ความรู้ เกร็ดความรู้ สารานุกรม สารานุกรมออนไลน์ ความรู้รอบตัว ความรู้ทั่วไป พจนานุกรม เกมส์ เพลงใหม่ เพลง

GMail ขีดสุดความล้ำหน้าด้านธุรกิจสารสนเทศ, GMail ขีดสุดความล้ำหน้าด้านธุรกิจสารสนเทศ หมายถึง, GMail ขีดสุดความล้ำหน้าด้านธุรกิจสารสนเทศ คือ, GMail ขีดสุดความล้ำหน้าด้านธุรกิจสารสนเทศ ความหมาย, GMail ขีดสุดความล้ำหน้าด้านธุรกิจสารสนเทศ คืออะไร
| เปิดอ่าน 0 | ความคิดเห็น 0
GMail ขีดสุดความล้ำหน้าด้านธุรกิจสารสนเทศ

          Gmail ความขัดแย้ง หรือความลงตัวที่งดงาม ของการผสมผสานเทคโนโลยี่คอมพิวเตอร์ และไอทีกับข้อมูลที่เป็นแค่ตัวอักษร เพื่อก่อให้เกิดช่องทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและสวยงาม ถือเป็นทางความสุดยอดของการออกแบบ และการผสมผสานเทคโนโลยี่เพื่อธุรกิจ



เข้าเรื่อง GMail ดีกว่า

          เมื่อ กูเกิ้ล เปิดตัว Gmail ในวันที่ 1 เมษายน 2547 ที่ผ่านมา GMail ซึ่งดูผิวเผิน มีลักษณะเป็นการให้บริการเว็บเมล์ทั่วๆไป เหมือนกันรุ่นพี่อย่าง Hotmail หรือ Yahoo ที่ให้บริการมานานแล้ว

          เว็บเมล์ ก็คือบริการที่ให้ผู้ใช้มีอีเมล์เป็นของตัวเอง เช่น vcharkarn@hotmail.com โดยการใช้ ก็จะต้องไปที่เว็บไซท์ ของผู้ให้บริการเช่น Hotmail  เพื่อนทำการล็อกอิน และการดำเนินการทุกอย่าง เช่น อ่านเมล์ ส่งเมล์ ตอบเมล์ จะต้องผ่านหน้าเว็บที่เค้ากำหนดแล้วเท่านั้น ซึ่งส่วนนี้เองที่ผู้ให้บริการ มักจะแทรก banner โฆษณาไว้ ตามจุดต่างๆของหน้าเว็บนั้น เป็นการแลกเปลี่ยนกับอีเมล์ฟรีที่เราใช้ แม้ว่าพักหลังๆ จะมีการให้บริการแปลกใหม่ขึ้น เช่น ของ Yaoo Mail ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ download เมล์ มาที่เครื่องของตนเอง ผ่าน POP3 โปรแกรม เช่น Outlook โดยไม่ต้องทำการล็อคอินที่หน้าเว็บ เป็นต้น แต่ว่าไม่วายที่เค้า จะแทรกโฆษราลงไป แต่คราวนี้ เล่นบุกรุกมาแทรกไว้ด้านล่างสุดของเนื้อเมล์ของเราซะเลย

          ซึ่งมองในแง่ของผู้ใช้ก็ไม่เสียหายอะไร ดูโฆษณานิดหน่อย ไม่เป็นไรมาก ตราบใดที่เค้ายังให้เราใช้ฟรี Business Model ก็ไม่ต่างจาก ทีวี หรือ วิทยุ ที่ให้บริการฟรี แต่ก็มีโฆษณาคั่นกลาง เป็นระยๆ แต่พอ Google เปิดตัวได้ไม่เท่าไหร่ GMail ก็กลายเป็น talk of the world ไปเลย และเป็นเรื่องที่คนบนอินเตอร์เน็ตพูดถึงกมาที่สุดเรื่องหนี่ง

          ก็ทำไมจะไม่เป็นอย่างนั้นล่ะครับ ในเมื่อสิ่งที่ GMail เสนอให้แก่ผูใช้บริการ เป็นสิ่งที่ไม่มีใครทำได้มาก่อน ใน 2-3 เรื่องหลักๆด้วยกัน

อันแรกเลย เรื่องเนื้อที่ที่ GMail ให้บริการ

          ก็คือ GMail ให้เนื้อที่เก็บเมล์ฟรีๆ ถึง 1000 Mbytes (1 GB) เลยทีเดียว บางคนอาจจะมองไม่ออก ว่ามันเยอะแค่ไหน ผมประมาณคร่าวๆให้เห็นภาพแบบนี้น่ะครับ ปกติเมล์นึง เมล์นึง ก็มีขนาดเฉลี่ยประมาณ 3 Kbytes (หรือ 3000 ตัวอักษร) ซึ่งถ้าเรามีเนื้อที่ 1 GB เราก็เก็บเมล์ได้ประมาณ 300000 กว่าฉบับ อย่างสบายๆ ชนิดที่เรียกว่า ไม่ต้องคิดว่าจะลบเมล์ไหนดี หรือความกังวลที่ว่าเมื่อไหร่เมล์บอกซ์จะเต็ม เรื่องนี้เลิกคิดได้เลย เพราะมันเลยเถิดจากคำว่าเหลือเฟือไปไกลเลยและล่าสุดเมื่อวันที่ 31 สค 2548 GMail ให้เนื้อที่กว่า 2.5 GB

          ซึ่งเนื้อเรื่องที่มหาศาลนี้มีแต่คำชมครับ ว่ายอดเยี่ยมเป็นที่สุด ส่วนเรื่องที่ได้รับทั้งดอกไม้พร้อมกระถาง คือทั้งด่าทั้งชม นี่ก็เป็นเรื่องที่ 2 เรื่องที่ 3 นี่หล่ะครับ

เรื่องที่สอง ก็คือเรื่องของการจัดเรียงและค้นหาเมล์ และเนื้อหาภายในเมล์

          หลายคนคงคิดว่า พอมีเมล์เยอะอย่างนี้ แล้วหากเราจะอ่านซ้ำ ก็คงต้องหากันเหงือตกเลยซิ ว่าเมล์ไหนเป็นเมล์ไหนเก็บไว้ที่ไหน ตั้งเป็นแสนๆเมล์

          เรื่องนี้ GMail บอกว่าไม่ต้องตกใจ เพราะ เค้าจะใช้เทคโนโลยี่การค้นหาความเร็วสูงแบบ Google นั่นแหละ ในการหาเมล์เรา และที่สำคัญ เค้ามีเทคโนโลยี Data Mining ที่นำเอาอีเมล์มาจัดหมวดหมู่ตามความหมายของมัน พูดง่ายๆว่า GMail รู้ว่า เนื้อเรื่องที่คุณเขียนในเมล์ หรือ เมล์ที่มีคนส่งให้คุณเนี้ย กำลังพูดเรื่องอะไรกันอยู่ ระบบรู้น่ะครับ ระบบคือคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่คน ซึ่งมันจะประมวลผลเองอัตโนมัติจากคำศัพท์และประโยค มาตีความหมาย โดยอาศัยเทคโนโลยี Natural Language Processing แปล เป็นความหมายแล้วจัดหมวดหมู่ตามความหมาย เช่น กรุ๊ปเมล์ที่พูดถึงเรื่องกีฬา เมล์ที่พูดเรื่องการเรียน เป็นต้น

          ตรงนี้เองทีเป็นจุดขายของ GMail และขณะเดียวกัน ก็เป็นจุดที่ทำให้คนคุยกัน วิเคาระห์ วิจารณ์ และโจมตี ไม่รู้จบทั่วโลก...

: ดร.บุญญฤทธิ์ อุยยานนวาระ
: วิชาการ.คอม



ความสวยงามทางเทคโนโลยีเพื่อธุรกิจและธุรกิจด้านเทคโนโลยี

          ประเด็นที่ GMail โดนโจมตีเยอะที่สุดก็เห็นจะเป็นเรื่องของ สิทธิของผู้ใช้นี่หล่ะครับ ไหนจะเข้าไปอ่านเมล์ของผู้ใช้ ไหนจะโฆษณา ไหนจะปกปิด identity ของผูใช้

          หากมองในแง่ของผู้ใช้  จริงๆก็แทบไม่ต่างกัน เพราะ Yahoo หรือ Hotmail ก็โฆษณา เหมือนกัน จะใกล้เคียงความสนใจของผู้ใช้หรือเปล่า ผู้ใช้เมล์ปกติ ก็ไม่ค่อยสนใจจะดูมันอยู่แล้ว

          แต่ประเด็นที่ Google โดยประณาม มันไม่ได้ใช้อยู่ตรงนั้นครับ ประเด็นมันอยู่ตรงที่ว่า มีหลายคนสงสัยว่า GMail ทำลองนึกดูแบบนี้ครับว่า มีใครไม่รู้มาอ่านจดหมายของคุณซะละเอียดเลย จะคนหรือเครื่องจักร หรือคอมพิวเตอร์ อะไรก็แล้วแต่ แต่มาอ่านจดหมายของคุณ ก่อนที่คุณจะมาอ่านซะอีก อ่านแล้วหนำซ้ำยังวิเคราะห์ด้วยว่าเรื่องนี้เนื้อความในจดหมายเป็นเรื่องอะไรและวิเคราะห์ต่อไปว่าคุณหรือผู้ส่ง มีลักษณะการใช้ชีวิตอย่างไร(เพื่อโฆษณาที่ตรงความสนใจของคุณมาให้)(โชคดีที่ตอนนี้ GMail ยังไม่เข้าใจภาษาไทยครับ)ตรงนี้แหละครับ ที่แล้วแต่ว่าแต่ละคนจะตีความกันอย่างไร คนที่ไม่แคร์ก็ Happy ไป ส่วนคนที่รู้สึกว่าโดนละเมิดสิทธิ ก็จะด่าโจมตี GMail ว่าเป็นการกระทำของผู้ที่มีเงินและหวังแต่เงิน

          ก็แล้วแต่จะคิดกันไป ส่วน Google ก็บอกว่า หากผู้ใช้ ไม่ถือสาว่าเครื่องจักร หรือคอมพิวเตอร์มาตรวจสอบเมล์ของตัวเองก่อน ก็ถือว่าเป็นระบบที่น่าสนใจมากๆ และเป็นข้อเสนอของบริการที่ดี แต่ถ้าถือสา ก็อย่าใช้สิครับ Google แจ้งให้ทราบตั้งแต่ต้นแล้ว และมีทางเลือกเยอะแยะไป เช่น Yahoo ที่ขยายเนื้อที่ฟรีให้เป็น 300 Mbyte แล้ว

: ดร.บุญญฤทธิ์ อุยยานนวาระ
: วิชาการ.คอม



ดอกไม้ที่มาพร้อมกระถางและปุ๋ยหมัก

          ประเด็นที่หนึ่งที่ GMail ได้รับคำชมอย่างมาก ก็เพราะ GMail รู้ว่าคุณกำลังคุยกันเรื่องอะไร ทำให้ GMail จับโฆษณาสินค้า ที่ตรงประเด็น กับเรื่องในเนื้อเมล์ และใกล้เคียงกับความสนใจของคุณ ใส่มาให้คุณโดยอัตโนมัติ เช่นว่าในอีเมล์คุณกำลังคุยกับเพื่อนเรื่อง ไอ้แมงมุมที่ดูเมื่อคืนเด็ดมากเลย ระบบ GMail วิเคราะห์แล้วเห็นว่า ไอ้แมงมุมที่คุณพูดถึงคือ หนังที่กำลังฉายอยู่ แสดงว่าคุณอาจจะสนใจ DVD เรื่อง Harry Potter ที่เพิ่งวางตลาดด้วย ก็ใส่โฆษณาขาย DVD เข้ามาในเมล์คุณโดยอัตโนมัติ อย่างนี้เป็นต้น

          ซึ่งตรงนี้เองที่ต่างจาก Hotmail หรือ Yahoo ตรงที่ว่าพวกนี้ แม้จะเป็นการโฆษณาเหมือนกัน แต่พวกนี้ใส่ Banner โฆษณามาแบบ สุ่มสี่สุ่มห้า เอาอะไรก็ไม่รู้ใส่มาให้ บางครั้งผู้ใช้บริการสนใจบ้างไม่สนใจบ้าง ซึ่งหากใส่โฆษณาที่ไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย สื่อโฆษณานั้นกลับกลายเป็นสิ่งที่น่ารำคาญไปทันที ภาพลักษณ์ของ Product ในโฆษณาก็จะดูไม่ดีได้ ซึ่งตรงนี้ Yaoo กับ Hotmail  ก็ได้พยายามแล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร โดยพยายามจัดโฆษณาให้ตรงกลุ่มผู้ใช้มานานแล้ว เช่น โฆษณาที่ตรงตามกลุ่มอายุ โฆษณาที่เหมาะกับ location ของผู้ใช้ ซึ่งจริงๆแล้วข้อมูลเหล่านี้ก็เดาเอา หรืออิงตามที่ผู้ใช้กรอกเข้าไปตอนสมัคร ซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็กรอกข้อมูลปลอมๆอยู่แล้ว

          เป็นสัจธรรมของโลก ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ที่คำชมมันจะมาพร้อมกับคำด่า (เรื่องที่เค้าด่ากันสำหรับประเด็นนี้เดี่ยวไปอ่านหัวข้อต่อไปน่ะครับ) ส่วนเรื่องที่ 3 นี่ ดูเหมือนจะถูด่าซะส่วนใหญ๋

เรื่องที่ 3 เรื่อง identity ของผู้ใช้

          ณ ตอนที่เขียนเรื่องนี้ Google โดนโจมตีอย่างหนัก เกี่ยวกับประเด็นนี้ และไม่รู้ว่าจะกลับลำเปลี่ยน policy หรือเป่า แต่ผมขอทำนายว่า ไม่ Google ยังยืนหยัดให้บริการตามนี้ไปเรื่อยๆ

          เรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับ ปกติเวลาเราส่งเมล์ให้คนอื่น แม้ว่าจะส่งมาจาก Hotmail หรือ Yahoo ผู้รับก็สามารถที่จะอ่านข้อมูลของผู้ส่งได้ ซึ่งรวมถึง IP ของเครื่องผู้ส่ง พูดง่ายๆว่า เรารู้โดยประมาณครับ ว่าเมล์นี้ส่งมาจากไหน อย่างน้อยก็ประเทศไหน หรือองค์กรไหนในประเทศนั้น โดยดูที่ header ของเมล์

          ซึ่งผู้ใช้ธรรมดาๆ ที่เปิดอ่านเมล์ด้วย Yahoo หรือ Hotmail ก็จะไม่เห็นส่วน header เพราะ hotmail กับ yahoo ไม่ได้แสดงข้อมูลเหล่านี้ออกมาที่จอ แต่ถ้าคุณรับเมล์ที่ส่งด้วย Hotmail หรือ Yahoo ด้วยโปรแกรมประเภทอ่านเมล์โดยเฉพาะเช่น Outlook Expresss หรือ Pegasus หรือ Pine โปรแกรม พวกนี้ อนุญาตให้คุณเห็นข้อมูลพวก Header ด้วยประมาณนี้ครับ อันนี้เป็นข้อมูลของเมล์ขยะ ซึ่งส่งมาให้ผม จะเห็นได้ว่า มันบอกหมดครับ ว่าเมล์นี้ตั้งต้นมาจากไหนแล้ว Server ของผมรับตอนไหน เช่นวันที่ 19 Sep 2005 เวลา 20:5:28 -0000 เครื่องผมรับเมล์มาจาก Received:from 70-244-24-27.ospeca-bro.com (HELO twcny.rr.com)(70.244.24.27) เป็นต้น เพราะขั้นตอนปกติจะเป็นแบบนี้ครับ

เครื่องคอมของคุณ -> server Yahoo -> server ผู้รับ -> เครื่องคอมของผู้รับ

ซึ่งเส้นทานนี้ถูกระบุด้วย IP address ตลอดการเดินทางของข้อมูลครับ

การดูข้อมูล Header ก็ง่ายนิดเดียว Outlook ที่ผมใช้อยู่ ก็เพีบงคลิ๊กขวา ตรงเมล์นั้นแล้วเลือก Option หรือ Property แล้วแต่ version ของโปรแกรมของคุณ

          เพราะฉะนั้นตรงนี้ระวังให้ดีน่ะครับ ใครที่คิดว่าส่งเมล์ด้วย Hotmail หรือ Yahoo ไปจีบสาว หรือ ไปแกล้งชาวบ้าน แล้วคิดว่าจะปกปิดตัวตนได้ นี่อาจจะหน้าแตกได้ ถ้าผู้รับเมล์คุณมีความรู้เรื่องนี้ซักเล็กน้อย

          แต่ที่ Gmail ทำก็คือ ปกปิดข้อมูลเหล่านี้หมดสิ้นครับ นั่นแปลว่า ถ้าใช้ GMail แล้วหล่ะกัน identity ที่แท้จริงของคุณถูกปกปิดอย่างมิดชิดครับ ไม่ว่าคุณจะใช้โปรแกรมอะไรอ่านเมล์ header ที่ส่งมาพร้อมกับเมล์ ก็ไม่ต้องบอกต้นทางของข้อมูล แต่จะบอกว่าออกมาจาก google อย่างเดียว

: ดร.บุญญฤทธิ์ อุยยานนวาระ
: วิชาการ.คอม

 


GMail ขีดสุดความล้ำหน้าด้านธุรกิจสารสนเทศ, GMail ขีดสุดความล้ำหน้าด้านธุรกิจสารสนเทศ หมายถึง, GMail ขีดสุดความล้ำหน้าด้านธุรกิจสารสนเทศ คือ, GMail ขีดสุดความล้ำหน้าด้านธุรกิจสารสนเทศ ความหมาย, GMail ขีดสุดความล้ำหน้าด้านธุรกิจสารสนเทศ คืออะไร

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

คำยอดฮิต

Sanook.commenu