ยามร้อนตับแตกเช่นนี้ ทานอะไรก็ไม่อร่อย ไม่อิ่ม ไหนเลยจะมาสู้ทานข้าวเหนียวมูน+มะม่วงสุก วันนี้ข้าวเหนียวมะม่วงโกอินเตอร์ไปแล้ว เรามาดูการจัดจานแบบฟิวชั่นฟู้ด ที่น่าสนใจและน่าทาน
ประโยชน์ของข้าวเหนียวมะม่วง
- กะทิในข้าวเหนียวมูนช่วยทำให้วิตามินเอและอีจากมะม่วงดูดซึมดีขึ้น
- เนื้อมะม่วงสุกช่วยชะชอให้น้ำตาลจากข้าวเหนียวดูดซึมช้าลง
- เป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง
- มะม่วงให้ไฟเบอร์สูง
- ช่วยทำให้สดชื่นในผู้ที่เบื่ออาหารหรือรับประทานอาหารมื้อหลักไม่ค่อยได้
โทษของข้าวเหนียวมะม่วง
- เพราะเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูงจึงไม่เหมาะกับผู้มีน้ำหนักเกิน
- แป้งข้าวเหนียวเปลี่ยนเป็นไขมัน “ไตรกลีเซอไรด์” ได้ ถ้าหนักข้าวเหนียวเกินไปทำให้เกิด “มันจุกตับ”ได้
- กะทิกับข้าวเหนียวมีธาตุเค็มที่เร่งความดันสูง
- มะม่วงสุกหวานกับข้าวเหนียวหวานมันกระตุ้นอาการอักเสบร้อนในได้
- ถ้ากินร่วมกับอาหารมื้อหลักอาจทำให้นอนไม่หลับหรือรู้สึกไม่สดชื่นเพราะให้พลังงานสูงมาก
เทคนิคการกิน “ข้าวเหนียวมะม่วง” ไม่เพิ่มพุง คือ
1. ให้หนักมะม่วงมากกว่าข้าวเหนียว
2. ใช้ข้าวเหนียวดำเพราะมีไฟเบอร์และแอนตี้ออกซิแดนท์ชั้นดี
3. มื้อใดกินข้าวเหนียวมะม่วงมื้อนั้นไม่ควรรับประทานข้าวแล้ว
4. ให้ถือข้าวเหนียวมะม่วงเป็นอาหารมื้อหนักมื้อหนึ่ง
5. รับประทานทีละชุดเล็ก เช่น มะม่วงหนึ่งลูกต่อข้าวเหนียวมูนขนาดเท่ามะม่วงครึ่งลูก
6. ขอให้รับประทานช่วงเที่ยงจะดีกว่าก่อนนอน
ที่มา www.bloggang.com