6 หนังดีที่ควรมีไว้ติดบ้าน : คอลัมน์เอกเขนกดูหนัง : โดย ณัฐพงษ์ โอฆะพนม
เมื่อปีที่ผ่านมามีหนังดีๆ เข้าฉายในบ้านเราหลายเรื่อง มาถึงตอนนี้ออกเป็นแผ่นดีวีดีลิขสิทธิ์ชวนให้ซื้อติดบ้านหาเวลาว่างนั่งดูกันเพลินๆ
War Horse หนังชิงออสการ์ปี 2011 ของผู้กำกับสตีเว่นสปีลเบิร์ก หนังยาวกว่า 2 ชั่วโมง แต่ดูได้เพลินๆ ไม่น่าเบื่อ ว่าด้วยมิตรภาพและความผูกพันระหว่างหนุ่มน้อยกับม้าพยศ ผ่านห้วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 1 วิธีการเล่าเรื่องออกจะเชยๆ แต่งานภาพนั้นสวยบาดจิต เนื้อหาไม่มีพิษภัยนั่งดูพร้อมๆ กันได้ทั้งครอบครัว
The Descendant เป็นหนังชิงออสการ์ปีเดียวกัน เข้าฉายบ้านเราในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่เนื้อหานั้นถือว่าร่วมสมัยและสะท้อนภาพครอบครัวในยุคทุนนิยมด้วยสายตาเย้ยหยันถากถางอยู่ในที หนังเล่าเรื่องของหนุ่มใหญ่ที่การงานอาชีพธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กำลังประสบความสำเร็จด้วยดี แต่เมื่อภรรยาประสบอุบัติเหตุอาการโคม่า เขาจึงรับภาระดูแลสองลูกสาวพร้อมๆ กับเผชิญความจริงบางอย่างอันน่าเจ็บปวด เนื้อหาฟังดูหนักอึ้ง เคร่งเครียด แต่หนังกลับนำเสนอเรื่องราวเหล่านี้ด้วยท่าทีผ่อนคลาย ไม่ฟูมฟาย หนำซ้ำหลายฉากหลายตอนกลับบอกเล่าด้วยลีลาตลกร้าย ให้อารมณ์ขำขื่นภายใต้ภาวะกดดันตึงเครียดของตัวละคร แม้เนื้อหาบางช่วงตอนล่อแหลมต่อเส้นศีลธรรม แต่โทนหนังรวมทั้งวิธีการเล่าเรื่องและบรรยากาศโดยรวม ก็สามารถชักชวนให้คนในคอบครัว นั่งดูหนังเรื่องนี้กันพร้อมหน้าพร้อมตาได้อย่างมีความสุข
เช่นเดียวกับ Hugo หนังที่ใครหลายคนชอบมากที่สุดในปีนี้ ดูจากหน้าหนังเหมือนจะเหมาะสำหรับเด็ก แต่เอาเข้าจริง Hugo กลับสะกิดต่อมน้ำตาผู้ใหญ่อย่างเราๆ ให้ถึงคลอเบ้าได้เหมือนกัน หนังไม่มีอะไรหม่นเศร้าหากเล่าถึงเด็กกำพร้าที่พ่อหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยทิ้งไว้เพียงหุ่นกลปริศนา เจ้าหนูใช้ชีวิตในสถานีรถไฟ ก่อนจะได้รู้จักกับสาวน้อยนิสัยดี และพ่อค้าร้านขายของเล่นหน้าตาดุ ที่ต่อมานำพวกเขาไปพบกับการผจญภัย อันยิ่งใหญ่ และความมหัศจรรย์ของโลกภาพยนตร์ Hugo คือหนังที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ ตั้งแต่ยุครุ่งเรืองจนถึงร่วงโรย สะท้อนภาพคนทำหนังผู้ยิ่งใหญ่ของโลกที่ต้องต่อสู้เพื่อดำรงสถานะและตัวตนของศิลปะภาพยนตร์ให้คงอยู่ผ่านช่วงเวลาที่ทั้งเจ็บปวดและเปี่ยมสุขผู้กำกับ มาร์ตินสกอร์เซซี เชื่อมโยงเรื่องราวประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ ตั้งแต่การถือกำเนิด ไปถึงบุคคลในประวัติศาสตร์ผู้ได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งภาพยนตร์อย่าง จอร์จ เมลิเยร์ ได้อย่างน่าอัศจรรย์ เป็นหนังที่สร้างขึ้นเพื่อแสดงความคาราวะต่อศิลปะภาพยนตร์ได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการใช้เทคนิคสมัยใหม่อย่างหนังสามมิติ มารับใช้แนวคิดของการมองหนังในฐานะศิลปะได้อย่างลงตัวและงดงาม
Hugo เป็นหนังฮอลลีวู้ด ที่ยกย่องบิดาคนทำหนังชาวฝรั่งเศส ในทางกลับกันมีหนังฝรั่งเศสที่ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมหนังฮอลลีวู้ด เป็นเจ้าของรางวัลออสการ์หนังยอดเยี่ยมปีเดียวกันกับทั้งหนังสามเรื่องในฐานะผู้เข้าชิงที่แนะนำไป นั่นก็คือ The Artist หนังที่เดินตามขนบหนังเงียบยุครุ่งเรืองในอดีตทุกประการโดยเล่าเรื่องผ่านการแสดงล้วนๆ ผสานกับดนตรีและเสียงประกอบที่สื่อความไปถึงแก่นของเรื่องได้อย่างยอดเยี่ยม ถ้า Hugo คือการใช้นวัตกรรมของภาพยนตร์มารับใช้งานศิลปะ The Artist ก็คือการนำศิลปะมาสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับโลกภาพยนตร์ การดูหนัง Hugo และ The Artist ควบคู่กันไป เหมือนการได้พาเรากลับไปเรียนรู้อดีตอันยิ่งใหญ่ของภาพยนตร์ในฐานะงานศิลปะ พร้อมๆ กับสะท้อนให้เห็นว่าเหล่าคนทำหนัง ตอบแทนความรักในศิลปะภาพยนตร์ผ่านผลงานของตนอย่างไร นี่เป็นคำตอบว่า เหตุใด คนทำหนังในยุโรปและอเมริกา สามารถประคับประคองอุตสาหกรรมหนังของพวกเขาเอาไว้ได้อย่างมั่นคง แม้หลายๆ ครั้งเศรษฐกิจจะสั่นคลอนไปบ้างก็ตาม
ปิดท้ายด้วยหนังไทยที่ควรมีไว้ติดบ้านอีกสองเรื่อง แม้ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมหนังไทยค่อนข้างซบเซาเงียบเหงา แต่มีหนังอยู่สองเรื่อง ที่พยายามก้าวข้ามออกจากกรอบคิดแบบเดิมๆ เรื่องแรกถือเป็นการเปิดมุมมองของทัศนคติเรื่องเพศได้อย่างน่าชื่นชมสำหรับ It Gets Better ไม่ได้ขอให้มารัก ที่เล่าถึงชะตากรรมของกะเทยคนหนึ่งที่ทนทุกข์ต่อการปิดบังรสนิยมทางเพศของตนรวมถึงการพยายามทำให้คนในสังคมยอมรับพวกเขาเป็นส่วนหนึ่ง แม้มันจะยากเย็นแสนเข็ญขนาดไหนก็ตาม ส่วนอีกเรื่องคือ Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ ที่เล่าถึงความรักในหลากหลายมิติ หลายแง่มุม ตั้งแต่ความสัมพันธ์ของคู่เด็กหนุ่มที่ผลลัพธ์อาจเป็นได้หลายทาง สาวใหญ่ผู้สูญเสียคู่ชีวิตและชีวิตที่ต้องการความเข้มแข็งเพื่อออกเดินต่อ และคู่หนุ่มสาวที่กำลังจะสร้างครอบครัวซึ่งต้องเผชิญหน้าคนรอบตัวเพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงในวันสำคัญของเขาและเธอ
มีหนัง 6 เรื่องนี้ไว้ติดบ้าน การดูหนังในวันว่างจะเป็นช่วงเวลาสำราญที่สุดช่วงหนึ่งอย่างแน่นอน
ที่มาข้อมูลและภาพ komchadluek.net
