ประวัติความเป็นมา
นครนายก เป็นจังหวัดในภาคกลาง สันนิษฐานว่า เคยเป็นเมืองโบราณสมัยทวาราวดี มีหลักฐานแนวกำแพงเนินเดินและสันคู อยู่ที่ตำบลดงละคร แต่ชื่อนครนกยกนั้นปรากฎหลักฐานในสมัยอยุธยาเป็นเมืองหน้าด่านทางทิศตะวันออกในสมัยพระเจ้าอู่ทอง ในปี พ.ศ.2437 รัชกาลที่ 5 ทรงจัดลักษณะการปกครองโดยแบ่งเป็นมณฑล นครนายกได้เข้าไปอยู่ใน เขตมณฑลปราจีนบุรี จนเมื่อ พ.ศ. 2445 ทางการได้เลิกธรรมเนียมการมีเจ้าครองเมือง และให้มีตำแหน่งผุ้ว่าราชการจังหวัดขึ้นแทนและในช่วง พ.ศ. 2486 – 2489 นครนายก ได้โอนไปรวมกับจังหวัดปราจีนบุรี และสระบุรี หลังจากนั้นจึงแยกเป็นจังหวัดอิสระ
จังหวัดนครนายกเดิมชื่อบ้านนา เล่ากันว่า ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ดินแดนของนครนายกเป็นป่ารกชัฏ เป็นที่ดอนทำนาหรือ ทำการเพาะปลูกอะไรไม่ค่อยได้ผล มีไข้ป่าชุกชุม ผู้คนจึงพากันอพยพไปอยู่ที่อื่นจนกลายเป็นเมืองร้าง ต่อมาพระมหากษัตริย์ทรงทราบความเดือดร้อนของชาวเมือง จึงโปรดให้ยกเลิกภาษีค่านาเพื่อจูงใจให้ชาวเมืองอยู่ที่เดิม ทำให้ผู้คนอพยพมาอยู่เพิ่มมากขึ้นจนเป็นชุมชนใหญ่ และเรียกเมืองนี้กันติดปากว่า เมืองนายก ภายหลังกลายเป็นนครนายกจนทุกวันนี้
คำขวัญประจำจังหวัด
" นครนายกเมืองในฝันที่ใกล้กรุง ภูเขางาม น้ำตกสวย รวยธรรมชาติปราศจากมลพิษ"
อาณาเขต สภาพพื้นที่
อาณาเขต
นครนายก อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 107 กม. ตามถนนเลียบคลองรังสิต และ 137 กม. ตามทางหลวงแผ่นดินสาย 33 (ถนนสุวรรณศร) มีพื้นที่ประมาณ 2,122 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองออกเป็น 4 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอบ้านนา อำเภอองครักษ์ และอำเภอปากพลี
ทิศเหนือ จดจังหวัดสระบุรีและนครราชสีมา
ทิศใต้ จดจังหวัดฉะเชิงเทรา
ทิศตะวันออก จดจังหวัดปราจีนบุรี
ทิศตะวันตก จดจังหวัดปทุมธานี
สภาพพื้นที่โดยทั่วไป
เป็นที่ราบอยู่ในหุบเขาตอนเหนือและตะวันออก เป็นเนินสูงและป่าเขาติดต่อกับเขาดงพญาเย็น ส่วนทางตอนกลางและตอนใต้เป็นที่ราบลุ่ม
ภูเขาที่สำคัญคือ เขาใหญ่ เขาเขียว เขาชะโงก และเขานางรอง เป็นต้น ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร และเกิดน้ำตกที่สวยงาม หลายแห่ง
การเดินทางและแผนที่
จังหวัดนครนายก อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงเทพมหานคร จากรังสิตสามารถเดินทางมาจังหวัดนครนายก ได้ 2 เส้นทาง คือ
1. เส้นทางสายรังสิต - นครนายก (ทางหลวงหมายเลข 305) ระยะทางประมาณ 105 กม. และเส้นทางสาย กรุงเทพ - สระบุรี (ทางหลวง หมายเลข 2) ถึงหินกอง เลี้ยวขวา เข้าสู่เส้นทางสาย หินกอง สระบุรี - นครนายก (ทางหลวงหมายเลข 33) รวมระยะทางประมาณ 135 กม. ไม่ไกลจากกรุงเทพ ฯ มากนัก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ โดยทางรถยนต์
2. เส้นทางสายตะวันออก จากกรุงเทพฯ ออกมาทางหนองจอก มีนบุรี ตามถนนสายสุวินทวงษ์ (มีนบุรี - หนองจอก ) ทางหลวงหมายเลข 304 มุ่งหน้าไป จ. ฉะเชิงเทรา แยกไป อ. พนมสารคาม ตามทางหลวงหมายเลข 304 เลย อำเภอพนมสารคาม ไปประมาณ 3 กม. แยกซ้าย ไปตามทางหลวงหมายเลข 319 (พนมสารคาม - ปราจีนบุรี) ผ่านปราจีนบุรี ถึง เลี้ยวซ้าย เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 33 เข้าสู่จังหวัดนครนายก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 210 กม.
รถโดยสารจากกรุงเทพฯ
มีรถโดยสาร ทั้งรถธรรมดา และรถปรับอากาศ ออกจากสถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต) มีเส้นทางเดินรถ 2 เส้นทาง
1. เส้นทางกรุงเทพฯ - หินกอง - นครนายก
รถโดยสารปรับอากาศชั้น 1
- รถสาย 58 , 59 (กรุงเทพฯ - นครนายก - ปราจีนบุรี) เที่ยวแรก เวลา 05.00 น. เที่ยวต่อไปทุกๆ 25 นาที เที่ยวสุดท้ายเวลา 21.00 น.
- รถสาย 60 (กรุงเทพฯ - อรัญประเทศ) เที่ยวแรกเวลา 05.30 น. เที่ยวต่อไป ออกทุก 1 ชม. เที่ยวสุดท้ายเวลา 16.30 น. อัตราค่าโดยสารคนละ 65 บาท
รถโดยสารธรรมดา
- รถสาย 58 , 59 (กรุงเทพฯ - นครนายก - ปราจีนบุรี) เที่ยวแรกเวลา 04.45 น. เที่ยวต่อไปออกทุก 30 นาที เที่ยวสุดท้ายเวลา 19.30 น.
- รถสาย 60 (กรุงเทพฯ - อรัญประเทศ) เที่ยวแรกเวลา 05.30 น. เที่ยวต่อไปออกทุก 1 ชม. เที่ยวสุดท้ายเวลา 16.30 น.
- รถสาย 99 (รถ บขส.) เที่ยวแรกเวลา 08.00 น. เที่ยวสุดท้ายเวลา 14.00 น. วิ่งวันละ 10 เที่ยว อัตราค่าโดยสารคนละ 36 บาท
2. เส้นทางกรุงเทพฯ - รังสิต - องครักษ์ - นครนายก
รถโดยสารปรับอากาศชั้น 1
- รถสาย 920 (กรุงเทพฯ - นครนายก - ปราจีนบุรี) วันละ 3 เที่ยว เวลา 05.50 น. , 10.30 น. , 17.00 น.
- รถสาย 921(กรุงเทพฯ - อรัญประเทศ) เที่ยวแรกเวลา 05.00 น. เที่ยวสุดท้ายเวลา 16.30 น. วิ่งวันละ 8 เที่ยว
- รถสาย 99 (รถ บขส.) วันละ 2 เที่ยว เวลา 06.00 น. และ 14.30 น. อัตราค่าโดยสารคนละ 53 บาท
รถโดยสารธรรมดา
- รถสาย 920 (กรุงเทพฯ - นครนายก - ปราจีนบุรี) วันละ 2 เที่ยว เวลา 05.00 น. และ 14.00 น.
- รถสาย 921 (กรุงเทพฯ - อรัญประเทศ) วันละ 3 เที่ยว เวลา 06.00 น. , 14.00 น. , 16.00 น.
- รถ 99 (รถ บขส.) วันละ 2 เที่ยว เวลา 06.00 น. และ 15.00 น. อัตราค่าโดยสารคนละ 29 บาท
สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดนครนายก
ท่องเที่ยวอำเภอเมือง
• เขื่อนขุนด่านปราการชล อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เพื่อบรรเทาความทุกข์ยากที่เกิดกับประชาชนชาวนครนายก และจังหวัดใกล้เคียง
• ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ เป็นศูนย์ที่จัดแสดงแนวคิดและทฤษฎีการพัฒนา ตลอดระยะเวลา 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมูลนิธิชัยพัฒนา
• ศาลหลักเมือง ศาลหลักเมืองเดิมเป็นเสาไม้ยาวประมาณ 1 เมตรเศษ ปลายเสาแกะสลักเป็นรูปดอกบัว ตั้งอยู่บริเวณกำแพงเมืองเก่า
• หลวงพ่อเศียรนคร ประดิษฐานอยู่ ณ วัดบุญนาครักขิตาราม (วัดต่ำ่) ตำบลนครนายก อำเภอเมือง นครนายก เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่่เลื่อมใสศรัทธา ของชาวจังหวัดนครนายก
• วัดใหญ่ทักขิณาราม ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านใหญ่ อำเภอเมืองนครนายก ริมแม่นำ้นครนายก วัดใหญ่ทักขิตารามเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่ง
• พระแก้วมรกตองค์จำลอง ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารยอดเขา ณ วัดคีรีวัน ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี อยู่บนถนนสายนครนายก - ท่าด่าน อำเภอเมืองนครนายก
• อนุสรณ์สถานกองพลทหารญี่ปุ่นที่ 37 อยู่ที่วัดพราหมณี ตำบลสาริกา อำเภอเมือง นครนายก จัดสร้างโดยสหายสงคราม กองพลญี่ปุ่นที่ 37
• แหล่งโบราณคดีบ้านดงละคร หรือ เมืองดงละคร แต่เดิมเรียกกันว่า “เมืองลับแล” เป็นสถานที่ตั้งเมืองโบราณสมัยขอมมีอำนาจ มีแนวกำแพงเป็นเนินดินและคูเมืองปรากฏอยู่ ชาวบ้านเรียกกันว่า “สันคูเมือง”
• พุทธสถานจีเต็กลิ้ม เลขที่ 111 ตำบลศรีจุฬา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก สิ่งที่น่าสนใจได้แก่ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ (ไฉ่ซิ้งเอี้ย) ปางมหาเศรษฐีซัมภล (ปางมหาราช) ซึ่่งเป็นเทพเจ้าที่ชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนนับถือและเชื่อว่า
เมื่อมานมัสการจะก่อให้เกิดโชคลาภ
• รอยพระพุทธบาทจำลองวัดเขานางบวช อยู่ในมณฑปยอดเขานางบวช ตั้งอยู่ในท้องที่ ตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 9 กิโลเมตร เขานางบวชสูงประมาณ 100 เมตร
• พระพุทธฉาย ตั้งอยู่ที่เขาชะโงกในบริเวณโรงเรียนนายร้อย จปร. ตำบลพรหมณี อำเภอเมืองนครนายก เป็นภาพเขียนติดอยู่กับ ชะโงกผาบนภูเขาเตี้ย ๆ
• ศาลเจ้าพ่อขุนด่าน ตั้งอยู่บนชะง่อนหินเขาชะโงกตำบลพรหมณี อำเภอเมืองนครนายก เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มีประชาชนเคารพนับถือมากตามประวัติท่าน เป็นนายด่านเมืองนครนายกสมัยกรุงศรีอยุธยา วีรกรรมของท่านคือ การต่อต้าน
เขมรที่แปรพักตร์
• โรงเรียนนายร้อย จปร. มีสิ่งน่าสนใจ คือ ศาลเจ้าพ่อขุนด่าน พระพุทธฉาย อาคารพิพิธภัณฑ์ รร . จปร . 100 ปี
เป็นแหล่งท่องเที่ยวให้เยี่ยมชม และร่วมกิจกรรมการท่องเที่ยว และการกีฬาในรูปแบบต่าง ๆ
• น้ำตกสาริกา เป็นน้ำตกขนาดใหญ่สายน้ำไหลตกจากหน้าผาเป็นทอด ๆ ถึง 9 ชั้น ผาที่สูงที่สุดประมาณ 200 เมตร เสียค่าบำรุงผู้ใหญ่คนละ 20 บาท เด็กคนละ 10 บาท
• ถ้ำสาริกา ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับน้ำตกสาริกาเป็นสถานที่ที่พระอาจารย์มั่น ภูริทตโต เคยมาบำเบ็ญศาสนธรรม
• น้ำ้้ตกนางรอง เป็นน้ำตกขนาดกลางที่ลดหลั่นลงมาเป็นชั้น ๆ ไม่สูงนัก บริเวณด้านล่างของน้ำตกมีห้องอาบน้ำและห้องสุขาบริการ เสียค่าบำรุง รถยนต์โดยสาร ( รวมบุคคล ) 150 บาท รถยนต์เล็ก (รวมบุคคล ) 50 บาท รถตู้ ( รวมบุคคล ) 100 บาท รถจักรยานยนต์ 10 บาท บุคคลคนละ 5 บาท
• อุทยานวังตะไคร้ เป็นอุทยานที่ได้รับการตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ประดับนานาพันธุ์ ในเนื้อที่ 1,500 ไร่ มีถนนให้รถยนต์วิ่งเข้าชมในบริเวณได้ เปิดรับนักท่องเที่ยวทั่วไป ทั้งประเภทเช้าไปเย็นกลับ และประเภทค้างแรม
• น้ำตกลานรัก เดิมชื่อ น้ำตกตาดหินกอง ตั้งอยู่ตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก เส้นทางไป น้ำตกสาริกา - นางรอง โดยแยกด้านซ้ายที่สี่แยกประชาเกษมตรง หลักกิโลเมตรที่ 8 เข้าไปอีกประมาณ 5 กิโลเมตร จะถึงบริเวณน้ำตก เกิดจากสายธารเล็กๆ ไหลผ่านลานหินช่วงสุดท้ายไหลพุ่งเป็นทางยาวผ่านลาดหินกว้างเลียบเชิงเขาเตี้ย ๆ สวยงามแปลกตาจากน้ำตกอื่น ๆ มีน้ำเฉพาะฤดูฝน ในฤดูแล้งน้ำจะแห้ง
• อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีจุดชมวิวทิวทัศน์ต่าง ๆ อันได้แก่ จุดชมวิว กม . ที่ 30 ( จากปากช่อง ) จุดชมวิวเขาเขียว ( ผาตรอมใจ) และจุดชมวิว กม . ที่ 9 บนทางขึ้นเขาเขียว ส่วนน้ำตกที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวชมเพราะทางเข้าสะดวก ได้แก่ น้ำตกเหวนรก น้ำตกกองแก้ว น้ำตกเหวสุวัต น้ำตกเหวไทร
• อ่างเก็บน้ำทรายทอง อยู่ตำบลเขาพระ อำเภอเมืองนครนายก เป็นอ่างเก็บนำ้ขนาดเล็ก ภูมิประเทศอ่างเก็บนำ้เป็นภููเขา มีความสวยงามตงความเป็นธรรมชาติ
• อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ อยู่ที่ตำบลเขาพระ อำเภอเมืองนครนายก แยกซ้ายมือจากถนนไปน้ำตกสาริกา นางรอง เป็นอ่างเก็บน้ำ้ขนาดเล็กแต่มีผิวน้ำกว้าง มีน้ำตลอดปี ภูมิประเทศรอบอ่าง เก็บน้ำ้มีความสวยงามตามธรรรมชาติ
ท่องเที่ยวอำเภอองครักษ์
• ศาลเจ้าพ่อองครักษ์ ตั้งอยู่ฝั่งแม่น้ำนครนายกในเขตตำบลสันทรายมูล มีเรื่องเล่าว่าเมื่่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิงถวัลราชสมบัติ ได้เสด็จประพาสจังหวัดปราจีนบุรี โดยเสด็จฯผ่านมาตามแม่น้ำนครนายกและได้มาประทับแรมศาลเจ้าพ่อองครักษ์ ในปัจจุบัน ระหว่างประทับแรมนายทหารราชองครักษ์ ป่วยและเสียชีวิตลง เพื่อเป็นที่ระลึกแก่ราชองครักษ์์
• ศูนย์ไม้ดอกไม้ประดับ ตลอดแนวคลอง15อำเภอองครักษ์เป็นแหล่งเพาะพันธุ์พืช ทั้งไม้ดอกไม้ประดับต่าง ๆ ซึ่งมีพันธุ์ไม้ดอก ไม้ประดับนานาชนิด ที่เพาะชำ ทาบกิ่ง ติดตาล้อมราก ทั้งขนาดเล็กและใหญ่จัดส่งไปยังแหล่งจำหน่ายต่าง ๆ ทั่วประเทศ และต่างประเทศ
ท่องเที่ยวอำเภอปากพลี
• พิพิธภัณฑ์บ้านไทยพวน ตั้งอยู่ในวัดฝั่งคลองเป็นที่รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ของชาวไทยพวนในอดีตจนถึงปัจจุบัน อายุราว 200 ปี
• น้ำตกวังม่วง ตั้งอยู่ที่ตำบลนาหินลาด อำเภอปากพลี มีทางแยกซ้ายมือจากถนนสุวรรณศร ที่อำเภอปากพลีี ไปยังน้ำตกวังม่วง 16 กิโลเมตร ธารน้ำตกไหลผ่านแนวหินมาเป็นระยะ ๆ
ท่องเที่ยวอำเภอบ้านนา
• โรงเรียนเตรียมทหาร ตั้งอยู่ ณ บ้านเลขที่ 9 หมู่ 10 ตำบลศรีกระอาง อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก ซึ่งอยู่ด้านทิศเหนือของสโมสรนายทหารสัญญาบัตร ตรงข้ามวัดบุหัวแหวน
• น้ำตกกะอาง ตั้งอยู่ที่ตำบลศรีกะอาง อำเภอบ้านนา จากตัวเมือง ไปตามถนนสุวรณศรถึงอำเภอบ้านนาเยื้องกับสถานีตำรวจมีถนนแยกไปน้ำตกกะอางระยะทาง 11 กิโลเมตร ลักษณะเป็นลานหินกว้าง มีน้ำตกไหลผ่่านตามช่องหิน
ข้อมูลและภาพจาก : S! Travel , ททท.ภาคกลางเขต 8, นายกซิตี้ดอทคอม