ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ครั้งนี้ จะเกิดขึ้นในวันที่ 1 สิงหาคม 2551 ดวงจันทร์จะเข้าบังดวงอาทิตย์หมดดวง จะเกิดแนวคราสเป็นเส้นทางแคบ ๆ บนพื้นผิวโลก เริ่มต้นที่แคนาดา ผ่านตอนเหนือของกรีน แลนด์ มหาสมุทรอาร์กติก รัสเซีย มองโกเลีย แล้วไปสิ้นสุดที่ประเทศจีน
จากข้อมูลของสมาคมดาราศาสตร์ไทย ระบุว่า ปรากฏการณ์สุริยุปราคา ครั้งนี้เงามืดของ ดวงจันทร์จะเริ่มแตะพื้นผิวโลกเวลาประมาณ 16.21 น. ตามเวลาของประเทศไทย
ดังนั้น ผู้ที่อาศัยอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะวิคตอเรีย แคนาดา จะได้เห็นสุริยุปราคาเต็มดวงนาน 1 นาที 30 วินาที จากนั้นเงามืดจะเคลื่อนไปทางตะวันออก จนกระทั่งมาสิ้นสุดที่ประเทศจีนเวลา 18.21 น. ชาวจีนจะได้เห็นสุริยคราสเต็มดวงนาน 1 นาที 28 วินาที ขณะดวงอาทิตย์กำลังตก ผู้ที่อยู่ในยุโรปตอนเหนือ แคนาดาทวีปเอเชียจะได้เห็นยกเว้นผู้ที่อยู่ในญี่ปุ่นและประเทศที่อยู่ในทะเลจีนใต้
สำหรับประเทศไทย ก็อยู่ในพื้นที่สามารถเห็นสุริยุปราคา บางส่วนได้ จุดที่จะเห็นดวงอาทิตย์เริ่มแหว่งมากที่สุดคือ พื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ตัว อย่างเช่น คนกรุงเทพฯ จะเริ่มเห็นตั้งแต่เวลา 18.02 น. บังเต็มที่เวลา 18.44 น. เชียง ใหม่ เวลา 17.54 น. บังเต็มที่ เวลา 18.45 น. นครราชสีมา เวลา 17.59 น. บังเต็มที่ เวลา 18.39 น. และนครศรีธรรมราช เริ่มเวลา 18.12 น. บังเต็มที่เวลา 18.29 น.
ปกติแล้วนักดาราศาสตร์เตือนว่า การดูดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่านั้นเป็นสิ่งต้องห้าม จะต้องมีแว่นกรองแสงหรือแผ่นกรองแสงที่ออกแบบมาสำหรับดูดวงอาทิตย์ อาจดูผ่านกล้องโทรทรรศน์ที่มีแผ่นกรองแสง แต่สุริยุปราคาครั้งนี้ เป็นจังหวะที่ดวงอาทิตย์ อยู่ใกล้ขอบฟ้ามาก เพราะเกือบจะตกลับฟ้าแล้ว แสงอาทิตย์อาจจะอ่อนลงจนดูด้วยตาเปล่าได้เป็นเวลาสั้น ๆ แต่ห้ามจ้องนานเกิน 2-3 วินาทีต่อครั้ง
น.ส.ประพีร์ วิราพร นายกสมาคมดาราศาสตร์ไทย ย้ำว่า ไม่ควรอย่างยิ่ง ที่จะมองดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่า และแนะนำให้มองผ่านกล้องรูเข็มเท่านั้น
อุปกรณ์ที่ไม่ควรนำมาใช้ดู คือ กระจกรมควัน แว่นกันแดด กระดาษห่อลูกอม แผ่นดิสเก็ตต์ ฟิล์มเอกซเรย์ ฟิล์มถ่ายรูป เนื่องจากรังสีอินฟราเรดสามารถทะลุผ่านวัสดุเหล่านี้ได้และเป็นอันตรายต่อดวงตา
สมาคมดาราศาสตร์ไทยแนะนำว่า หากไม่มีแผ่นกรองแสง ก็อาจใช้หลักการของกล้องรูเข็มมาสังเกตปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์บนท้องฟ้าครั้งนี้ก็ได้ วัสดุที่ใช้ก็มี กระจกเงาบานเล็ก กระดาษที่มีขนาดใหญ่กว่ากระจก กรรไกรหรือคัตเตอร์ และเทปกาว
เมื่อได้อุปกรณ์แล้วก็เริ่มด้วยนำกระดาษมาเจาะให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาด 1 ซม. แล้วนำไปประกบกับบานกระจกด้วยเทปกาว เวลาใช้งานให้นำกระจกเงาไปสะท้อนกับแสงอาทิตย์ให้แสงสะท้อนไปตกบนผนังสีอ่อนหรือฉากรับสีขาวภายในบ้าน ภาพบนฉากจะเป็นภาพสะท้อนของ ดวงอาทิตย์
อย่างไรก็ตาม ชาวไทยยังมีโอกาสดูสุริยุปราคาบางส่วนอีกครั้ง เวลาบ่ายถึงเย็น ในวันที่ 26 มกราคม 2552 ซึ่งจะชมปรากฏการณ์ได้ดีกว่าปีนี้ เพราะช่วงเวลานั้นยังเป็นหน้าหนาว ท้องฟ้าจะปลอดโปร่งไร้เมฆฝน หรือจะเข้าไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://thaiastro.nectec.or.th
= สุริยุปราคาหมดดวง
ที่มา
https://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=171892&NewsType=1&Template=1
ภาพจาก
https://thaiastro.nectec.or.th/skyevnt/eclipses/200808tse.html
