ชื่อสามัญ Archer fish
ชื่อวิทยาศาสตร์ Toxotes chatareus (Hamilton, 1822)
ลักษณะทั่วไปของปลาเสือพ่นน้ำ
ปลาเสือพ่นน้ำเป็นปลาที่มีลักษณะเด่น คือ ส่วนหัว และลำตัว ประกอบด้วยจุดสีดำกลม หรือรี จำนวน 6-7 จุด ครีบหางตัดตรงมีสีส้มอมเหลือง ครีบหลัง และครีบก้นมีสีเหลืองขอบเป็นสีดำ จะงอยปากแหลม ตามีขนาดใหญ่ค่อนไปทางด้านบน จึงมีความสามารถมองเห็นเหนือผิวน้ำได้ดี ขากรรไกรล่างยาวกว่าขากรรไกรบนเล็กน้อย ลำตัวรูปทรงขนมเปียกปูน ป้อมสั้น แบนข้าง โดยเฉพาะท้องแบนเป็นสัน บริเวณท้องมีสีเงิน ลำตัวสีเหลืองลายดำเหมือนเสือ จึงได้ชื่อว่า ปลาเสือ มีขนาดลำตัวทั่วไปยาวเฉลี่ยไม่เกิน 20 ซม. ขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยพบยาว 25 ซม. การแยกเพศสังเกตจากลักษณะภายนอก เพศเมียมีช่วงท้องยาวกว่าเพศผู้ ปลาเสือพ่นน้ำ เป็นปลาที่ชอบว่ายน้ำขึ้นมาตามผิวน้ำหรือระดับใต้ผิวน้ำพอดี การเคลื่อนที่ในระยะยาวมักเคลื่อนไปในแนวเส้นตรง และมองเห็นน้ำแตกแยกเป็นทางที่ปลายขอบกระพุ้งแก้ม จนทำให้สามารถรู้ว่ามีปลาว่ายน้ำในบริเวณนั้น การที่ปลาเสือพ่นน้ำ มีนิสัยว่ายน้ำแบบนี้เนื่องจาก ปลาต้องคอยมองหาเหยื่อที่จะกินเป็นอาหารส่วนมากเป็นแมลงขนาดเล็ก ๆ และอีกประการหนึ่งเนื่องจากปลาอาศัยอยู่ในบริเวณปากอ่าวปากแม่น้ำที่น้ำมีความขุ่นสูง ทำให้ประสิทธิภาพการใช้สายตาในน้ำมีจำกัด ปลาเสือพ่นน้ำเป็นปลาที่อาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง กินอาหารจำพวก แพลงก์ตอนสัตว์ โรติเฟอร์ ตัวอ่อนแมลงน้ำ ลูกกุ้ง สัตว์จำพวกมด และแมลง สามารถฝึกให้กินเนื้อปลาสับ และอาหารเม็ดสำเร็จรูปได้ นอกจากนี้ปลาเสือพ่นน้ำมีการปรับตัวให้เหมาะสมกับการกินแมลง โดยมีวิวัฒนาการทำให้เหงือกเกิดช่องใต้เพดานปาก เพื่อสามารถพ่นน้ำออกไปได้เป็นลำด้วยแรงอัดของแผ่นปิดเหงือก
การแพร่กระจาย
ปลาเสือพ่นน้ำ เป็นปลาที่พบแพร่กระจายอยู่ทั่วไปในประเทศแถบตะวันออก เช่น หมู่เกาะฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย พม่า และอินเดีย ในประเทศไทยพบอยู่ตามแม่น้ำ และลำคลอง หนอง บึง ที่มีการเชื่อมต่อกับแม่น้ำ และพบมากในบริเวณปากแม่น้ำ ปลาเสือพ่นน้ำพบชุกชุมในเขตภาคกลาง และภาคใต้
การเพาะพันธุ์ปลาเสือพ่นน้ำ
การคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ การแยกเพศปลาเสือพ่นน้ำสังเกตจากลักษณะภายนอก คือปลาเสือพ่นน้ำเพศผู้ลำตัวเพรียว ช่วงท้องแคบ และสีครีบก้นเป็นสีดำเข้มกว่าปลาเสือพ่นน้ำเพศเมีย ควรมีขนาดความยาวไม่น้อยกว่า 16 ซม. น้ำหนักตัวโดยประมาณ 90 กรัม อายุของพ่อแม่พันธุ์ควรมีอายุไม่น้อยกว่า 2 ปี
การผสมพันธุ์ การเพาะพันธุ์ปลาเสือพ่นน้ำ ควรใช้พ่อแม่ที่เลี้ยงไว้จนเกิดความชินต่อสภาพแวดล้อมในที่กักขังเมื่อดำเนินการคัดเลือกพ่อแม่แล้ว นำพ่อแม่มาใส่ไว้ในตู้กระจก โดยให้อากาศตลอดเวลา ปล่อยในอัตราเพศผู้ต่อเพศเมียเท่ากับ 1:2 ซึ่งเป็นอัตราที่ให้ผลผลิตลูกปลาจำนวนมากกว่าในอัตราอื่น ๆ และไม่มีความแตกต่างในด้านต่าง ๆ เช่น จำนวนไข่ต่อแม่ อัตราการฟัก และ จำนวนตัวต่อแม่ ตู้กระจกที่ใช้ในการเพาะมีขนาด 40x120x45 เซนติเมตร เลี้ยงโดยให้ลูกปลามีชีวิตขนาดเล็กกินเป็นอาหาร โดยให้ 2 วันต่อครั้ง ทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำทุก 3 วัน ในปริมาณ 1 ใน 3 ส่วนของน้ำในตู้ ซึ่งน้ำที่ใช้ในการเปลี่ยนถ่ายต้องทำการพักไว้ก่อน ก่อนนำไปใช้ควรมีการตรวจวิเคราะห์คุณสมบัติของน้ำ และทำการปรับคุณสมบัติของน้ำโดยเฉพาะอุณหภูมิ และค่าความเป็นกรดเป็นด่าง ให้มีค่าใกล้เคียงกับคุณสมบัติของน้ำในตู้ การเปลี่ยนถ่ายน้ำต้องทำอย่างระมัดระวัง เนื่องจากปลาเสือพ่นน้ำเป็นปลาที่ตื่นตกใจง่าย และควรตั้งตู้เพาะไว้ในบริเวณที่ไม่มีเสียงดัง เพราะปลาเสือพ่นน้ำเป็นปลาที่ตื่นตกใจได้ง่าย ในการเพาะพันธุ์ พบว่าปลาเสือเริ่มผสมวางไข่ในช่วงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ โดยไข่เป็นประเภทไข่ลอย เมื่อแม่ปลาวางไข่ พบว่าไข่จะลอยอยู่บริเวณผิวน้ำ และกระจายเต็มตู้ ไข่มีสีขาวอมเหลืองใส ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.5-0.8 มิลลิเมตร ใช้เวลาการฟักประมาณ 14-16 ชั่วโมง ที่อุณหภูมิน้ำ 27-29 องศาเซลเซียส
การอนุบาลลูกปลา เมื่อลูกปลาฟักออกเป็นตัวในระยะ 2 วันแรก ยังไม่ต้องให้อาหารลูกปลา เนื่องจากลูกปลาใช้อาหารจากถุงอาหารสำรองที่ติดตัวตั้งแต่เกิด และควรแยกลูกปลาออกไปอนุบาลก่อนที่ลูกปลาจะเริ่มกินอาหาร อาหารลูกปลาในระยะแรกควรให้ โรติเฟอร์กินเป็นอาหารเนื่องจากลูกปลาเสือที่เกิดใหม่มีขนาดเล็ก โดยมีขนาดความกว้างของปากประมาณ 210 ไมครอน ให้อาหารวันละ 3 เวลา ในปริมาณที่มากเกินพอ ตลอดระยะเวลาการอนุบาล ไม่ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำ เพราะลูกปลาเสือมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของคุณภาพน้ำ เมื่อลูกปลามีอายุครบ 8 วัน ควรปรับเปลี่ยนอาหารเป็นพวกไรน้ำขนาดเล็ก เช่น ไรแดง อนุบาลลูกปลาจนครบ 45 วัน ลูกปลาเสือพ่นน้ำมีลักษณะเหมือนพ่อแม่พันธุ์ ลูกปลามีความยาวประมาณ 2 ซม. ซึ่งสามารถนำไปอนุบาลต่อในบ่อดิน
ที่มา เว็บไซต์กรมประมงค์
fisheries.go.th