ความรู้ เกร็ดความรู้ สารานุกรม สารานุกรมออนไลน์ ความรู้รอบตัว ความรู้ทั่วไป พจนานุกรม เกมส์ เพลงใหม่ เพลง

13 เทคนิคการป้องกันตัวเองเมื่อจอดรถ, 13 เทคนิคการป้องกันตัวเองเมื่อจอดรถ หมายถึง, 13 เทคนิคการป้องกันตัวเองเมื่อจอดรถ คือ, 13 เทคนิคการป้องกันตัวเองเมื่อจอดรถ ความหมาย, 13 เทคนิคการป้องกันตัวเองเมื่อจอดรถ คืออะไร
| เปิดอ่าน 0 | ความคิดเห็น 0
13 เทคนิคการป้องกันตัวเองเมื่อจอดรถ

      อันตรายที่เกิดขึ้นเมื่อเวลาลงจากรถหรือขึ้นรถเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืน และหากว่าเป็นผู้หญิงด้วยแล้วยิ่งต้องระวังตัวเป็นพิเศษ เราทุกคนคงเคยมีความรู้สึกกลัว หรือรู้สึกไม่ปลอดภัยเวลาจะขึ้นรถหรือลงจากรถคนเดียว จากการศึกษาพบว่าอันตรายที่เกิดขึ้นจากที่จอดรถในห้างสรรพสินค้า หรือที่บริษัทที่ทำงานมีอัตราเพิ่มขึ้น โดยคนร้ายมักเลือกเหยื่อที่ผมยาวเพราะง่ายต่อการกระชากและทำร้าย และกำลังใช้โทรศัพท์มือถืออยู่ ผู้เขียนมีโอกาสอ่านเรื่องการจอดรถอย่างปลอดภัยของมหาวิทยาลัยโทรอนโต แคนาดามีข้อแนะนำที่น่าสนใจ ดังนี้
   1. ไม่ควรทิ้งของมีค่า หรืออุปกรณ์ไฟฟ้า ของล่อใจต่างๆ ไว้บนรถ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ไอแพด ไอโฟน หรือเครื่องเสียงที่มีราคาแพง ของใช้มีค่าส่วนตัว เช่น กระเป๋าถือ กระเป๋าออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งเศษสตางค์ไว้ในที่ที่มองเห็นได้ในรถ ควรเก็บไว้ในที่มิดชิด และมองไม่เห็น และไม่ควรมีชื่อหรือที่อยู่ติดไว้ที่สำคัญไม่ควรทิ้งบัตรเครดิต หรือสมุดบัญชีธนาคารไว้ในรถด้วย
    2. เอากุญแจออกจากรถ และล็อกรถทุกครั้ง
    3. เลือกสถานที่จอดรถที่ปลอดภัย จอดรถในที่ใกล้กับทางลง หรือใกล้กับที่ที่จะไป ใกล้ผู้คน ใกล้บันได หรือลิฟต์ หลีกเลี่ยงการจอดรถในชั้นที่ว่างหรือไม่ค่อยมีคนอื่นใช้
    4. หากไปจอดในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยและรู้สึกกังวลใจในความปลอดภัย ให้ขับรถสำรวจดูก่อนจนแน่ใจว่าปลอดภัยแล้วจึงจอด หากรู้สึกไม่ชอบมาพากล ให้ไว้ใจสัญชาตญาณของตัวเอง ไปหาที่จอดที่อื่นหรือตัดสินใจขับออกไป หรือใช้วิธีขับไปรอบๆ จนพบเพื่อนรวมทางคนอื่นจึงตัดสินใจจอดใกล้กับรถคันอื่นและเดินร่วมทางด้วยไปที่ประตูทางออก
    5. ทุกครั้งที่จอดรถใช้วิธีขับถอยหลังเข้าที่จอดรถ เพื่อหน้ารถจะหันหน้าออกเทคนิคนี้ทำให้เราอยู่ในสายตาของผู้คนที่ผ่านไปมา และทำให้เราสามารถขับรถออกไปได้เร็วขึ้นและง่ายขึ้นเมื่อพบคนแปลกหน้า
    6. ให้มองไปรอบๆ อย่างถ้วนถี่ก่อนลงจากรถ และเมื่อลงจากรถแล้วให้เดินอย่างรวดเร็วและมั่นใจไปที่ประตูทางออกหรือลิฟต์ อย่าทำเรื่องโน้นเรื่องนี้ เช่นรับโทรศัพท์ หาของในกระเป๋าในขณะเดินไปประตูทางออก
    7. หากรู้สึกว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาให้เปลี่ยนกิจวัตรประจำวันที่ทำ เช่นจอดรถในที่ใหม่ จอดในเวลาที่แตกต่างจากเดิม หลีกเลี่ยงการปฏิบัติตัวเป็นตารางเหมือนเดิมทุกวัน
    8. หากต้องขับรถและจอดรถคนเดียว อาจใช้บริการขับรถทางเดียวกัน ไปด้วยกันบ้าง (Car Pool)
    9. หากรู้สึกไม่ปลอดภัยขณะเดินกลับไปที่รถ ขอให้คนที่ไว้ใจและรู้จักเดินไปเป็นเพื่อน
   10. เมื่อเดินไปที่รถหากสังเกตเห็นว่ามีรถคันอื่นถูกงัดแงะหรือกระจกแตกให้โทรศัพท์เรียกตำรวจทันที อย่าเดินต่อไปที่รถของตัวเอง แจ้งสถานที่ให้ชัดเจนและยืนรอตำรวจในที่ที่ปลอดภัย
   11. มีกุญแจรถอยู่ในมือก่อนไปถึงที่รถ อย่าคลำหากุญแจในกระเป๋าถือ หรือกระเป๋าเอกสารใดๆ ในที่ที่ปลอดคน ตรวจดูเบาะหลังรถอย่างถ้วนถี่ก่อนขึ้นรถ เมื่อขึ้นรถแล้วให้ล็อกรถทันทีและเก็บสิ่งของมีค่าต่างๆ ให้พ้นจากการล่อสายตา
   12. ถ้าพบเจอในสิ่งที่ไม่ชอบมาพากล ให้รีบขับรถออกไปจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด
   13. เข้าคอร์สอบรม และเรียนรู้เรื่องการป้องกันตัวเองเมื่อถูกทำร้ายเช่น การใช้นิ้วจิ้มที่บริเวณดวงตา หยิกหรือกัดบริเวณท้องแขน หรือเตะบริเวณต่อมลูกหมาก หรือใช้วิธีกระชากนิ้วของผู้ทำร้าย 2 นิ้วแล้วหักกลับในทิศทางตรงกันข้ามให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เป็นต้น ส่วนการตะโกนขอความช่วยเหลือก็ช่วยได้เช่นกัน เพราะพบว่าผู้ที่ทำร้ายหลายรายจะหลบหนีเมื่อพบว่าเหยื่อร้องตะโกนและไม่กลัวต่อการทำร้ายมากกว่าเหยื่อที่กลัวจนไม่กล้าทำอะไร นอกจากนั้น ควรถือร่ม หรือมีสเปรย์พริกไทยพ่นในกรณีฉุกเฉิน
    อันตรายมีอยู่รอบด้าน ดังนั้น หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น ให้ตั้งสติให้มั่น ใช้ปัญญา ป้องกันตัวเองโดยใช้กลยุทธ์ต่างๆ ที่กล่าวไปอย่างเหมาะสมและมีความรอบคอบ ขอให้ทุกครอบครัวปลอดภัยคลาดแคล้วจากเหตุร้ายต่างๆ เป็นกำลังใจให้เสมอ
แหล่งที่มา : https://www.thaihealth.or.th/healthcontent/article/28343

13 เทคนิคการป้องกันตัวเองเมื่อจอดรถ, 13 เทคนิคการป้องกันตัวเองเมื่อจอดรถ หมายถึง, 13 เทคนิคการป้องกันตัวเองเมื่อจอดรถ คือ, 13 เทคนิคการป้องกันตัวเองเมื่อจอดรถ ความหมาย, 13 เทคนิคการป้องกันตัวเองเมื่อจอดรถ คืออะไร

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

คำยอดฮิต

Sanook.commenu