ทองคำเปลว ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Gold leaf ใบไม้ทองคำ มาจากกรรมวิธีการตีทองจนเป็นแผ่นที่บางมากใช้สำหรับการปิดทองหรือปิดบนองค์พระพุทธรูปหรือสิ่งสักการะ นอกจากนี้ยังนำมาทำขนม เพื่อตกแต่งให้เกิดสีสันและเพิ่มความสวยงาม เช่น ขนมทองเอกและขนมจ่ามงกุฎ ส่วนในวงการสวยๆ งามๆ ตอนหลังมานี้ฮิตทองคำเปลวไปทำเป็นเครื่องสำอางอีกต่างหาก จากข้อมูลของวิกิพีเดียประเมินว่า การตีทองเป็นแผ่นทองคำมีมานานหลายพันปี ทำจากทองเกรดและสีต่างๆ แต่ที่ใช้มากที่สุดคือทอง 22 กะรัต แผ่นทองคำเปลวแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ
1. ทองคัด หมายถึงแผ่นทองคำเปลวที่ตัดออกมาตามขนาดที่กำหนด โดยไม่มีรอยต่อของแผ่นทองมีราคาแพง
2. ทองต่อ หมายถึงแผ่นทองคำเปลวที่มีการตัดต่อแผ่นทอง โดยอาจนำแผ่นทองคำเปลวมาต่อกันมากกว่า 1 แผ่น มีราคาถูกกว่า
ขั้นตอนในการทำทองคำเปลว ต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญ อีกทั้งต้องผ่านกรรมวิธีหลายชั้น
ขั้นแรกต้องนำทองคำที่มีความบริสุทธิ์ 99.99 เปอร์เซ็นต์ มาผ่านการรีดแล้วนำทองคำที่รีดแล้วมาตัดเป็นแผ่นขนาดประมาณ 0.6x1.0 ซ.ม. จากนั้นนำทองคำที่ตัดมาใส่กระดาษแก้วและวางซ้อนกัน วิธีการซ้อนต้องนำแผ่นทองคำมาวางซ้อนด้านหัวท้าย 2 แผ่น ก่อนที่จะนำมาสวมด้วยกุบหรือแผ่นหนังวัว เพื่อเตรียมนำไปตีอีกครั้ง
ส่วนขั้นตอนการตีต้องใช้ค้อนที่จะมาจากทองเหลืองซึ่งมีความแข็งที่น้อยกว่าค้อนเหล็กเท่านั้น เพราะหากใช้ค้อนเหล็กจะทำให้แผ่นทองที่นำมาตีฉีกขาด หลังจากตีแผ่นทองได้ตามที่ต้องการจะย้ายแผ่นทองออกจากกุบไปใส่ไว้ในกระดาษแก้ว เพื่อนำไปตัดให้ได้ขนาดตามที่ต้องการ มาถึงขั้นตอนการตัดแผ่นทอง จะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
1.ทองคำเต็ม เป็นแผ่นทองที่ถูกตัดเต็มแผ่นกระดาษ มีขนาด 4x4 ซ.ม. และขนาด 3.4x3.5 ซ.ม.
2.ทองจิ้ม เป็นแผ่นทองขนาดเล็ก ตัดไม่เต็มแผ่นกระดาษ มีขนาด 2.5x2.5 ซ.ม. และขนาด 1.5x1.5 ซ.ม.
เมื่อได้ทองคำเปลวออกมา จึงคัดเกรดแผ่นทองออกเป็น 2 ชนิดคือ ทองแดงหรือทองซัว หมายถึง ทองคำเปลวที่ทำมาจากแผ่นทองคำบริสุทธิ์ 99.99 เปอร์เซ็นต์ เมื่อตีออกมาแล้วจะได้แผ่นทองที่มีสีทองเหลืองอร่ามออกแดง
ทองเขียว หมายถึง ทองคำเปลวที่ทำมาจากแผ่นทองคำที่บริสุทธิ์ 97 เปอร์เซ็นต์ เมื่อตีออกมาแล้วจะได้แผ่นทองที่มีสีทองเหลืองอร่ามออกเขียว ทองแดงหรือทองซัวจึงมีราคาแพงกว่าทองเขียว
สำหรับสูตรการใช้ทองคำในการดูแลผิว มีบันทึก (บวกโฆษณา) ว่า พระนางคลีโอพัตราของอียิปต์ทรงสวมใส่หน้ากากทองคำบริสุทธิ์ในขณะบรรทม เพื่อรักษาความงามและอ่อนเยาว์ของผิวพรรณไว้ยาวนานที่สุด เช่นเดียวกับ สตรีสูงศักดิ์ในวังหลวงของจีนใช้ลูกกลิ้งทำจากทองคำมานวดเพื่อถนอมความงามของผิวจึงเชื่อกันว่า ทองคำมีคุณสมบัติที่ดีต่อผิวพรรณ ตอนนี้ประเทศผู้ผลิตเครื่องสำอางอย่าง ญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลี จึงโปรโมตการทรีตเมนต์ด้วยทองคำบริสุทธิ์ว่าช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส ส่วนตามสปาต่างๆ มีการใช้แผ่นทองคำปิดแผ่นทองลงบนผิวโดยตรง หรือใช้ผงทองคำผสมกับวิตามินมามาสก์ใบหน้าเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า เป็นต้น
ที่มาข้อมูล khaosod.co.th
ที่มารูปภาพ nuikmitl.multiply.com
