หลายๆ คนอาจจะยังไม่ทราบว่าในบ้านเรายังมีวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่การรำลึกถึงความเสียสละและความกล้าหาญอยู่อีกหนึ่งวัน นั่นก็คือ วันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช นับว่าเป็นวันที่เราจะต้องน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ทรงต่อสู้กับข้าศึกด้วยความเสียสละ ถึงแม้ในตอนนั้นพระองค์จะยังทรงประชวร แต่ก็ไม่เคยลดละความพยายามที่จะปกป้องผืนแผ่นดินไทยเอาไว้ ด้วยภาระหน้าที่ของจอมทัพใหญ่ที่ไม่ยอมให้ข้าศึกศัตรูหน้าไหนเข้ามารุกรานบ้านเมือง เมื่อผ่านพ้นศึกสงครามในครั้งนั้น พระองค์ทรวประชวนหนักและสวรรคตในที่สุด ทำให้เหล่าประชาราษฎรต่างยกย่องเทิดทูนพระองค์ ที่ได้ทรงเสียสละเลือดเนื้อเพื่อปกป้องแผ่นดินไทยให้อยู่ได้ตราบจนทุกวันนี้ โดยที่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นการลำบากพระวรกายของพระองค์แต่อย่างใด
วันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
วันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งความเดิมนั้น แผ่นดินไทยได้ร่มเย็นเป็นสุข ว่างเว้นจากการศึกสงครามเป็นเวลากว่า 100 ปี ตลอดระยะเวลาที่พระองค์ทรงครองสิริราชสมบัติก็ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่เป็นคุณประโยชน์ต่อบ้านเมืองเสมอมา พระองค์ทรงอุทิศพระวรกายทำราชการสงครามเกือบทั้งตลอดรัชสมัย จึงเป็นที่รู้กันดีว่าพระบรมเดชานุภาพของพระองค์นั้นกว้างใหญ่ไพศาล อริราชศัตรูทั้งหลายเกิดความยำเกรงในอำนาจไปตามๆ กัน
เมื่อวันพฤหัสบดี แรม 8 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง ซึ่งตรงกับ พ.ศ. 2148 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้เสร็จโดยกระบวนเรือ แล้วจึงต่อขึ้นทางบกยกทัพไปทางเมืองกำแพงเพชร เข้าสู่เมืองเชียงใหม่ จากนั้นพระองค์ก็ได้หยุดพักจัดกระบวนทัพอยู่ประมาณหนึ่งเดือน ก่อนจะให้กองทัพของสมเด็จพระเอกาทศรถยกไปทางเมืองฝาง ส่วนกองทัพหลวงได้ยกไปทางเมืองหาง แล้วทรงตั้งค่ายหลวงเพื่อประทับอยู่ที่ทุ่งแก้ว ครั้นเสร็จจากการศึกสงคราม สมเด็จพระนเรศวรมหาราชก็ได้ทรงประชวรเป็นหัวระลอก (ฝี) ขึ้นที่พระพักตร์ พระอาการก็หนักขึ้นกลายเป็นบาดทะพิษที่ส่งผลให้พระอาการหนัก พระองค์จึงทรงโปรดให้ข้าหลวงรีบไปอัญเชิญสมเด็จพระเอกาทศรถมาเข้าเฝ้า เมื่อสมเด็จพระเอกาทศรถเสด็จพระราชดำเนินมาถึงได้ 3 วัน สมเด็จพระนเรศวรมหาราชก็เสด็จสวรรคต เมื่อวันจันทร์ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 ปีมะเส็ง หรือตรงกับวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2148 สิริพระชนมพรรษาได้ 49 พรรษา รวมระยเวลาครองสิริราชสมบัติได้ 14 ปีเศษ จากนั้น สมเด็จพระเอกาทศรถก็ได้อัญเชิฐพระบรมศพกลับมายังกรุงศรีอยุธยา
กิจกรรมในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
เนื่องด้วยในวันที่ 25 เมษายนของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อเป็นการระลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ได้ทรงทำคุณประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองและปกป้องผืนแผ่นดินไทยเอาไว้ ประชาชนชาวไทยจึงร่วมกันน้อมถวายสักการะและความจงรักภักดีด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
พิธีวางพวงมาลา
เพื่อเป็นการถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช จึงได้จัดให้มีพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักกาะพระบรมสาทิสลักษณ์ โดยให้ประกอบพิธีวางพวงมาลา ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ หรือพระบรมราชานุสรณ์ แต่หากจังหวัดใดไม่มีพระบรมราชนุสาวรีย์ หรือพระบรมราชานุสรณ์ ก็ขอให้อัญเชิญพระบรมรูปปั้น หรือพระบรมฉายาลักษณ์ หรือพระบรมสาทิสลักษณ์ขึ้นประดิษฐาน ณ สถานที่อันสมควร เพื่อให้ผู้แทนจากส่วนราชการในจังหวัดต่างๆ สามารถที่จะถวายสักการะได้อย่างสมพระเกียรติ และในวันสมเด็จพระนเรศวรมหาราชนี้ไม่ถือว่าเป็นวันหยุดราชการ
ทำบุญ ใส่บาตร
วันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ถึงแม้จะไม่ใช่วันสำคัญที่ตรงกับวันพระ แต่ก็เป็นที่เห็นสมควรให้ชาวไทยทุกคนได้มีโอกาสทำบุญ ใส่บาตร เพื่ออุทิศเป็นพระราชกุศลและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ซึ่งตามหน่วยงานราชการต่างๆ อาจจะจัดให้มีพิธีสงฆ์ หรือการทำบุญ เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมนี้
จัดนิทรรศการ
ตามสถานศึกษา หรือหน่วยงานราชการ ก็จะมีการจัดบอร์ด หรือจัดนิทรรศการทางวิชาการที่เป็นการเผยแพร่พระราชประวัติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตลอดจนพระราชกรณียกิจที่สำคัญๆ ของพระองค์