เทคโนโลยี่ Grid Computing ได้มาอย่างไร? อะไรคือ World Wide Grid(WWG) กับ World Wide Web(WWW) และจะนำพา Grid Computing ไปประยุกต์ใช้ด้านใด มาดูกันครับ
World Wide Grid (WWG) กับ World Widw Web (WWW)
World Wide Grid (WWG)
เป็นเทคโนโลยีเครือข่ายแนวใหม่ที่ใช้คอมพิวเตอร์เชื่อมโยงและกระจายทรัพยากรให้กัน ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะในด้านการประมวลผล ความจุ หรือสมรรถนะในการถ่ายโอนข้อมูล จะสามารถเข้าถึงทรัพยากรคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายได้อย่างสะดวกและรวดเร็วพร้อมกัน อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งเชื่อมโยงกันผ่านอินเทอร์เน็ตอีกครั้งหนึ่ง จึงเรียกว่า world wide grid
World Wide Web (WWW)
ที่มักนิยมเรียกสั้นๆว่า web เป็นบริการทางอินเตอร์เน็ตที่นำเสนอข้อมูล ข่าวสาร และสารสนเทศจากเครื่องคอมพิวเตอร์หลายๆเครื่องของหลายๆบุคคลที่ต้องการเสนอให้คนทั่วโลกได้รับรู้ผ่านทางอินเตอร์เน็น โดยใช้โปรโตคอล HTTP ในการติดต่อสื่อสาร และคอมพิวเตอร์ เหล่านี้จะถูกเรียกว่า "เว็บเซิร์ฟเวอร์ (Web Server)" ซึ่งกระจายอยู่ทุกหนทุกแห่ง ทั่วโลก
: nopop
: วิชาการ.คอม
พื้นฐานของเทคโนโลยี Grid Computing
พื้นฐานของเทคโนโลยี Grid Computting หรือ Grid Technology
กริด (Grid) : มีความหมายแรกคือ ตารางหรือตะแกรงหรือตาข่าย เรารู้จักกันดี เช่น ตาราง Excell ตาข่ายร่างแหตารางหมากรุก ตารางหมากฮอร์ส โดยถ้าพิจารณา 2 ตารางหลังนี้ จะมีอุปกรณ์การเล่น (ถือว่าเป็นทรัพยากร) และมีวิธีการเล่น (process) ต่างกัน ซึ่งตารางหมากรุก และตารางหมากฮอร์ส จะมีเส้นทางการเดินทรัพยากรหรือเรียกว่าเส้นทางเดิหมากที่เชื่อมโยงติดต่อกันถึงระหว่างจุดต่อจุดรวมกันเป็นเครือข่ายหรือตาข่าย แต่ละจุดหรือช่อง (Cell) ของตารางใดๆจะกำหนดให้เป็นหนึ่งแฟลตฟอร์ม ถ้าจะบังคับทางเดินทรัพยากรหรือเดินหมากไปมา (distribute) ระหว่างแฟลตฟอร์มก็จะมีวิธีการเดินตาม process ที่ได้กำหนดไว้ สามารถกำหนดการเดินทางให้กระโดดจากแฟลตฟอร์มหนื่งไปยังอีกแฟลตฟอร์มหนึ่งที่อยู่ห่างไกลได้ ซึ่งผู้เล่นหรือ user หรือ End User จะต้องเรียนรู้และเข้าใจวิธีการ (Process)
กริด (Grid) : มีบัญญัติความหมายไว้อีกอย่างว่า คือระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้า ซึ่งลักษณะที่เราเห็นก็คือหากผู้ใช้ (user) ต้องการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าใด ๆ เช่น ตู้เย็น ทีวี ก็เพียงแค่เราเสียปลั๊กของอุปกรณ์นั้นเข้ากับเต้าเสียบที่ตำแหน่งต่างๆ ตามกำหนดไว้ในบ้านเรือน อุปกรณ์ไฟฟ้าก็จะได้รับพลังงานจากกระแสไฟฟ้านั้น เพื่อเปลี่ยนแปลงรูปแบบให้ผูใช้ได้บริโภคตามวัตถุประสงค์ โดยทุกๆครัวเรือน สามารถใช้กระแสดฟฟ้าจากแหล่งทรัพยากรเดียวกันได้ คือจาก แหล่งผลิตกระแสไฟฟ้า เช่น เขื่อน หรือโรงผลิดไฟฟ้า นั้นเอง
คลัสเตอร์ (Cluster) : มีความหมายกลางๆว่า เป็นกลุ่มคนหรือกลุ่มสิ่งของที่อยู่รวมกันเป็นกระจุกหรือหนาแน่น อยู่บนขอบเขตพื้นที่จำกัดในแผลกฟอร์มเดียวกัน จะติดต่อเชื่อมโยงหรือประสานงานทรัพยากรทำงานร่วมกันได้เฉพาะในแฟลตฟอร์มเดียวกัน หรือสถานที่เดียวกนเท่านั้น เช่น การนำคอมพิวเตอร์หลายๆเครื่อง (แต่ละเครื่องอาจจะมี CPU มากกว่า 2 ตังขึ้นไป) ที่ไม่ถูกใช้งานบางช่วงเวลา หรือไม่ได้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเก่า หรือรุ่นใหม่ มาต่อรวมกันให้ทำงานตามวัตถุประสงค์ ของมหาวิทยาลัยหนึ่งๆ ก็ถือว่าเป็น Cluster หนึ่งของมหาวิทยาลัยนั้นๆเป็นต้
คอมพิวติ้ง (Computing) : มีความหมายว่า คือการคำนวณ หรือการประมวลผล ถ้ามองทางด้านวิทยาศาสตร์กายภาพจะเป็นการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำการประมวลผล โปรแกรมที่รับเข้าไป ซึ่งเข้าใจกันดีว่าเป็นการประมวลผลข้อมูลคอมพิวเตอร์นั่นเอง
กริดคอมพิวติ้ง (Grid Computing) : เป็นเทคโนโลยี หรือนวัตกรรม ที่ได้ผ่านการวิจัยและพัฒนาขึ้นมา เพื่อให้ระบบทำการคำนวณหรือประมวลผลข้อมูลที่ซับซ้อน ด้วยสมรรถนะสูง โดยได้จัดเอาทรัพยากรด้านคำนวณหรือทรัพยากรประมวลผลด้านคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ เครื่องมือ อุปกรณ์ต่าง ๆมาทำการต่อเชื่อมโยงให้ถึงกัน ให้ทำงานร่วมกันเป็นระบบเครือข่ายขนาดใหญ๋เพียงระบบเดียว ในรูปแบบของ Grid เพื่อทำการคำนวณหรือประมวลผลข้อมูลพร้อมกันในเวลาเดียวกันโอนถ่ายข้อมูลระหว่างกัน ไม่ว่าทรัพยากรดังกล่าวจะมีลักษณะแตกต่างกัน รุ่นเก่า หรือรุ่นใหม่ ไม่ได้ใช้งานบางช่วงเวลา หรือไม่ถูกใช้งาน จะอยู่ใน Cluster เดียวกัน หรืออยู่คนละ Cluster อยู่ในสถานที่คนละแห่งที่ห่างไกลกันแค่ไหนก็สามารถจะทำการประมวลผลร่วมกันได้ โดยระบบเครื่อข่ายขนาดใหญ๋ระบบเดียวที่ได้ดังกล่าวนี้ จะทำงานเสมือนเป็น ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ ขนาดใหญ่เครื่องเดียว ที่มีราคาต้นทุนต่ำ ประมวลผลข้อมูลตามแบบของ Grid Computing คือจัดให้ประมวลผมแบบขนาน (Parallel Processing หรือ Parallel Computing) เพื่อให้ทำงานพร้อมกัน หากส่วนใดในระบบขัดข้องหรือไม่ทำงาน ระบบก็ยังทำงานต่อไปได้ เพราะมีซอฟต์แวร์กลางพิเศษช่วยจัดการดูแลตรวจสอบสถานะของระบบกริดตลอดเวลา ซึ่งเรียกว่า Middleware
ตัวอย่างของซอฟต์แวร์ Middleware จะมีชื่อหลายตัว เช่น โปรแกรม OpenSECE ของ ศูนย์ไทยกริดแห่งชาติ ซึ่งเป็น Open Source ได้เสนอนำไปใช้จัดการดูแลตรวจสอบสถานะของระบบกริดในองค์กร PRAGMA ซึ่งเป็นองค์กรความร่วมมือระดับโล ระหว่างประเทศที่อยู่ในแถบทวีปเอเชีย และคาบสมุทรแปซิฟิก ซึ่งวิจัยทางด้าน Grid Technology ฉะนั้นองค์กรใดๆ หรือบุคคลใดๆที่เป็นส่วนหนึ่งหรือเป็นสมาชิกของระบบกริด เช่น เป็นสมาชิกศูยน์ไทยกิดแห่งชาติเป็นสมาชิกขององค์กร PRAGMA เมื่อติดตั้ง Middleware ลงไปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ของตัวเอง ก็จะใช้ทรัพยากรร่วมกันได้ทั้งหมด โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มเติม เสมือนใช้ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์เครื่องเดียวกัน นั่นเอง
วิธีการพื้นฐานที่ผ่านมาสำหรับสร้าง Grid Computing เพื่อนำไปใช้ในองค์กร จะนิยมใช้ ซอฟต์แวร์ GLOBUS ซึ่งเป็น Middleware
ชนิดของกริด(Grid)
ชนิดของกริดพื้นฐาน จะแบ่งได้เป็น 3 ชนิด ดังข้างล่าง ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในด้านอื่นๆ ได้ เช่นภาคอุตสาหกรรม ภาควิชาการ การศึกษา การวิจัย
1.Information Grid
2.Resource Grid
3.Service Grid
: onpop
: วิชาการ.คอม
การประยุกต์ใช้ Grid Computing
การประยุกต์ใช้ Grid Computing
1. Grid Computing ทางด้านนาโนเทคโนโลยี
กริดคอมพิวติ้ง สามารถช่วยในการผลิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดจิ๋วระดับนาโนได้ เช่น Microbot และ Nanodevices เป็นต้น ซึ่งมีความสามารถในการจัดการ ควบคุม ประกอบสร้าง และผลิตสิ่งต่างๆ ด้วยความแม่นยำในระดับอะตอม ยกตัวอย่างเช่น การผลิด Microbot ที่เป็น Nanomedicine เป็นอุปกรณ์ช่วยในการจ่ายยาให้กับผู้ป่วยทำการฝังเซนเซอร์ไว้ใต้ผิวหนัง โดยที่อุปกรณ์ประกบอด้วยส่วนที่ทำงานหลายส่วน ได้แก่ แผงควบคุมเริ่มทำงานเมื่อผู้ป่วยต้องการยา ไบโอเซนเซอร์คอยวัดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วย ที่บรรจุตัวยาพร้อมตัวยาที่ปล่อยออกมา ช่องควบคุมการปล่อยตัวยา
2. Grid Computing ทางด้านสภาวะอากาศ
การคำนวณทางด้านสภาวะอากาศ ที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์สมรรถนะสูงในการประมวลผล ตัวอย่างเช่น การแสดงผลของอุณหภูมิของอุณหภูมิอากาศจากฐานข้อมูลออนไลน์ขนาดใหญ่ และมีการแสดงข้อมูลเป็นปัจจุบัน สามารถต่อต้านภูมิอากาศ และช่วยในการพยากรณ์ของการต่อตัวของพายุที่จะนำไปสู่การเกิดน้ำท่วมได้อย่างแม่นยำ
3. Grid Computing ทางด้านภูมิประเทศ
การจำลองสภาพสามมิติของภูมิประเทศที่เป็นประโยชน์ต่อการวางแผนการจัดการทรัพยากรของประเทศ การพัฒนาที่ดิน ตลอดจนการวางแผนยุทธศาสตร์ทางทหาร แบบจำลองที่ได้นี้จะได้มาจากการสร้างแบบจำลองจากแผนที่ทางทหารจำนวนมากประกอบกับแผนดาวเทียมที่อาศัยเทคโนโลยี่รีโมทเซนซิ่ง และแผนที่จะต้องมีความต่อเนื่องกัน ต้องใช้เวลาในการประมวลผลหลายวัน โดยอาศัยคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูงช่วยในการประมวลผล
4. Grid Computing ทางด้านฐานข้อมูล
บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Oracle ด้านฐานข้อมูล ได้เล็งเห็นความเห็นว่า Grid Computting จะมีอิทธิพลอย่างมากสำหรับองค์กรขนาดใหญ่และบริษัท Outsourcing ในการขยายขีดความสามารถของระบบ ฐานข้อมูลของ Oracle จะรองรับ Grid Computing ใน Database 10g โดยเทคโนโลยี Transaction Processing Performance Council หรือ TCP-H ช่วยให้การทำงานบบระบบปฏิบัติการ Linux เพิ่มขึ้นได้สูงถึงระดับ Terabyte
ขณะที่ IBM ก็มี DB2 Universal Database Grid Services ที่พิสูจน์ความสามารถทางดานนี้ โดย Charless Schwab ซึ่งใช้เครื่องมือจาก Globus Toolkits และ Red Hat เป็นตัวพัฒนา ซึ่งผลที่ได้ก็คือเวลาในการใช้งานแอพพลิเคชั่นทางการเงินของ Charless Schwab ลดลงจาก 4 นาทีเหลือเพียง 15 วินาทีเท่านั้น
: onpop
: วิชาการ.คอม
10 อย่างที่ Grid จะเปลี่ยนชีวิตคุณ
10 อย่างที่ Grid จะเปลี่ยนชีวิตคุณ
1. ร้านค้าออนไลน์จะขายสินค้าราคาถูกลงเพราะต้นทุนทางเทคโนโลยีถูกลง
2. รถยนต์ เครื่องบิน ยารักษาโรค จะมีต้นทุนการผลิดต่ำลง
3. การพยากรณ์อากาศจะแม่นยำมากขึ้น
4. ISP ของคุณจะสำรองข้อมูลต่างๆ ให้เสมอ
5. ค่าอินเตอร์เน็ตจะไม่ใช่รายเดือน รายชั่วโมง แต่จะคิดตามโครงสร้างของ Grid
6. การ์ดแลน (หรือเน็ตเวิร์กการด์) จะมีผลต่อความเร็วของเครื่องมากกว่า CPU
7.ถ้าคุณต้องการให้เครื่องของคุณแรงขึ้น ก็เพิ่มความแรงของ Grid แทน
8.โทรศัพทย์มือถือคุณจะสามารถเข้าถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณได้ด้วย
9. คุณสามารถใช้พลังงานการประมวลผลแบบซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ได้ถ้าคุณต้องกา
10. คุณไม่ต้องใช้โน๊ตบุ๊คเมื่อต้องออกไปทำงานนอกบ้านอีกแล้ว