![เค้ก น่ากิน กันโรค น่ากลัว](https://s.isanook.com/gu/0/ui/1/9720/274557__26122013123329.jpg?ip/crop/w300/q90/webp)
เทศกาลปีใหม่ เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข ที่คนส่วนใหญ่อยากจะหยิบยื่นความรัก ความปรารถนาดีให้แก่กัน หนึ่งในวิธีการแสดงออกที่นิยมกันมากคือ การให้กระเช้าปีใหม่ ซึ่งกระเช้าที่แพงๆ ส่วนใหญ่จะต้องมี สุรา เป็นจุดเด่นของกระเช้า จนกลายเป็นค่านิยมการให้สุรากันเนื่องในวันปีใหม่ กระทั่งทางสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพได้ออกแคมเปญรณรงค์เรื่อง ให้เหล้า = แช่ง เทรนด์การให้สุราจึงลดลงไปบ้าง แม้จะยังไม่หายสาบสูญไปเสียทีเดียว แต่อีกเทรนด์หนึ่งที่ยังนิยมไม่เสื่อมคลาย คือ การให้เค้ก คุ้กกี้ หรือขนมหวานอื่นๆ เป็นของขวัญปีใหม่ เรามาดูกันว่า การให้เค้กกับผู้ใหญ่ที่เคารพ หรือ คนที่คุณรักนั้น มีค่าเท่ากับการหยิบยื่นอะไรให้บ้าง
เค้ก = น้ำตาล เพื่อสุขภาพที่ดี คนเราควรบริโภคน้ำตาลไม่เกิน 6-9 ช้อนชาต่อวัน (ต่างกันไปขึ้นกับขนาดตัว) แต่ทราบหรือไม่ว่า จากสถิติปัจจุบัน คนไทยบริโภคน้ำตาลมากถึงกว่า 16-25 ช้อนชาต่อวัน (เกินเกณฑ์ถึง 3 เท่า!!) น้ำตาลที่มากเกินควร ส่งผลเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอ้วนลงพุง เบาหวาน หลอดเลือดหัวใจ และท้ายสุดแล้วโรคเหล่านี้จะนำไปสู่อายุขัยที่สั้นลงได้
เค้ก = ไขมันและคอเลสเตอรอลเมื่อพูดถึงคอเลสเตอรอล เรามักนึกถึงของมันๆ หรือของทอด แต่จริงๆ แล้วขนมหวานอย่างเค้ก ไอศครีม ก็เป็นแหล่งอาหารที่ส่งผลเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ใช่ย่อยเลย เพราะส่วนประกอบของเค้กคือ เนย ไข่ วิปครีม นม ล้วนมีคอเลสเตอรอลและไขมันอิ่มตัวในปริมาณสูง ดังนั้น การให้เค้กเป็นของขวัญ จึงไม่ต่างกับการหยิบยื่นอาหารทำร้ายสุขภาพ ทำร้ายหัวใจให้คนที่คุณรัก
เค้ก = ไขมันทรานส์ไขมันทรานส์เป็นไขมันอันตรายต่อสุขภาพ เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจและเบาหวาน ควรจำกัดการรับประทานให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ เค้กและคุ้กกี้ จัดเป็นแหล่งอาหารที่อุดมด้วยไขมันทรานส์
การให้เค้กหรือคุ้กกี้เนื่องในวันปีใหม่ จึงไม่ต่างกับการแช่งให้