1. คนหายจากอุทกภัยมีสามประเภทใหญ่ๆ ประเภทแรก หายตอนอพยพ ซึ่งไปคนละทิศละทาง ถูกส่งไปอยู่คนละศูนย์อพยพ ประเภทที่สอง คนหายลุยฝ่าน้ำกลับเข้าไปดูบ้านหลังอพยพออกมา แล้วขาดการติดต่อ เนื่องจากไม่ได้เอาโทรศัพท์เข้าไปด้วย ประเภทที่สาม คนหายประสบอุบัติเหตุ จมน้ำหรือไฟดูด และกลายเป็นศพไม่ทราบชื่อ รวมทั้งศพถูกเคลื่อนย้ายไปยังนิติเวชโรงพยาบาลจังหวัดอื่น ทำให้ญาติตามหาศพไม่เจอ
2.การติดตามคนหาย ในเบื้องต้น ควรเริ่มจาการพยายามติดต่อเพื่อนคนหายก่อน เพราะส่วนใหญ่ คนหายอาจจะไปขอพักอาศัยตามบ้านเพื่อนหรือคนรู้จักเป็นลำดับแรก
3.การแจ้งความคนหาย ควรพิจารณาเป็น 2 กรณี - กรณีเด็กและผู้สูงอายุ ควรไปแจ้งความคนหายได้เลยหลังจากหายไปผิดปกติ แม้ว่าจะหายไปไม่ถึง 24 ชม.ก็ตาม เพราะอาจเกิดเหตุร้ายกับเด็กและผู้สูงอายุที่หายไป กรณีผู้ใหญ่ ควรรอให้หายไปครบ 24 ชม.ก่อน เนื่องจากอาจเป็นเพียงการขาดการติดต่อ เพราะไม่สะดวกในการใช้โทรศัพท์
4.ควรไปแจ้งความ ยังสถานีตำรวจท้องที่ ซึ่งคนหายหายตัวไป ถ้าเป็นที่บ้านให้แจ้งความในท้องที่บ้านของคนหาย ถ้าหายไปจากศูนย์อพยพให้ไปแจ้งความยังท้องที่ซึ่งอพยพตั้งอยู่
5.การติดตามคนหายในลำดับต่อมา หลังจากแจ้งความ ควรตรวจสอบไปตามศูนย์อพยพใกล้บ้าน หรือหากศูนย์อพยพมีการเคลื่อนย้ายเนื่องจากน้ำท่วม ควรตรวจสอบว่าศูนย์อพยพย้ายไปอยู่ที่ใด เพื่อขอตรวจสอบรายชื่อผู้อพยพในศูนย์ดังกล่าว โดยสามารถสอบถามรายละเอียดของศูนย์อพยพ ทุกแห่งได้ที่ ศูนย์ประชาบดี โทร 1300
6. การประสานงานไปยังหน่วยงานต่างๆ เกี่ยวกับคนหาย ควรเตรียมสำเนาใบแจ้งความ และภาพถ่ายปัจจุบันของคนหายเตรียมไว้ด้วย เพื่อง่ายในการประสานข้อมูล
7.กรณีเด็กหายพลัดหลง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะส่งเด็กไปยังสถานแรกรับเด็ก ส่วนผู้สูงอายุ ที่พลัดหลง เจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะนำส่งไปยังสถานแรกรับคนไร้ที่พึ่ง โดยญาติคนหายสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ศูนย์ประชาบดี โทร 1300
8.หากคนหายเสียชีวิต ปกติแล้วตำรวจหรือโรงพยาบาลจะแจ้งกลับมาหาญาติ ตามรายละเอียดในเอกสารที่อยู่ติดตัวของผู้เสียชีวิต เว้นแต่ศพผู้เสียชีวิตจะไม่มีเอกสารใดๆ ติดตัว กรณีนี้ ญาติสามารถสอบถามรายละเอียดไปยังสถานีตำรวจว่ามีศพไม่ทราบชื่อเสียชีวิตในพื้นที่หรือไม่ หรือติดต่อไปยังแผนกนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นหน่วยงานในการชันสูตรศพจากพื้นที่น้ำท่วม โทร 022076000 ต่อ1101
9.การประกาศติดตามหาคนหายผ่านสื่อมวลชน และเครือข่ายสังคมออนไลน์ อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แต่ควรตรวจสอบข้อมูลจากระบบต่างๆ จนแน่ใจว่าหาไม่พบ เนื่องจากการสื่อสารภาพคนหายผ่านสาธารณะ อาจกระทบต่อสิทธิของคนหาย ถ้าประสงค์จะติดตามคนหายผ่านสาธารณะสามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา www.facebook.com/thaimissing
10.ในฐานะคนทำงานด้านการติดตามคนหายมากว่า 10 ปี เชื่อมั่นว่าภายหลังจากสถานการณ์น้ำลดระดับแล้ว ทุกอย่างจะดีขึ้น คนหายอาจจะมีโอกาสได้ติดต่อกลับมา และเราเชื่อว่าจะคนหายทุกคนปลอดภัยครับ.
ขอบคุณ : ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา
เกาะติดข่าวน้ำท่วม ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม 2554 : https://news.sanook.com/thaiflood/