วิกฤติการเงินสหรัฐที่กำลังสั่นคลอนเศรษฐกิจทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยในครั้งนี้ หากเปรียบเทียบเป็นศีกสงครามก็ต้องยอมรับว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นยังอีกยาว และจะยังไม่จบลงง่ายๆ แม้แผนการฟื้นฟูการเงินของสหรัฐ 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐจะได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรสไปเมื่อประมาณต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก็ไม่ได้หมายความว่าปัญหาจะจบลงในระยะเวลาใกล้ๆนี้ นักวิเคราะห์หลายสำนักเองก็มองว่าวิกฤติทางการเงินในสหรัฐในครั้งนี้ ปัญหาค่อนข้างซับซ้อนและซึมลึก แถมมูลค่าความเสียหายก็สูงมากจนไม่อาจประเมินมูลค่าความเสียหายได้ ฉะนั้นไทยจึงไม่ควรมองปัญหาแค่ระยะสั้นๆ เพราะเมื่อเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาและเศรษฐกิจโลกซบเซา แน่นอนว่าเศรษฐกิจของไทยก็จะได้รับผลกระทบด้วย แผนฟื้นฟูที่ว่านี้ก็ไม่ใช่ว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาฟื้นตัวกลับมามีเสถียรภาพได้ในทันที หากแต่เป็นการป้องกันไม่ให้ระบบสถาบันการเงินล่มสลายอีกระลอก หรือเป็นการอุดรูรั่วไม่ให้เรือจมเท่านั้น (ซึ่งแม้กระนั้น ก็มีนักวิชาการทางเศรษฐศาสตร์หลายรายไม่มั่นใจว่าแผนนี้จะได้ผลด้วยซ้ำ)
ถ้าเราจำวิกฤติต้มยำกุ้งกันได้ วิกฤติการครั้งนั้นก็มีอะไรคล้ายๆกับการแก้ปัญหาเวอร์ชั่นแฮมเบอร์เกอร์ เช่นกัน ย้อนกลับมาดูของเราสมัยนั้น ก็มีทั้งการปรับโครงสร้างหนี้ ล้มละลาย ยุบบริษัท ลดเงินเดือน เลิกจ้าง หดตัวต่างๆนานา แม้วิกฤติสหรัฐครั้งนี้คือวิกฤติการณ์ของภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เหมือนกับสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นเมื่อสิบกว่าปีก่อน เพราะในที่สุด ปัญหาก็คงจะลามไปทั่วโลก แต่ที่แน่ภาคเอกชนของสหรัฐอเมริกาจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจในครั้งนี้อย่างรุนแรง ส่วนที่จะลามมาถึงประเทศไทยก็คือบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐคงหยุดลงทุนกันพักใหญ่ เพื่อประคองตัวให้รอด ดังนั้นที่เราจะหวังจะดึงเงินลงทุน FDI ก้อนใหญ่ๆก็คงยาก (หรือแม้แต่บริษัทสัญชาติญี่ปุ่นและยุโรป) ธนาคารยักษ์ใหญ่ทั้งของอเมริกาและยุโรปคงต้องใช้เวลารักษาบาดแผลและปรับองค์กรภายในอีกนานพอดู และคงไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะปล่อยสินเชื่อ ดังนั้นกลไกสินเชื่อที่เป็นเฟืองขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกคงหยุดหมุนไปอีกนาน
ฉะนั้นวิกฤติเศรษฐกิจในรอบนี้ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนควรไทยไม่ควรจะประมาท แต่ต้องเร่งวางแผนเพื่อรับมือผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจอย่างรอบด้าน ทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว สร้างความเชื่อมั่นดึงการลงทุนกลับคืนมา ไม่ใช่มองแค่ระยะสั้นๆ เพราะวิกฤติรอบนี้ เจ็บลึก เจ็บนานและสะเทือนไปทั้งโลก มาช่วยกันหาทางตั้งรับวิกฤติที่จะเกิดขึ้นกันให้ดีๆเถิด
โดย คุณวีระชาติ ชุตินันท์วโรดม
ที่มา TSI Investment Wiki
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
https://www.tsi-thailand.org/
https://www.set.or.th/