ความรู้ เกร็ดความรู้ สารานุกรม สารานุกรมออนไลน์ ความรู้รอบตัว ความรู้ทั่วไป พจนานุกรม เกมส์ เพลงใหม่ เพลง

การผ่าตัดเสริมหน้าอก, การผ่าตัดเสริมหน้าอก หมายถึง, การผ่าตัดเสริมหน้าอก คือ, การผ่าตัดเสริมหน้าอก ความหมาย, การผ่าตัดเสริมหน้าอก คืออะไร
| เปิดอ่าน 0 | ความคิดเห็น 0
การผ่าตัดเสริมหน้าอก

การผ่าตัดเสริมหน้าอก

 

การผ่าตัดเสริมหน้าอก

 

 

ยอดปรารถนาของสตรี

 

หน้าอก กับผู้หญิง เป็นของคู่กันค่ะ นอกจากใบหน้าที่งดงาม มีเสน่ห์แล้ว การมีเรือนร่างที่ได้รูป สวยงาม ก็เป็นที่ใฝ่ฝัน ของสตรีเกือบทุกคน แม้แต่ผู้ใกล้ชิดก็ปรารถนาเช่นกัน ส่วนหนึ่ง ของเรือนร่าง ที่สวยงามชวนมองที่สุด ได้แก่ การมีหน้าอกที่งดงามได้รูป ไม่หย่อนคล้อย ขนาดเหมาะสมกับ เรือนร่างของแต่ละคน

 

 

การเสริมหน้าอก (Breast Augmentation)

 

วัตถุประสงค์ของการผ่าตัดเสริมหน้าอกมีได้หลายประการ เช่น หน้าอกมีขนาดเล็กเกิน มีปัญหาเรื่องการหย่อนคล้อย หรือมีปัญหาหน้าอกสองข้างไม่เท่ากัน ปัญหาเหล่านี้ กลายเป็นเรื่องเล็ก และสามารถแก้ไขได้ด้วยการผ่าตัดเสริมหน้าอก นอกจากนี้ ในปัจจุบัน ได้มีการนำเอาการผ่าตัดเสริมหน้าอก ไปใช้กับผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ที่รักษาหายขาดแล้ว ถือเป็นการรักษาจิตใจของผู้ป่วยโรคมะเร็ง ที่อาจต้องตัดเต้านมออกให้กลับมามีหน้าอกสองข้างเท่ากันเหมือนปกติ  จะเห็นได้ว่าการผ่าตัดเสริมหน้าอก สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องหน้าอก ได้จริง อย่างง่ายดาย และปลอดภัย

 

 

การผ่าตัดเสริมหน้าอก แปรตรงตัวคือ เป็นการผ่าตัดเพื่อเพิ่ม ขนาดของหน้าอกให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งการผ่าตัดเสริมหน้าอกก็ช่วยให้รูปร่างของหน้าอกดีขึ้นด้วย  นอกจากนี้ การผ่าตัดเสริมหน้าอกยังสามารถแก้ปัญหาเต้านมหย่อนคล้อย เพื่อเป็นการเพิ่มขนาดของเต้านมหลังจากมีบุตร หลังการให้นมบุตร  ซึ่งเต้านมอาจจะมีความตึงน้อยลง น้องจากนี้ การผ่าตัดเสริมหน้าอกยังสามารถแก้ไขขนาดที่แตกต่าง ของเต้านมทั้งสองข้าง แก้ไขรูปทรงที่ผิดปกติ

 

 

การเสริมใต้เนื้อนม

ซิลิโคนทรงหยดน้ำผิวทราย

ซิลิโคนทรงกลมผิวเรียบ

การเสริมใต้เนื้อนม

ซิลิโคนทรงหยดน้ำผิวทราย

ซิลิโคนทรงกลมผิวเรียบ


ซิลิโคนนมแบบต่างๆ

 

ซิลิโคนนมแบบต่างๆ

 

 

 

 

ชนิดของวัสดุที่ใช้ในการผ่าตัดเสริมหน้าอก

 

วัสดุที่ใช้ในการเสริมหน้าอก มีหลายแบบ มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน แต่วัสดุที่ The SIB Clinic ใช้ในการผ่าตัดเสริมหน้าอก ต้องผ่านการตรวจขององค์การบริหารยาของประเทศไทย รวมทั้ง FDA Approve

 

 

    

 

 

1.ซิลิโคนเหลว

 

2.ถุงน้ำเกลือ โดยเปลือกของถุงเป็นซิลิโคนเช่นกัน

 

3.polyurethane

 

 

รายละเอียดของวัสดุที่ใช้ในการผ่าตัดเสริมหน้าอก

 

-ถุงซิลิโคนเหลว (Silicone Gel Implants)

 

คือ ซิลิโคนเจลอิลาสตินที่บรรจุอยู่ในถุงซิลิโคนซิลิโคนที่ใช้ในการผ่าตัดเสริมหน้าอก จะเป็นซิลิโคน Medical grade นั่นคือซิลิโคนที่มีความคงตัวสูง แม้เราผ่าครึ่งถุงซิลิโคน เนื้อซิลิโคนที่อยู่ข้างในก็จะไม่มีการไหลไปไหน นอกจากนี้ ถุงซิลิโคน ก็จะมีความทนทานสูงและโมเลกุลแน่นหนา ซึ่งจะป้องกันไม่ให้เกิดการรั่วไหลของเนื่อซิลิโคนที่อยู่ด้านในเปลือกหุ้มของซิลิโคน มีหลายลักษณะ เปลือกอาจจะเป็นผิวเรียบ หรือผิวขรุขระ ซึ่งมีผลต่อการเกิดพังพืดหุ้มรอบซิลิโคน  ส่วนขนาดซิลิโคนที่จะเลือกใช้สำหรับการผ่าตัดเสริมหน้าอกจะแตกต่างตามความต้องการของคนไข้ และความเหมาะสม

 

 

ข้อดีของการผ่าตัดเสริมหน้าอกโดยใช้ ซิลิโคนเจล

 

• ดูเป็นธรรมชาติ ยับย่นได้ยาก เนื่องจากซิลิโคนมีความคงตัวสูง สามารถขยับเคลื่อนไหวได้9k,xd9b

 

• การผ่าตัดเสริมเต้านมโดย ซิลิโคนเจล ใช้ระยะเวลาการพักฟื้นสั้น  พักเพียง 1 คืนก็สามารถกลับไปทำกิจกรรมได้ตามปกติ

 

• หากไม่มีภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดเสริมหน้าอก จะอยู่กับตัวได้ในระยะยาวและไม่เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านม

 

 

ข้อเสียของการผ่าตัดเสริมหน้าอกโดยใช้ ซิลิโคนเจล

 

• โอกาสการวิเคราะห์การรั่วของถุงซิลิโคน ทำได้ยาก เนื่องจากถ้าพังพืดที่หุ้มรอบถุงไม่แตก จะไม่รู้เลยว่าเกิดการรั่วขึ้น ยกเว้นพังพืดที่หุ้มรอบฉีกขาด ซิลิโคนเหลว จะออกมานอกถุงแล้ว อาจจะเกิดพังพืดหุ้มรอบซิลิโคนนั้นใหม่ ซึ่งจะทำให้ เต้านมข้างนั้นจะมีรูปร่างที่เปลี่ยนไป และอาจจะรู้สึกแข็งมากขึ้น

 

• มีโอกาสเกิดพังผืดหุ้มรอบถุงซิลิโคน

 

 

วิธิการผ่าตัดเสริมหน้าอกโดยการใช้ซิลิโคนเจล

 

• การสอดผ่านรักแร้

 

• การผ่าตัดผ่านทางปานนม

 

• การผ่าที่ฐานหน้าอก (แต่วิธีการนี้อาจทิ้งรอยแผลเป็นได้บ้าง)

 

 

ถุงน้ำเกลือ (Saline Implants)

 

การผ่าตัดเสริมหน้าอกโดยใช้ถุงน้ำเกลือ มีลักษณะคล้ายการผ่าตัดเสริมหน้าอกโดยซิลิโคนเจล ลักษณะ ของถุงน้ำเกลือ มีสองชั้น ถุงซิลิโคนอยู่ชั้นนอก และน้ำเกลืออยู่ชั้นใน ระหว่างผ่าตัด สามารถเติมน้ำเกลือ หลังสอดถุงซิลิโคนเข้าไปแล้ว วิธีการนี้จึงมีราคาสูงกว่า เพราะสามารถเพิ่มลดขนาดได้ โดยไม่ต้องผ่าตัดใหม่

 

 

ข้อดีของการผ่าตัดเสริมหน้าอกโดยใช้ถุงน้ำเกลือ

 

• สามารถวินิจฉัยการรั่วของถุงซิลิโคนได้ง่าย และหากมีรั่วไหล น้ำเกลือจะซึมเข้ากับร่างกายโดยไม่เป็นอันตราย

 

• การผ่าตัดเสริมหน้าอกโดยถุงน้ำเกลือ ทำให้แผลน้อยลง ดังนั้นก็มีรอยแผลเป็นที่เล็กกว่า และสามารถเติมน้ำเกลือได้หากต้องการ เพิ่มขนาดโดยไม่ต้องผ่าตัดใหม่

 

 

ข้อเสียของการผ่าตัดเสริมหน้าอก โดยใช้ถุงน้ำเกลือ

 

• เกิดการฉีดขาดได้ง่าย โอกาสรั่วมากกว่า

 

• เกิดรอยยับย่นได้ง่าย เนื่องจากน้ำเกลือขาดความยืดยุ่น

 

• สามารถเห็นรูปทรงถุงซิลิโคนง่าย

 

• เกิดการสั่นไหว กระเพื่อม หรือมีเสียงได้

 

• เนื้อสัมผัสต่างจากเต้านมทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ

 

 

วิธีการผ่าตัดเสริมหน้าอกโดยใช้ถุงน้ำเกลือ

 

วิธีการเสริมหน้าอกแบบนี้ จะมีการเลือกผ่าตัดได้ 3 แบบ คือ

 

• แพทย์จะสอดถุงเข้าไปก่อนแล้วค่อยเติมน้ำเกลือผ่านหลอดสุญญากาศ ตามจำนวนที่กำหนดขณะผ่าตัด

 

• การสอดเจลเข้าไปแล้วจึงค่อยเติมน้ำเกลือซึ่งปรับลดขนาดได้

 

• การใส่ถุงน้ำเกลือที่บรรจุอยู่ในซิลิโคนที่ระบุขนาด

 

 

การผ่าตัดเสริมหน้าอกโดยการฉีดไขมันตัวเอง (Fat Grafting)

 

เป็น การนำไขมันมาจากตัวของคนไข้เองมาปั่น และฉีดกลับเข้าไปที่เต้านม ไขมัน สามารถนำมาไดจากหลายบริเวณ ไม่ว่าจากต้นขาหรือช่วงบริเวณท้องอย่างไรก็ดี วิธีการนี้ยังไม่เป็นที่นิยม  หรือใช้กันแพร่หลาย เนื่องจากต้องมีไขมันมากพอ และต้องฉีดบ่อยครั้งกว่าจะอยู่ตัว เนื่องจาก หลังฉีดเติมไขมัน จะมีการสลายตัวของไขมันมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ในระหว่างช่วง 6 เดือน ถึง 1 ปี และประมาณ 1-2 ปีก็จะสลายไปหมด

 

 

ข้อดีของการผ่าตัดเสริมหน้าอกโดยการฉีดเติมไขมัน

 

• วิธีการเสริมหน้าอกโดยการฉีดไขมัน จะเกิดผลข้างเคียงน้อย และไม่มีสิ่งแปลกปลอม ทั้งยังสามารถ ลดไขมันส่วนเกินได้ ในเวลาเดียวกัน เนื่องจากเป็นการเคลื่อนย้ายไขมัน จากส่วนอื่นของร่างกายมาฉีด

 

 

ข้อเสียของการผ่าตัดเสริมหน้าอกโดยการฉีดเติมไขมัน

 

• การผ่าตัดเสริมหน้าอกโดยการฉีดเติมไขมัน ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์ในการเตรียมไขมันที่ถูกและฆ่าเชื้อที่เหมาะสม

 

• การผ่าตัดเสริมหน้าอกโดยการฉีดเติมไขมัน อาจไม่ได้รูปทรงของหน้าอกตรงตามที่ต้องการ

 

• หลังการฉีดเติมไขมัน จะมีการบวมแดงในระยะเริ่มแรก  และจะมีการสลายได้ค่อนข้างมาก

 

• ยังไม่เป็นที่ยืนยันถึงความปลอดภัย โดยเฉพาะแคลเซียมของเซลล์ไขมันที่ตายแล้ว อาจไปเกาะหน้าอกได้

 

 

วิธีการผ่าตัดเสริมหน้าอก และ แผลผ่าตัด

 

• การผ่าตัดเสริมหน้าอกผ่านทางใต้ราวนม วิธีนี้แผลจะซ่อนอยู่ในขอบชั้นใน ทำได้ง่าย และจัดวางเต้านมได้สวย เหมาะกับการเสริมเต้านมแบบทรงหยดน้ำ เหมาะกับคนที่ชอบใส่เสื้อแขนกุด

 

• การผ่าตัดเสริมหน้าอกผ่านทางรอบหัวนม วิธีนี้สามารถซ่อนแผลได้ระดับหนึ่ง แต่มีข้อเสียคือ ต้องมีการผ่าตัดผ่านเนื้อเต้านม  และอาจมีอาการชาของหัวนมได้ และหัวนมต้องมีขนาดใหญ่พอ

 

• การผ่าตัดเสริมหน้าอกผ่านทาง รักแร้ บาดแผลจะซ่อนอยู่ทางใต้รักแร้ไปตามรอยพับของผิวหนัง จึงมักจะไม่เห็นแผลเป็น ในบางรายจะไม่มีใครทราบได้เลยว่าได้รับการเสริมทรวงอก เพราะไม่มีแผลเป็นให้เห็น และมีความ เป็นธรรมชาติมาก

 

 

ความเสี่ยงในการเสริมหน้าอก

 

การผ่าตัดทุกชนิดมีความเสี่ยงที่เกิดจากการทำผ่าตัดทั่วไป เช่น เลือดออก,เลือดคั่ง,ติดเชื้อ แต่มีอัตราการเกิดประมาณ 1-5 %  การผ่าตัดเสริมหน้าอกก็เช่นกัน มีโอกาสเกิดผลแทรกซ้อนได้ ทนอกจากนี้ การผ่าตัดเสริมหน้าอกอาจจะเกิด การรัดตัวของ พังผืดที่อยู่รอบซิลิโคน ทำให้เกิดความรู้สึกแข็งผิดปกติของเต้านมข้างนั้นบางครั้ง อาจจะมี ความรู้สึกเสียว,ชา บริเวณหัวนมหรือบริเวณใกล้รอยผ่าตัด ซึ่งส่วนใหญ่จะดีขึ้นเป็นปกติได้ แต่บางคนก็อาจจะรู้สึกเช่นนั้นตลอดไป ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดเสริมหน้าอก สามารถให้นมบุตรได้ถ้าต้องการ มีรายงานว่าผู้ที่ได้รับการเสริมหน้าอกบางรายมีอาการปวดตามข้อต่างๆ มีไข้,อ่อนเพลีย แต่จาก การศึกษาโดยละเอียดไม่สามารถระบุความเกี่ยวพัน ระหว่างอาการเหล่านี้กับการเสริมหน้าอก ได้นอกจากนี้การผ่าตัดเสริมหน้าอก ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่ไม่ได้รับการเสริมหน้าอก แต่ก็ควรมีการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมตามปกติ การตรวจเต้านมด้วย เอ็กซเรย์ แมมโมแกรม สามารถทำได้ แต่ต้องใช้วิธีพิเศษ

 

 

ความปลอดภัยในการผ่าตัดเสริมหน้าอก

 

โดยปกติ การผ่าตัดเสริมหน้าอกโดยถุงเต้านมเทียม มีความปลอดภัยสูงมาก แต่ก็มีข้อควรระวัง เช่นถุงเต้านมเทียมมีโอกาส แตกหรือรั่วได้ ไม่เกี่ยวกับการได้รับกระแทกอย่างรุนแรง  ถ้าเป็นการผ่าตัดเสริมหน้าอกโดยใช้เป็นถุงน้ำเกลือ เต้านมด้านนั้นจะยุบลงโดยรวดเร็ว น้ำเกลือที่รั่วออกมาจะถูกดูดซึมเข้ากระแสโลหิตไม่ก่อให้เกิดอันตรายแต่ อย่างใด ถ้าเป็นซิลิโคนเหลวจะเกิดได้ 2 กรณี อย่างแรกถ้าพังพืดที่หุ้มรอบถุงไม่แตก อาจจะไม่รู้เลยว่าเกิดการรั่วขึ้น ถ้าพังพืดที่หุ้มรอบฉีกขาดซิลิโคนเหลวจะออกมานอกถุงแล้ว อาจจะเกิดพังพืดหุ้มรอบซิลิโคนนั้นใหม่ เต้านมข้างนั้นจะมีรูปร่างที่เปลี่ยนไป และอาจจะรู้สึกแข็งมากขึ้น

 

 

การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดเสริมหน้าอก

 

ก่อนทำการผ่าตัดเสริมหน้าอก ควรมาพบแพทย์ที่มีความ ชำนาญก่อน เพื่อให้แพทย์ตรวจร่างกายให้ และตรวจสภาพเต้านม  ตลอดจนการพูดคุยซักถาม และบอกความต้องการของคุณต่อแพทย์เพื่อแพทย์จะได้บอกรายละเอียดของการทำผ่าตัดเสริมหน้าอกที่ต้องการ การเลือกขนาดหน้าอก การเลือกรูปแบบซิลิโคน การเลือกแผลผ่าตัด ระยะเวลาพักฟื้น รายละเอียดเหล่านี่ควรแจ้งแพทย์ให้เรียบร้อยก่อนทำการผ่าตัดเสริมหน้าอก

 

 

การดูแลหลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก

 

หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก ท่านจะรู้สึกตึงปวดได้ บ้างประมาณ 2-3 วัน รูปร่างของเต้านมจะดูเป็นธรรมชาติประมาณ 1-2 เดือนหลังผ่าตัดเสริมหน้าอกแล้วและ ท่านอาจจะต้องนวดเต้านมที่เสริมตามคำแนะนำของแพทย์อีกประมาณ 3-6 เดือน

ที่มา thesibclinic.com

การผ่าตัดเสริมหน้าอก, การผ่าตัดเสริมหน้าอก หมายถึง, การผ่าตัดเสริมหน้าอก คือ, การผ่าตัดเสริมหน้าอก ความหมาย, การผ่าตัดเสริมหน้าอก คืออะไร

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

คำยอดฮิต

Sanook.commenu