คัมภีร์มรณะ (Book of the Dead) เป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของชาวอียิปต์ ซึ่งชาวอียิปต์โบราณจำพวกโหราจารย์และนักบวชได้บันทึกความรู้ทางด้านโหราศาสตร์ ดาราศาสตร์ และทางศาสนา
ม้วนกระดาษปาปิรัสที่เป็นคัมภีร์มรณะนี้มิใช่เรื่องราวที่นักเขียนทั่วไปจะแต่งกันได้ แต่ผู้จัดทำจะต้องเป็นพระหรือนักบวชที่หากินกับญาติคนตายโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นคาถาอาคม เวทย์มนตร์ คำสวด บทร้อง บทภาวนา และพิธีกรรมต่าง ๆ แบ่งเป็นบท ๆ โดยมีตัวเลขกำกับทุกบท เท่าที่รวมรวมได้ในขณะนี้มีกว่าสองร้อยบท และยังไม่เคยพบ "คัมภีร์มรณะ" ม้วนใดที่มีครบทุกบทตามที่รวบรวมได้
ปกติผู้เขียนคัมภีร์มรณะมักจะจัดทำขึ้นล่วงหน้า ยังไม่ทราบชื่อลูกค้า นี่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร เพราะเขาเว้นช่องว่างไว้ใส่ชื่อผู้ตายในภาย หลัง ว่าง ๆ เขียนขึ้นมาเป็นแบบครอบคลุมหมด ใคร ๆ ก็ใช้ได้ ทำเป็นอุตสาหกรรมเลยทีเดียว มีคุณภาพหลายระดับ ขึ้นอยู่กับราคา บางม้วนก็ มีขนาดความยาวกว่าเก้าสิบฟุต บางม้วนอาจสั้นลง ซึ่งโดยทั่วไปจะมีคาถาอาคมป้องกันผู้ตายระหว่างอยู่ในหลุมศพ มีคำแนะนำควรจะปฏิบัติตน อย่างไรในขณะที่วิญญาณถูกเหล่าเทพเจ้าซักฟอก หากมีความผิดจริงจะหลีกเลี่ยงได้อย่างไร หากเป็นที่ยอมรับของเหล่าคณะเทพแล้วจะได้พบ กับอะไรบ้าง ตลอดจนพิธีกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวมัมมี่เพื่อว่าหลังฟื้นคืนชีพอีกครั้งจะได้ไม่เป็นคนพิการ
เมื่อกลายเป็นอุตสาหกรรมไปแล้วจึงมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นเป็นประจำ บางทีพบคาถาอาคมบทเดียวกันปรากฏอยู่ในคัมภีร์มรณะม้วน เดียวกันถึงสองครั้ง ซึ่งนักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่า คงมีนักเขียนสองคนช่วยกันทำงานม้วนเดียวกันโดยไม่มีการตกลงกันก่อน เลยลอกเอา บทเดียวกันลงไป และไม่ได้มีการอ่านทบทวนก่อนนำออกขาย
อันที่จริงคิมภีร์ที่กล่าวถึงนี้มีชื่อดั้งเดิมเป็นตัวอักษรฮีโรกลีฟิก ซึ่งแปลว่า The Chapters of Coming - Forth - By - Day ส่วนชื่อคัมภีร์มรณะทีใช้กันอย่างแพร่หลายสืบเนื่องมาจากนายริชาร์ด เลปซีอุส นักอียิปโตโลยีชาวเยอรมัน ได้รวบรวมมาพิมพ์เล่มในครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1842
การที่ตั้งชื่อคัมภีร์มรณะไม่ให้สอดคล้องกับเนื้อหา เพราะเขามีธรรมเนียมที่จะหลีกเลี่ยงไม่กล่าวถึงความตาย และคนตายกันตรง ๆ นิยมใช้คำเปรียบเปรยต่าง ๆ นานา ที่พบบ่อย ๆ มีสองสำนวน ได้แก่ "เขาไปทิศตะวันตกแล้ว" กับ "ผู้ตายมีเสียงอีนแม้จริง"
คัมภีร์มรณะ มีด้วยกันหลายสำนวน ขึ้นอยู่กับแหล่งผลิต นักโบราณคดีลงความเห็นว่า สำนวนที่สำคัญที่สุดมาจากธีบส์ (Thebes - เมืองหลวงเก่าแก่แห่งหนึ่ง ปัจจุบันอยู่ในพื้นที่ของเมืองลักซอร์) มักจะกล่าวสรรเสริญเทพเจ้า โดยเฉพาะเทพโอซิริส
ชาวอียิปต์โบราณ มักจะวางคัมภีร์มรณะไว้ระหว่างขาของมัมมี่ หรือวางไว้ที่ฐานของหุ่นผู้ตาย ซึ่งอาจเป็นรูปปั้นหรือแกะสลักฝัง รวมอยู่ในสุสาน
ที่มา https://www.skn.ac.th/skl/project/gpa48/egp7.htm