ความรู้ เกร็ดความรู้ สารานุกรม สารานุกรมออนไลน์ ความรู้รอบตัว ความรู้ทั่วไป พจนานุกรม เกมส์ เพลงใหม่ เพลง

พุดดิ้ง (Pudding), พุดดิ้ง (Pudding) หมายถึง, พุดดิ้ง (Pudding) คือ, พุดดิ้ง (Pudding) ความหมาย, พุดดิ้ง (Pudding) คืออะไร
| เปิดอ่าน 0 | ความคิดเห็น 0
พุดดิ้ง (Pudding)

ต้นกำเนิด

          ต้องขอย้อนไปเมื่อสมัย ศตวรรษที่ 15-16 ซึ่งเป็นสมัยที่คนเชื่อว่าโลกกลม ทำให้มีการออกสำรวจดินแดนใหม่สำหรับนักเดินทางยุคต้น ๆ ของศตวรรษ ในสมัยนั้นประเทศสเปนและอังกฤษซึ่งเป็นประเทศผู้นำในการเดินทางสำรวจและยึดครองดินแดนใหม่กันอย่างคับคั่ง ในช่วงนั้นประเทศอังกฤษสามารถเอาชนะและยึดครองดินแดนและชายฝั่งทะเลได้ถึง 7 แห่ง แต่ความราบรื่นนั้นย่อมแฝงไปด้วยความขมขื่นเสมอ

          เรือรบของอังกฤษที่เข้าร่วมสงครามครอบครองดินแดนนั้นประสบปัญหาเกี่ยวกับปากท้องของลูกเรือขึ้น เพราะการออกเดินทางแต่ละครั้งจะต้องใช้เวลาอยู่กับท้องทะเลนานหลายเดือน อาหารที่มีอยู่ก็ร่อยหรอ มิหนำซ้ำ บางครั้งอาหารที่ทำจะเหลือทิ้งไปเปล่าประโยชน์เพราะใช้ทานในวันต่อไปไม่ได้ก็ตาม จำเป็นต้องทิ้ง เหตุนั้นเอง พ่อครัวหัวใสจึงคิดเมนูที่สามารถทำแล้วถนอมอาหารไว้ทานได้เป็นเวลานาน โดยเค้าใช้ส่วนผสมง่าย ๆ คือ เศษขนมปัง แป้งสาลี และไข่ไก่ ผสมให้เข้ากัน จากนั้นก็ห่อด้วยผ้าสะอาด นำไปอบ เป็นอันเสร็จ ตรงกับ concept (ง่าย ๆ กินได้หลายวัน) และนั่นเองเป็นเหตุที่มาของตำนาน

วิธีทำ Chocolate Pudding

ส่วนผสม

นมพร่องมันเนย 2+1 /4 ถ้วย (หรือใช้ Thick Cream หรือ วิปปิ้งครีม )
น้ำตาลทราย 1/ 2 ถ้วย (ถ้าชอบหวานเพิ่มเป็น 2/ 3 ถ้วย)
แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
โกโก้ผง 2/ 3 ถ้วย (หรือใช้ชอคโกแลตดิบ 250 กรัมนำมาตุ๋น)
ไข่ไก่ตีพอแตก 1 ฟอง หรือใช้ไข่แดง 3 ฟอง
วานิลา 2 ช้อนชา
เกลือป่น นิดหน่อย

วิธีทำ

1. นำนมพร่องมันเนย 2 ถ้วย น้ำตาล 1/ 4 ถ้วย และเกลือป่นนิดหน่อย ใส่ลงในหม้อก้นหนา แล้วนำไปตั้งไฟพอเดือด

2. ระหว่างรอส่วนผสมนมเดือด ก็หันมาผสม แป้งข้าวโพด ผงโกโก้ กับ น้ำตาลทราย 1/ 4 ถ้วย ใส่ลงในชามผสม เติมนมที่เหลือ แล้วใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากันจนเนียน จากนั้นค่อย ๆ เติมนมที่ต้มไว้ลงไป คนให้เข้ากัน

3. เทส่วนผสมที่ได้กลับลงไปในหม้อใหม่อีกครั้ง นำไปตั้งไฟกลางค่อนข้างอ่อน จนส่วนผสมเดือด ปล่อยให้เดือดประมาณ 2 นาที แล้วลดไฟลงเพราะไม่อย่างนั้นไขมันในนมจะแยกชั้น เหมือนกะทิแตกมัน และต้องหมั่นคนไม่อย่างนั้นส่วนผสมจะไหม้ติดก้นหม้อ

4. จากนั้นแบ่งส่วนผสมนมที่กำลังร้อน ค่อย ๆ เทใส่ลงไปในชามไข่ไก่ที่เราตีพอแตกไว้ ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน ตรงนี้ต้องค่อย ๆ เท ไม่อย่างนั้นไข่จะสุกเป็นก้อน ๆ แล้วมันจะกลายเป็น Scramble Egg แทนที่จะได้พุดดิ้ง

5. เมื่อส่วนผสมไข่กับนมเข้ากันดีแล้ว เราก็เทกลับลงไปในหม้อส่วนผสมนมใหม่อีกทีสัก 2 นาที ใช้ตะกร้อมือคนส่วนผสม ระวังอย่าให้ส่วนผสมเดือด จึงเติมวานิลา คนให้เข้ากันแล้วยกลง เทใส่พิมพ์หรือถ้วยไอศกรีมซันเดย์ นำไปแช่ตู้เย็น

เคล็ดลับ

          พุดดิ้งสูตรนี้ หน้าตาจะคล้าย ๆชอคโกแลตมูส แต่สูตรนี้เป็นสูตรที่ปรับใหม่โดยจะใช้โกโก้ผงซึ่งหาซื้อได้ง่ายกว่ามาใช้แทนชอคโกแลต ใช้นมพร่องมันเนยแทนครีม และใช้ไข่ทั้งฟองแทนไข่แดงหลาย ๆ ฟอง แต่รับรองว่ายังเข้มหอมมันเหมือนสูตรเดิมแน่นอน

          ถ้าจะให้อร่อยยิ่งขึ้น ต้องแช่พุดดิ้งที่ทำเสร็จแล้วไว้ในตู้เย็น โดยทิ้งไว้ค้างคืนก่อนนำมาเสิร์ฟ และถ้าไม่อยากให้หน้าพุดดิ้ง เป็นแผ่นแข็ง ๆ เหมือนฟองเต้าหู้ ก็ใช้กระดาษไขวางปิดไปบนหน้าพุดดิ้งจะช่วยได้



ส่วนประกอบของพุดดิ้ง

          ถ้าหากเราจะทำพุดดิ้งให้ตามสูตรของประเทศต้นตำรับคือประเทศอังกฤษแล้วล่ะก็ จะต้องเตรียมส่วนผสมดังนี้คือ แป้งสาลี ข้าว น้ำมันหมู เนื้อ ไข่ไก่ นม เนย ผลไม้ และของที่เราชอบ ใส่ลงไปผสมกัน จากนั้นเติมน้ำตาล เกลือ ตามด้วยเครื่องปรุงรส และแต่งกลิ่นตามชอบใจ เสร็จแล้วนำไปนึ่ง และอบให้พอดีเป็นอันเสร็จพร้อมเสริฟ



วิธีทำ Mango Pudding

ส่วนผสม

- มะม่วงสุกบด 1 ลูก
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย
- น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำร้อน 1/3 ถ้วย
- น้ำเย็น 3 ช้อนโต๊ะ
- เจลาตินผง 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

- ผสมเนื้อมะม่วง โยเกิร์ต น้ำตาล มะนาว เข้าด้วยกัน ลองชิมรสตามชอบ
- นำผงเจลาตินโปรยๆ ลงในน้ำเย็น ทิ้งไว้ซักพักให้เจลาตินดูดน้ำจนแห้ง แล้วค่อยๆ เทน้ำร้อนลงไปผสม คนไปเรื่อยๆ จนมันละลายหมด
- เทส่วนผสมในขั้นตอนที่ 1 และ 2 เข้าด้วยกัน
- แช่เย็น 2-3 ชั่วโมงให้เซ็ตตัว แล้วกินได้เลย จะกินเปล่าๆ ราดแยม วิปครีม หรือจะใส่เนื้อผลไม้อื่นๆ ไปด้วยก็ตามสะดวก



ทำไมถึงมีชื่อเรียกว่า พุดดิ้ง(Pudding)

          ตามรากศัพท์ของภาษาอังกฤษในยุคโบราณ จะเรียกว่า puduc ซึ่งแปลว่า ของที่มีรูปร่าง ลักษณะบวมเป่ง เต่งตึง ซึ่งตรงกับรูปลักษณ์ของเจ้าพุดดิ้ง ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงชื่อเรียก ซึ่งแปลจากภาษาอังกฤษในยุคกลาง คือ podding คำนี้มาจากลักษณะของพุดดิ้ง ที่ไปตรงกับลักษณะของไส้กรอกชนิดหนึ่ง จึงเรียกเป็นคำเดียวกัน และคำปัจจุบันที่ใช้เรียกคือ pudding คำนี้จะใช้เรียกประเภทอาหารที่ทำโดยการอบทุกชนิด

          ถัดจากนั้นมาจึงมีการคิดเมนูใหม่ ๆ ของอาหารที่ทำด้วยการอบหลายชนิด แต่ยังคงใช้คำว่า pudding ต่อท้ายในเมนูหลาย ๆ ชนิด ตัวอย่างเช่น rice-pudding , bread and butter-pudding, black-pudding , chocolate-pudding ฯลฯ และพุดดิ้งก็ยังใช้เป็นเมนูหลักไปจนถึง ของหวาน อีกด้วย

          ที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น ตั้งแต่แรกเริ่มเดิมที ผู้คนเค้าก็เรียกว่า pudding กันล่ะคับ แต่ว่าด้วยความผิดแผกของสำเนียง และการส่งต่อทางภาษาเอง ทำให้คำว่า pudding นั้นเปลี่ยนแปลงไปเป็น podding บ้าง และอีกหลาย ๆ คำ แต่ท้ายที่สุดผู้คนเค้าก็ใช้คำว่า “พูริง (puring)” ซึ่งเป็นคำที่เรียกง่าย และตรงความหมายกับหน้าตาของพุดดิ้งที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน ซึ่งเป็นพุดดิ้งชนิดหนึ่งที่เรียกว่า custard-pudding


พุดดิ้ง (Pudding), พุดดิ้ง (Pudding) หมายถึง, พุดดิ้ง (Pudding) คือ, พุดดิ้ง (Pudding) ความหมาย, พุดดิ้ง (Pudding) คืออะไร

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

คำยอดฮิต