
สัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา กรมศิลปากรได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินการออกแบบตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 และได้มอบหมายให้คณะช่าง 10 หมู่ จำนวน 5 คน ได้แก่ นายสุเมธ พุฒพวง นักวิชาการช่างศิลป์ 7ว. นายสมชาย ศุภลักษณ์อำไพพร นายช่างศิลปกรรม 5 นายณัฐพงค์ ปิยมาภรณ์ นักวิชาการช่างศิลป์ 6ว. นายอัครพล คล่องบัญชี จิตรกร 5 และนายเจริญ ฮั่นเจริญ จิตรกร 5 โดยให้ออกแบบตราสัญลักษณ์คนละ 3 แบบ ได้มาทั้งหมด 12 แบบ จากนั้นกรมศิลปากรได้รวบรวมแบบตราสัญลักษณ์ทั้ง 12 แบบ ผ่านสำนักนายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อทรงพระราชวินิจฉัย และกรมศิลปากรได้รับรายงานกลับมาว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ พระราชทานแบบที่ 12 ซึ่งเป็นผลงานออกแบบของนายสุเมธ พุฒพวง ทั้งนี้ เมื่อนำแบบตราสัญลักษณ์ดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชกระแสรับสั่งให้ปรับแก้ถึง 3 ครั้ง กว่าจะได้เป็นแบบตราสัญลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งแสดงออกถึงพระอัจฉริยภาพของพระองค์ทางด้านงานจิตรกรรม
นายสุเมธ พุฒพวง นักวิชาการช่างศิลป์ 7 กลุ่มงานศิลปประยุกต์ กลุ่มจิตรกรรมศิลปประยุกต์และลายรดน้ำ ผู้ออกแบบตราสัญลักษณ์ 80 พรรษาฯ ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบตราสัญลักษณ์ในครั้งนี้ ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การทำงานครั้งนี้เป็นการทำงานที่เป็นเกียรติต่อตัวเองและครอบครัว ที่มีโอกาสได้ถวายงานรับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะฉะนั้นเราต้องทำให้ดีที่ได้ ส่วนแนวความคิดในการออกแบบตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระเกียรติพระชนมพรรษา 80 พรรษา ประกอบด้วย
พระราชลัญจกรรัชกาลที่ 9 แทนองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9
พระมหาพิชัยมงกุฎ พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร 9 ชั้นไว้ด้านบนสุด และพระเศวตฉัตร 7 ชั้น หมายถึง เครื่องประกอบพระบรมราชอิสริยยศของพระมหากษัตริย์
เลขไทย 80 ที่อยู่ด้านล่างและเพชร 80 เม็ดที่อยู่รอบ ๆ ตราสัญลักษณ์ หมายถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา
แพรแถบสีชมพู บอกชื่อตราสัญลักษณ์ พระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 การใช้แพรแถบสีชมพูว่าเนื่องมาจากว่า สีชมพูเป็นสีประจำอายุตามหลักโหราศาสตร์ไทย หมายถึง การมีสุขภาพและพลานามัยที่สมบูรณ์
พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ เป็นพระที่นั่งที่มีความสำคัญเพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จประทับพระที่นั่งดังกล่าวในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และเสด็จประทับให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชบริพาร ถวายพระพรที่รัฐสภา ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชวินิจฉัยให้เขียนดอกพิกุลจำนวน 9 ดอก บริเวณแท่นแปดเหลี่ยมรองรับพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ด้วย
สำหรับประชาชนหรือหน่วยงานที่มีความประสงค์จะขอใช้ตราสัญลักษณ์ และการประดับธงตราสัญลักษณ์มีข้อปฏิบัติ ดังนี้
1.กรณีที่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป มีความประสงค์นำตราสัญลักษณ์ไปใช้ในการจัดทำสิ่งของใดๆ ก็ตามให้แจ้งสำนักราชเลขาธิการเพื่อพิจารณาคำขออนุญาต
2.โครงการและกิจกรรมที่ผ่านการพิจารณาให้ความเห็นชอบ เป็นโครงการและกิจกรรมร่วมเฉลิมพระเกียรติฯ จากคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ แล้วสามารถนำไปใช้ในโครงการและกิจกรรมได้ทันที โดยให้แจ้งสำนักราช เลขาธิการทราบ เพื่อรวบรวมบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ ยกเว้นโครงการและกิจกรรมที่ดำเนินเพื่อก่อให้เกิดรายได้ จะต้องได้รับการพิจารณาจากสำนักราชเลขาธิการก่อน
3.ให้ประดับธงชาติไทยคู่กับธงผืนผ้าสีเหลืองที่มีตราสัญลักษณ์บนผืนผ้าและประดับตราสัญลักษณ์ตามอาคารบ้านเรือนและสถานที่ของหน่วยงาน เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีโดยไม่ต้องขออนุญาตจากสำนักราชเลขาธิการ ทั้งนี้ ให้ประดับในระยะเวลาของการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2550 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2550