กีฬาวูซู เป็นศิลปะการต่อสู้ของชาวจีน และเป็นศิลปะทางวัฒนธรรมที่มีความยาวนาน และมีบทบาทสำคัญในทุกยุคสมัยที่มีการรบทัพจับศึกของประเทศจีนแต่โบราณกาล คำว่า วูซู แปลตรงตัวว่า วิทยายุทธ แต่ชาวจีนโพ้นทะเลที่นำวิชาวูซูไปเผยแพร่ในนามเรียกขานตามภาษาพื้นเมืองว่า กังฟู ประกอบกับประเทศจีนในยุคนั้นเป็นยุคปิดประเทศ ผู้คนทั่วไปจึงรู้จักวิชาวูซูภายใต้ชื่อเรียกขานว่า กังฟู ต่อมาเมื่อจีนเปิดประเทศ และได้ให้การพัฒนาวิชาวูซูเป็นกีฬา จึงได้ให้การเรียกขานให้ถูกต้องว่า วูซู (WUSHU) นอกจากนี้ วิชาวูซูยังเป็นวิชาต้นแบบของวิชาต่อสู้ป้องกันตัวที่มีชื่อในหลายวิชาของ ทวีปเอเชียอีกด้วย
ประเทศไทยได้รับอิทธิพลวิชาวูซู นับตั้งแต่ชาวจีนอพยพเข้าสู่ประเทศไทยแต่ครั้งโบราณ และมีการฝึกสอนและถ่ายทอดกันเฉพาะแก่ลูกหลานชาวจีน จึงไม่เป็นที่แพร่หลาย แม้แต่ปัจจุบัน ชาวไทยจะรู้จักวิชาวูซูแต่เพียงการรำมวยจีนเพื่อสุขภาพเท่านั้น เนื้อหาสาระในทางลึกนั้น ยังคงเป็นปริศนาอยู่ แต่ปัจจุบันนี้ เมื่อวิชาวูซูได้รับการพัฒนาเข้าสู่ระบบกีฬาแล้ว วิชาวูซูในทางลึกก็ค่อยกระจ่างขึ้น
ประวัติการก่อตั้งสมาคม
ก่อนเป็นสมาคมวูซู ได้มีการจัดตั้งสถาบันวูซู-กังฟูขึ้น เพื่อให้การเผยแพร่วิชาวูซู(ซึ่งยังต้องใช้ชื่อเรียกว่ากังฟู) เป็นแห่งแรกของเมืองไทย เมื่อปี พ.ศ. 2521 โดยอาจารย์บลู ดิษยบุตร และเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งเป็นสมาคมกีฬาวูซูในปี พ.ศ. 2529 และในเวลาต่อมา โดยการสนับสนุนของการกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬา วูซู ก็ได้รับการปรับเปลี่ยนเป็นสมาคมสหพันธ์วูซูแห่งประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2534 โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
เพื่อให้การส่งเสริมพัฒนากีฬาวูซูภายในประเทศให้มีระดับมาตรฐาน เพื่อเป็นศูนย์กลางในการบริการด้านวิทยาการวูซูแก่สโมสรสมาชิก เพื่อการพัฒนาสุขภาพพลานามัยแก่บุคคลทั่วไป ทั้งยังเป็นองค์กรบริหารกิจการกีฬาวูซูภายในประเทศ และเป็นผู้แทนประเทศไทยในการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาวูซูในระดับซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ และโอลิมปิกเกมส์อีกด้วย
ข้อมูลจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)
https://www.sat.or.th