:: ประวัติย่อ :: อลัน ซิลเวสทรี คอมโพสเซอร์ ผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์และแกรมมีหลายต่อหลายครั้ง ได้ประพันธ์ดนตรีประกอบภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงหลายเรื่อง ซึ่งได้แก่ ไตรภาค “Back to the Future,” “Who Framed Roger Rabbit,” “Father of the Bride,” “The Bodyguard,” “Predator” และ “Forrest Gump” ที่ได้รับรางวัลออสการ์
ในรอบสองสามปีที่ผ่านมา ซิลเวสทรียังได้เพิ่มเติมผลงานที่ได้รับความนิยมอย่างสูงเข้าไปในประวัติการทำงานของเขา เช่นคอเมดีที่นำแสดงโดยเมล กิ๊บสันเรื่อง “What Women Want,” ภาพยนตร์ดรามาที่นำแสดงโดยทอม แฮงค์เรื่อง “Cast Away” และบล็อกบัสเตอร์ช่วงซัมเมอร์ “The Mummy Returns” ภาพยนตร์เหล่านี้รวมทั้งโรแมนติกคอเมดีที่นำแสดงโดยจอห์น คูแซ็คเรื่อง “Serendipity” และภาพยนตร์แอ็กชันคอเมดีที่จับโรเบิร์ต เดอนีโรมาประกบเอ็ดดี เมอร์ฟีย์เรื่อง “Showtime” ได้รวมเอาผลงานเพลงกว่า 70 เพลงที่เขาแต่งไว้ตลอดสามทศวรรษที่ผ่านมาเข้าไว้ด้วยกัน ผลงานการประพันธ์เพลงภาพยนตร์ล่าสุดของเขาได้แก่ “Maid in Manhattan,” “Identity,” “Lara Croft Tomb Raider: The Temple of Life,” “Two Soldiers,” และ “Van Helsing”
ซิลเวสทรีเกิดในแมนฮัตตัน เติบโตขึ้นในทีเน็ค, นิวเจอร์ซีย์ และเข้าศึกษาในสถาบันดนตรีเบิร์คลีย์ที่โด่งดัง ก่อนที่จะร่วมวงดนตรีลาสเวกัสในฐานะมือกีตาร์ ทักษะการแสดงและการเรียบเรียงดนตรีของเขาทำให้เขาได้งานทำในลอสแองเจลิส รวมไปถึงงานแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ผ่านเข้ามาโดยบังเอิญ หลังจากนั้น เขาได้เขียนเพลงให้กับเอพิโซดกว่า 100 เอพิโซดในซีรีส์โทรทัศน์เรื่อง “ChiPs” ซึ่งนำเขาไปสู่การแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องแรก “Romancing the Stone” ภาพยนตร์ปี 1984 ที่กำกับโดยโรเบิร์ต ซีเมคิส
ซีเมคิสและซิลเวสทรีได้ร่วมงานกันในภาพยนตร์อีกสิบเรื่องนับแต่นั้น และเรื่องที่สิบเอ็ดก็กำลังจะตามมาในไม่ช้านี้ ผลงานการร่วมงานของทั้งคู่มีอยู่ตลอดระยะเวลา 22 ปี และความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นก็เป็นความสัมพันธ์ผู้กำกับ/คอมโพสเซอร์ที่ประสบความสำเร็จและยืนยาวที่สุดในฮอลลีวูด เว้นแต่ความสัมพันธ์ระหว่างสตีเวน สปีลเบิร์กและจอห์น วิลเลียมส์ ล่าสุด ผลงานที่ทั้งคู่ร่วมกันทำคือ “Polar Express” และผลงานเรื่องต่อไปของพวกเขาที่จะลงโรงคือ “Beowulf” สำหรับผู้สร้างคนอื่นๆ ซิลเวสทรีได้แต่งดนตรีที่หลากหลาย แต่ก็ทรงพลังและสร้างความประทับใจได้ไม่แพ้กัน ซึ่งรวมถึงสกอร์ที่มืดหม่นและลุ้นระทึกในภาพยนตร์ของจอห์น แม็คเทียร์แนนเรื่อง “Predator,” สกอร์ที่บ่งบอกถึงความมหัศจรรย์แห่ง “The Abyss” ให้ผู้กำกับเจมส์ คาเมรอน, ดนตรีเฉลิมฉลองที่สร้างความปีติยินดีในภาพยนตร์เรื่อง “Father of the Bride” ของชาร์ลส์ ไชเออร์, ธีมที่หมองหม่นสำหรับวิธนีย์ ฮูสตันในภาพยนตร์ของมิค แจ็คสันเรื่อง “The Bodyguard,” สกอร์ทำนองแมวจับหนูที่แสนเร้าใจให้กับภาพยนตร์ของร็อบ มิงคอฟเรื่อง “Stuart Little” และ “Stuart Little 2” และดนตรีเวสเทิร์นให้กับภาพยนตร์ของกอร์ เวอร์บินสกีที่นำแสดงโดยจูเลีย โรเบิร์ตส์และแบรด พิตต์เรื่อง “The Mexican”
ซิลเวสทรี ผู้ทำงานอยู่ในคาร์เมลมานาน เป็นนักบินที่ผ่านการรับรองให้สามารถทําการบินด้วยเครื่องวัดประกอบการบิน และเร็วๆ นี้ เขาเพิ่งจะเริ่มหันไปจับอาชีพนักค้าไวน์เป็นอาชีพที่สอง ด้วยความที่เขาเป็นนักเคลื่อนไหวในการรณรงค์ต่อต้านโรคเบาหวานในเยาวชน ซึ่งเป็นโรคร้ายที่นำความทรมานมาสู่ลูกคนหนึ่งจากบรรดาลูกๆ ทั้งสามคนของเขา เขาได้เอ่ยถ้อยแถลงต่อคณะกรรมการสภาคองเกรสเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวและได้เขียนเพลงที่ชื่อ “Promise to Remember Me” ซึ่งกลายเป็นเพลงปลุกใจสำหรับมูลนิธิโรคเบาหวานในเยาวชนอีกด้วย