เหล็ก
พูดถึงหนุ่มชนบทที่ไปแอบรักสาวแดนเซอร์ หรือนักร้องตามเวทีต่างๆ แล้ว เลยตาม
จีบสาวคนนั้น
5. แขกผู้มีเกิบ คำร้อง/ ทำนองโชคชัย พิบูลรักษ์ เรียบเรียง ธนกร เลิศวาทิน
พูดถึงผู้ชายคนหนึ่งที่แฟนเก่าแต่งงาน แล้วก็เชิญแขกไปร่วมงาน ทุกคนก็ได้รับเชิญ
แต่ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ถูกเชิญ แต่ก็เต็มใจไปร่วมแต่งงาน โดยมีความตั้งใจอยากจะไป
ช่วยงานแต่งงานของแฟนเก่า