สหรัฐอเมริกา ประกาศให้สารแอลเอสดีเป็นสิ่งเสพติด
ประเทศสหรัฐอเมริกา ประกาศให้สาร "แอลเอสดี" (LSD : Lysergic acid diethylamide) เป็นสิ่งเสพติด ทั้งนี้แอลเอสดีเป็นสารกึ่งสังเคราะห์มีฤทธิ์หลอนประสาทอย่างรุนแรง ค้นพบในปี 2481 โดย อัลเบิร์ท ฮอฟมันน์ (Dr. Albert Hofmann) นักเคมีชาวสวิส โดยสกัดได้จากเชื้อราชนิดหนึ่งจากเมล็ดข้าวไร เอลเอสดีมีลักษณะหลายรูปแบบ ทั้งผลึกขาว เมล็ด แคปซูล แผ่นเจล และของเหลวซึ่งนิยมนำไปหยดใส่กระดาษดูดซับสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก เรียกว่า “กระดาษเมา” (Magic paper) สำหรับสูดดม เคี้ยว หรืออม แอลเอสดีจะออกฤทธิ์ทำให้รูม่านตาขยาย อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น เพิ่มความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจ เหงื่อออก เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ ปากแห้ง และมือไม้สั่น ผู้ที่เสพในระยะแรก ๆ จะมีความสุข อารมณ์ดี รู้สึกคึกคัก แต่หลังจากนั้นจะเกิดอาการประสาทหลอนอย่างรุนแรง มีอาการหวาดกลัว จนกระทั่งอาจทำร้ายตนเอง หรือนำไปสู่การฆ่าตัวตาย โดยที่ผู้นั้นไม่สามารถยับยั้งตนเองได้ หากเสพแอลเอสดีติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้เป็นโรคจิตได้ เอลเอสดีนิยมเสพกันมากในยุค "บุปผาชน" หรือ "ฮิปปี้" (Hippie) ในช่วงคริสตศตวรรษที่ 1960-1970 โดยเฉพาะกลุ่มศิลปิน นักประพันธ์ และนักดนตรี เพื่อหลบหลีกความเลวร้ายของโลก เข้าหาอิสระเสรีภาพในจินตนาการ อันนำไปสู่การสร้างสรรค์ผลงานนอกกรอบใหม่ ๆ แต่แน่นอนว่าต้องแลกกับสภาวะจิตวิกลจริต สำหรับประเทศไทย แอลเอสดีถูกจัดอยู่ในกลุ่มยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ผู้ผลิต นำเข้า หรือส่งออก ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตและปรับตั้งแต่หนึ่งล้านบาทถึงห้าล้านบาท ผู้เสพต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน - 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 10,000 - 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สหรัฐอเมริกา ประกาศให้สารแอลเอสดีเป็นสิ่งเสพติด, สหรัฐอเมริกา ประกาศให้สารแอลเอสดีเป็นสิ่งเสพติด หมายถึง, สหรัฐอเมริกา ประกาศให้สารแอลเอสดีเป็นสิ่งเสพติด คือ, สหรัฐอเมริกา ประกาศให้สารแอลเอสดีเป็นสิ่งเสพติด ความหมาย, สหรัฐอเมริกา ประกาศให้สารแอลเอสดีเป็นสิ่งเสพติด คืออะไร
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!