ทางลัดในการลดน้ำหนักอย่าง ยา วิตามิน หรือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่างๆ เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่คนอยากผอม เพราะคำโฆษณาเกินจริงอย่าง "กินแล้วผอมภายใน 7 วัน" หรือ "ผอมโดยไม่ต้องอดอาหาร หรือ ออกกำลังกาย" ซึ่งฟังดูแล้วช่างเย้ายวนให้ทดลองซื้อหามากิน แถมยังมีขายกลาดเกลื่อนตามอินเตอร์เน็ต แค่คลิกนิ้วจ่ายเงิน ยาก็ถูกส่งมาถึงบ้าน แต่คุณรู้ไหมว่า ยาลดความอ้วนที่ขายกันทั่วไปนั้น อาจมีส่วนผสมของอะไรอยู่บ้าง และด้านมืดหรือผลข้างเคียงของมันคืออะไร
ยาขับปัสสาวะ เป็นส่วนผสมที่นิยมใส่ลงไป เพราะเมื่อคุณกินแล้วปัสสาวะออกมาเยอะ เสียน้ำจากร่างกายไปเยอะ น้ำหนักตัวก็จะลด ส่งผลให้ผู้กินดีใจ คิดว่าผอมลง แต่จริงๆ แล้วเกิดจากการเสียน้ำชั่วคราว ไม่ได้ทำให้ไขมันหายไปแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยังก่อให้เกิดผลข้างเคียงเช่น ความดันต่ำ หน้ามืด มึนศีรษะ เกลือแร่ไม่สมดุลได้
อนุพันธ์ของยาบ้า เป็นหนึ่งในกลุ่มที่ฮิตที่สุด เพราะออกฤทธิ์ยับยั้งความรู้สึกอยากอาหารที่สมอง แต่มีผลข้างเคียงที่อันตรายมากคือ หัวใจเต้นเร็ว นอนไม่หลับ ซึมเศร้า ความดันโลหิตสูง เสพติดยา และยังเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้ หากได้รับยามากเกินไป จะเห็นได้ว่าอันตรายไม่ต่างกับยาบ้าเลย
ธัยรอยด์ฮอร์โมน เป็นฮอร์โมนที่ร่างกายเราผลิตได้เอง มีบทบาทช่วยการเผาผลาญในร่างกาย จึงมีคนคิดนำมาผลิตเป็นยาสูตรลดความอ้วน การกินเสริมทั้งที่ร่างกายไม่ได้ขาด ส่งผลให้เกิดภาวะไฮเปอร์ธัยรอยด์ ซึ่งอาจมีอาการ กระวนกระวาย ใจสั่น ขี้ร้อน เหงื่อออกง่าย นอนไม่หลับ
ยาดักไขมัน เป็นยาที่ออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ที่ย่อยอาหารประเภทไขมัน จึงยับยั้งการดูดซึมของอาหารในกลุ่มนี้ได้บางส่วน แต่อาหารประเภทอื่นๆ ยังดูดซึมได้เป็นปกติ จึงไม่ค่อยได้ผล และยังก่อให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ผายลมบ่อย ถ่ายเหลว รวมถึงผลข้างเคียงในการกินระยะยาวคือ ขาดวิตามินที่ดูดซึมพร้อมไขมัน เช่น วิตามินอี วิตามินดี เป็นต้น
แอลคาร์นิทีน เป็นกรดอะมิโนที่มาโด่งดังในระยะหลัง เพราะสรรพคุณเรื่องเพิ่มการเผาผลาญ ซึ่งจริงๆ แล้วงานวิจัยที่สนับสนุนว่า แอลคาร์นิทีนช่วยกระตุ้นการเผาผลาญได้จริงยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัด แต่กลับมีงานวิจัยที่พบว่า แอลคาร์นิทีนที่สูงจากการบริโภคเนื้อแดง (เนื้อหมู เนื้อวัว) มากเกินไป อาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจได้ การรับแอลคาร์นิทีนเพิ่มจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จึงเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
จะเห็นได้ว่า ส่วนผสมแต่ละอย่างที่ถูกนำมาใช้เพื่อลดน้ำหนักนั้น ล้วนแต่มีด้านมืดที่อันตรายต่อสุขภาพทั้งสิ้น การใช้ยาเหล่านี้จึงไม่ใช่ทางลัดที่ปลอดภัย แต่เป็นทางลัดที่แฝงไว้ด้วยอันตราย และไม่อาจรับประกันได้ว่าจะนำพาคุณไปสู่จุดมุ่งหมายได้จริง
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชนในชุดโครงการ "รวมพลัง ขยับกาย สร้างสังคมไทย ไร้พุง"เครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยสนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ที่มา : เว็บไซต์แนวหน้า โดย พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒน