ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการลดน้ำหนัก, ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการลดน้ำหนัก หมายถึง, ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการลดน้ำหนัก คือ, ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการลดน้ำหนัก ความหมาย, ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการลดน้ำหนัก คืออะไร
หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินความเชื่อมากมายเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร เช่น การรับประทานอาหารตอนกลางคืนจะทำให้อ้วน หรือการรับประทานโปรตีนมากๆ จะทำให้โปรตีนเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และทำให้ตัวโต ซึ่งจริงๆ แล้ว ความเชื่อเหล่านั้น ก็เป็นเพียงสิ่งที่บอกกันจากปากสู่ปาก ไม่ได้มีหลักฐานใดๆ มาสนับสนุน
- รับประทานอาหารบ่อยๆ เพื่อกระตุ้นระบบย่อยอาหาร
คุณอาจจะเคยได้ยินคำว่า การเผาผลาญอาหาร ซึ่งเราสามารถเผาผลาญได้ด้วยการรับประทานอาหารบ่อยๆ ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังไม่เคยมีหลักฐานใดๆ ที่สอดคล้องกับคำกล่าวอ้างนี้ เพราะในความเป็นจริงแล้ว พลังงานที่ใช้ในการเผาผลาญอาหารนั้นมาจากปริมาณแคลอรี่ที่ได้สัดส่วนต่ออาหารหนึ่งมื้อ ดังนั้น มันจึงไม่สำคัญว่า คุณจะรับประทานอาหาร 3 มื้อ มื้อละ 600 แคลอรี หรืออาหาร 6 มื้อ มื้อละ 300 แคลอรี เพราะคุณจะได้รับแคลอรีในปริมาณที่เท่ากัน แต่การรับประทานอาหารบ่อยๆ ไม่ได้ช่วยให้คุณเผาผลาญได้ดีกว่าการรับประทานอาหารนานๆ ครั้งแต่อย่างใด
- Raw Food ช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น
หลายๆ คนอาจจะเชื่อว่า การรับประทาน Raw Food ที่ไม่ผ่านกระบวนการปรุง (เช่น ผักสด ผลไม้สด) จะช่วยให้ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้นกว่าการรับประทานอาหารที่ผ่านการปรุง เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด หากคุณต้องการลดน้ำหนักให้ได้ผล คุณต้องรับประทานอาหารที่มีแคลอรีน้อยกว่าที่คุณเผาผลาญออกไป ลืมไปได้เลยว่าพลังงานเหล่านั้นจะมาจากไหน ไม่ว่าจะเป็นช็อกโกแลต ผลไม้ หรือถั่ว หากภายใน 24 ชั่วโมง คุณรับประทานอาหารหลักที่ให้สารอาหารและพลังงานแบบเดียวกัน แต่ต่างรูปแบบ ต่างชนิดออกไป น้ำหนักคุณก็จะไม่ขึ้นหรือลงได้เลย และจงจำไว้ว่า ยิ่งอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากเท่าไหร่ สุขภาพคุณก็ยิ่งดีขึ้นมากเท่านั้น และทำให้ร่างกายของคุณ มีประสิทธิภาพมากขึ้น คุณจะรู้สึกดี และปราศจากโรคภัยแบบเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน หรือมะเร็ง
คุณสามารถย่อยโปรตีนได้เพียง 30 กรัมต่ออาหาร 1 มื้อความเชื่อนี้ เกิดจากงานวิจัยที่ชี้เห็นว่า กล้ามเนื้อที่ใช้ในการสังเคราะห์โปรตีน มีความสามารถสูงสุดในการย่อยโปรตีนได้ประมาณ 20-30 กรัมเท่านั้น ทว่า นี่ไม่เกี่ยวข้องกันเลยกับอัตราการย่อยโปรตีนของร่างกาย หากคุณรับประทานอาหารมื้อใหญ่ ก็ย่อมใช้เวลานานกว่าในการย่อยอาหาร แต่นี่ไม่ได้หมายความว่า ร่างกายไม่มีขีดจำกัดในการย่อยโปรตีน
ในช่วงยุคปี 1980 มีความเชื่อที่ว่า ไขมันทำให้อ้วน แล้วความเชื่อนี้ก็กลายเป็นสิ่งที่เชื่อต่อๆ กันมาเรื่อยๆ จนทำให้อุตสาหกรรมสินค้าไขมันต่ำกลายเป็นที่นิยม แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไขมันไม่ได้มีแต่ข้อเสียเพียงอย่างเดียว การที่จะมีสุขภาพดีได้นั้น คุณต้องรับประทานไขมันในปริมาณที่พอเหมาะเข้าไปด้วย ซึ่งไขมันดังกล่าว มีความหมายรวมไปถึงไขมันอิ่มตัว
- การทานอาหารตอนกลางคืนทำให้อ้วน
ร่างกายของเราไม่ได้ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าคุณรับประทานอาหาร 2,000 แคลอรีในตอนเช้า หรือรับประทานอาหารแบบเดิม 2,000 แคลอรีในตอนกลางคืน ร่างกายของคุณก็จะย่อยอาหารในแบบเดียวกัน โดยมีงานวิจัยในอิสราเอลระบุว่า หากเทียบระหว่างการรับประทานอาหารเช้ามื้อใหญ่ กับรับประทานอาหารมื้อใหญ่หลังจาก 20.00 น. ไปแล้ว คนที่รับประทานอาหารตอนกลางคืนจะลดน้ำหนักได้มากกว่า อย่างไรก็ตาม สุดท้ายทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับปริมาณแคลอรี ไม่ใช่เวลาที่คุณรับประทานอาหารเข้าไป
- ห้ามรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตในตอนกลางคืน
จงจำไว้ว่า ไม่มีอะไรที่จะทำให้คุณอ้วนได้ หากคุณไม่ได้รับประทานอาหารที่มีจำนวนแคลอรีมากเกินความจำเป็น ตอนนี้มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่า การรับประทานอาหารที่พอเหมาะในตอนกลางคืน รวมไปถึงอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนประกอบ จะทำให้คุณลดน้ำหนักได้ดีขึ้น เนื่องจากจะเป็นการกระตุ้นฮอร์โมนที่ช่วยลดน้ำหนักได้
- อาหารที่รับประทานไม่เกี่ยวกับปริมาณแคลอรี
อาหารหลายประเภท มักจะยกเอาสารอาหารแบบใดแบบหนึ่งขึ้นมาเป็นจุดขาย แล้วโฆษณาว่าสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ เช่น อาหารไขมันต่ำ หรือมีคาร์โบไฮเดรตน้อย แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาหารบางชนิดที่โฆษณา กลับมีปริมาณแคลอรีสูงกว่าอาหารทั่วไปซะอีก หากประเภทของอาหารมีความสำคัญ ปริมาณแคลอรีก็มีความสำคัญเช่นกัน ดังนั้น จงอย่าได้หลงเชื่อคำโฆษณาเกินจริงเป็นอันขาด แต่ให้ดูที่ปริมาณแคลอรีของอาหารนั้นๆ แทน
- การรับประทานคาร์โบไฮเดรตเป็นสิ่งไม่ดี
ตอนนี้ ผู้คนไม่ได้คิดเพียงแค่ว่า การรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตในตอนกลางคืนเป็นสิ่งไม่ดีเท่านั้น แต่ยังคิดอีกว่า อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตมีแต่ข้อเสีย ไม่ว่าจะรับประทานตอนไหน แต่จริงๆ แล้ว คาร์โบไฮเดรตสามารถช่วยคุณลดน้ำหนัก เสริมสร้างกล้ามเนื้อ และช่วยให้คุณหลับสบายในตอนกลางคืน หากจะมีปัญหาอะไรเกี่ยวกับคาร์โบไฮเดรตอยู่บ้าง ก็คงเป็นว่า คาร์โบไฮเดรตเป็นแหล่งกำเนิดน้ำตาล ซึ่งมีบทบาททำให้เรากินอาหารมากเกินความจำเป็น และเพิ่มน้ำหนักได้
- น้ำอัดลมแบบไม่มีน้ำตาลทำให้อ้วน
โดยปกติแล้ว มีความเชื่อกันว่า การดื่มน้ำอัดลมแบบไม่มีน้ำตาล จะทำให้ร่างกายของคุณคิดว่า คุณได้รับประทานของหวานเข้าไป จากนั้น มันจะไปเป็นตัวกระตุ้นการทำงานของร่างกายให้คุณรับประทานของหวานเพิ่มมากขึ้น และนั่นจะทำให้คุณสะสมไขมันเอาไว้ อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ความเชื่อที่เป็นจริงแต่อย่างใด เพราะยังไม่มีงานวิจัยใดๆ ที่ออกมาสนับสนุนความคิดนี้
- การเลือกรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ มีประโยชน์ช่วยให้ลดน้ำหนักได้
ค่าดัชนี GI หรือ ค่าดัชนีวัดคุณภาพของอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตนั้น สมควรเป็นตัววัดว่า อาหารมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดอย่างไร และนั่นจะเกี่ยวข้องกันกับความสามารถในการผลิตอินซูลินและสะสมน้ำตาลกลูโคสในรูปแบบของไขมัน แต่อันที่จริง มันไม่ใช่อย่างนั้น เพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อระดับของอินซูลิน อาทิเช่น ไขมัน โปรตีน และไฟเบอร์ในอาหาร ดังนั้น หากต้องการที่จะลดน้ำหนัก สิ่งที่ควรจะมองก็คือระดับปริมาณแคลลอรี ระดับสารอาหาร และขั้นตอนวิธีการปรุงอาหาร
อาหารชนิดใดๆ ไม่ว่าจะมีคุณค่าทางสารอาหารมากหรือน้อย ก็ไม่ได้หมายความว่าอาหารชนิดนั้นจะทำให้คุณอ้วนเสมอไป ความเชื่อที่ว่า ขนมปังขัดขาวนั้นแย่กว่าขนมปังธัญพืช เนื่องจากขนมปังขัดขาวจะทำให้คุณอ้วน แต่ขนมปังธัญพืชมีประโยชน์กว่าเพราะอุดมไปด้วยไฟเบอร์ ล้วนแล้วเเต่เป็นความเชื่อที่ผิด อาหารชนิดใดๆ ก็แล้วเเต่ หากรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ เเละมีสารอาหารประเภท โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายแล้วล่ะก็ อาหารชนิดนั้นก็เป็นอาหารสุขภาพได้เช่นเดียวกัน
- รับประทานแต่ผัก ดีต่อสุขภาพ
ตอนนี้ มีกระแสการรับประทานอาหารแบบคนยุคหิน ซึ่งมักเลือกทานพืชนานาชนิด และมีเนื้อสัตว์อยู่เป็นจำนวนน้อย อันที่จริงแล้ว ไม่มีอะไรเสียหายกับการรับประทานอาหารแบบนั้น และหลายๆ คนก็ประสบความสำเร็จด้วยวิธีการรับประทานแบบนี้ แต่นี่ไม่ได้หมายความว่า การรับประทานอาหารแบบคนยุคหินจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด การรับประทานอาหารแบบนี้เป็นเพียงการกันไม่ให้คนรับประทานอาหารแบบตามใจปาก ซึ่งในระยะยาว การรับประทานแต่ผักจำนวนมากๆ อาจทำให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพได้ ดังนั้น วิธีการที่ดีที่สุดคือ การหาวิธีลดน้ำหนักที่เข้ากับวิถีชีวิตของตัวเอง
การทานอาหารเสริมเพื่อช่วยลดความอ้วน เป็นการเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ และอาหารเสริมเหล่านี้ส่วนมากจะช่วยลดน้ำหนักได้เพียงเล็กน้อย ในความเป็นจริงแล้ว มีกลุ่มคนเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่สามารถลดน้ำหนักจากการรับประทานอาหารเสริม และอาหารเสริมเเทบไม่มีผลใดๆ กับคนที่มีน้ำหนักมากผิดปกติ หรือเข้ามามีบทบาทสำคัญในการลดน้ำหนัก ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดและเป็นทางเดียวที่คุณจะเห็นหุ่นเพรียวคือ การใส่ใจกับการกิน และการออกกำลังกาย
- อาหารที่ทำจากนมจะทำให้คุณอ้วน
ไม่มีอะไรที่เสียหายหากจะรับประทานนมหรือชีส นอกเสียจากว่าคุณจะแพ้ เพราะในความเป็นจริงแล้ว การวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทนเนสซี่ ระบุว่า อาหารที่ทำจากนมจะช่วยให้คุณสามารถลดไขมันหน้าท้องได้เมื่อคุณกำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก เพียงแค่คุณต้องรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ เนื่องจากนมและชีสมีแคลอรีสูง
เมื่อคุณอ่านสลากเกี่ยวกับคุณค่าสารอาหารที่แปะอยู่ข้างกล่องโปรตีนผงแล้ว คุณอาจจะแปลกใจว่า โปรตีนผง 1 กล่องให้พลังงานเพียง 100 แคลอรีเท่านั้น และไม่สำคัญว่าโปรตีนนั้นจะทรงประสิทธิภาพมากเท่าไหร่ ก็คงไม่มีใครที่ตัวใหญ่ขึ้นเพราะพลังงานเพียง 100 แคลอรีหรอก ดังนั้นอย่าสับสนระหว่างโปรตีนผงและอาหารเสริมเพิ่มน้ำหนักล่ะ เพราะเป็นคนละอย่างกัน
ในขณะที่โปรตีนผงดีต่อทุกคน แต่โปรตีนแท่งกลับตรงกันข้าม เนื่องจากโปรตีนแท่งส่วนใหญ่ ประกอบไปด้วยน้ำตาลมากกว่าขนมหวานเสียอีก และแม้ว่าโปรตีนแท่งจะใส่โปรตีนเข้าไปเพื่อให้มีประโยชน์ แต่ส่วนใหญ่ก็จะเพิ่มปริมาณโปรตีนโดยการใส่ผงเจลาตินเข้าไป และแน่นอนว่า ผงเจลาตินนั้น ไม่ได้มีคุณประโยชน์ใดๆ เลย
- กินเค็มให้น้อยลง ส่งเสริมหัวใจให้ทำงานดีขึ้น
ปกติ คุณต้องใส่เกลือลงไปในมื้ออาหารด้วย เพื่อจะช่วยในเรื่องความดันเลือดไม่ให้ต่ำเกินไป แม้หลายๆ คนจะรับประทานเกลือมากเกินไป และมีเรื่องราวเกี่ยวกับผลเสียของเกลืออกมามากมาย แต่ผู้คนก็มักจะกล่าวเกินจริงเกี่ยวผลเสียของเกลือเสมอ ผู้คนเพียงกลุ่มเดียวที่มีความเสี่ยงในเรื่องกินเค็มคือคนที่เป็นโรคความดันสูง ส่วนที่เหลือนั้นสามารถรับประทานอาหารโดยมีเกลือผสมเข้าไปได้ แต่หากอยากจะหลีกเลี่ยงแล้วล่ะก็ ยังมีอีกหลายวิธีที่จะทดแทนโซเดียมในมื้ออาหาร เช่น การใส่โพแทสเซียมลงไป
- คุณต้องทานอาหารเข้าไปทันที หลังจากออกกำลังกายเสร็จ
มีงานวิจัยที่ชี้ว่า การสังเคราะห์โปรตีน จะเกิดขึ้น 1-3 ชั่วโมง หลังจากการออกกำลังกาย ดังนั้น จึงมีคำพูดที่ว่า ให้รับประทานอาหารทันทีหลังจากที่ออกกำลังกายเสร็จ ทั้งนี้ งานวิจัยส่วนมากจะวิจัยในคนที่ไม่ได้รับประทานอะไรเลยก่อนออกกำลังกาย หากคุณรับประทานอาหารที่ทีโปรตีนก่อนออกกำลังกาย คุณก็ยังคงมีกรดอะมิโนหลงเหลืออยู่ หมายความว่า การรับประทานอาหารหลังจากที่ออกกำลังกายเสร็จ ก็มีความสำคัญน้อยลงไป
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่จริงแต่อย่างใด เพราะไม่มีงานวิจัยใดๆ ชี้ชัดออกมาว่า โปรตีนเป็นอันตรายต่อตับ แน่นอนว่า การรับประทานโปรตีนจะไปเสริมสร้างเลือดในตับ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า โปรตีนจะทำให้ตับทำงานหนักกว่าปกติ ในความเป็นจริงแล้ว การศึกษาระบุว่า การรับประทานโปรตีนมากกว่า 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 ปอนด์ ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตราย หรือรบกวนการทำงานปกติของร่างกายแต่อย่างใด
แหล่งที่มา :
https://carebest.blogspot.com/2012/05/blog-post_8488.html
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!
