เพราะความร้อนยังปกคลุมไปทั่วประเทศ พี่น้องชาวไทยจึงได้รับไอแดดแผดเผากันถ้วนหน้า มีบางวันที่ฟ้าฝนประพรมให้คลายร้อน แต่ก็มาพร้อมลมกระโชกแรง พัดเอาหลังคาบ้านปลิวว่อนด้วยพลังพายุฤดูร้อน หลังฝนเพียงชั่วครู่พอพื้นดินหายเปียก ความร้อนวิ่งปู๊ดมาห่อหุ้มร่างกายทันที เหงื่อไคลไหลย้อยเป็นที่หมักหมม และเกิดผดผื่นคันได้ง่าย
คุณสุภาพสตรีได้เปรียบกว่าบุรุษเพศ ชุดฤดูร้อนสามารถหันมาสวมใส่กระโปรงแทนกางเกงฟิต จึงช่วยให้การระบายความร้อนดีขึ้น ลดอาการอบอ้าวในร่มผ้าซึ่งลดอาการคันต่างๆ ไปได้บ้าง แต่เพื่อนสตรีหลายรายก็บ่นอู้ว่า อากาศร้อนสุดๆ นี้ถึงแม้ใส่กระโปรงแล้ว แต่ร่างกายส่วนบนที่ต้องสวมอาภรณ์ที่เรียกกันว่า "ยกทรง" นั้น พอความร้อนแทรกซึม เนื้อตัวก็เหนียวเหนอะ บรรดายางยืดและรอยตะเข็บในการตัดเย็บนั้น ได้สร้างพื้นที่ให้คันและเกิดผื่นได้ง่ายๆ
เด็กๆ ก็ประสบกับอาการคันไม่แพ้ผู้ใหญ่ ดูเหมือนจะเป็นกันง่ายกว่าด้วยซ้ำ เพราะมัวแต่เล่นยังไม่รู้จักดูแลตนเอง ทั้งหน้าผาก ซอกคอ แผ่นหลังจึงเป็นสมรภูมิของมือน้อยๆ สู้กับอาการคัน ยิ่งเกายิ่งคันยิ่งเพิ่มความแสบร้อนและผื่นคันง่าย เด็กที่เกิดผดผื่นคันดูแล้วทนทุกข์ทรมานยิ่งกว่าผู้ใหญ่ เพราะการหักห้ามใจหรือฝืนทนไม่ได้เท่าผู้ใหญ่ จึงทำให้อาการคันลุกลามเพราะเกาๆ จนเกิดแผลได้
สมุนไพรใกล้ตัวที่ปัจจุบันพัฒนาขึ้นเทียบชั้นยาฝรั่งแล้ว คือ คาลาไมน์เสลดพังพอนตัวเมีย หรือเรียกง่ายๆ ว่า แป้งน้ำเสลดพังพอนตัวเมีย ยาชนิดนี้ถือว่าสะดวกสุดในชีวิตสมัยใหม่ มีสรรพคุณที่สืบทอดมาจากอดีตและผ่านการศึกษาวิจัยรับรองในโลกเภสัชวิทยา ขณะนี้ยอมรับให้อยู่ในรายการบัญชียาหลักแห่งชาติในยาสมุนไพรด้วย
ใครที่กำลังคันและมีผดผื่นคันให้หาซื้อยาคาลาไมน์เสลดพังพอนตัวเมียมารีบทาทันที
เสลดพังพอนตัวเมีย (Clinacanthus nutans (Burm.f.) Lindau) หรือเรียกว่า พญายอ เป็นไม้พุ่มแกมเลื้อยสูงได้ 1-3 เมตร ลำต้นและกิ่งก้านสีเขียว ใบรูปรีแคบ ดอกเป็นช่อ ออกเป็นกระจุกที่ปลายกิ่ง กลีบดอกสีแดงส้มพญายอต้นนี้พบได้ทั่วไปในป่า และมีการปลูกไว้ตามที่พักอาศัยทั่วไป ถ้าใครจะปลูกไว้ให้เลือกทำเลที่ถูกแดดปานกลาง แล้วหมั่นบำรุงดินจะงามนำมาใช้ทำยาได้ทั้งปี
ถ้าหาซื้อยาสำเร็จรูปคาลาไมน์ไม่ได้ ให้ทำเองใช้มีสรรพคุณดีเช่นกัน ง่ายที่สุดให้เก็บใบมา 1 กำมือ ล้างน้ำ นำมาตำให้ละเอียด เอาน้ำยาทาที่คันและเป็นผื่นได้เลย ถ้าจะแปลงกายให้เป็นแป้งน้ำ ให้นำดินสอพองสะอาดมาบดเป็นผง แล้วนำผงดินสอพองผสมกับน้ำยาเสลดพังพอนกะปริมาณให้ตัวยาไม่เหลวหรือข้นไป ให้พอที่จะเป็นแป้งน้ำ ใช้ทาบริเวณที่เป็นผื่นคันนั้นเลย
สรรพคุณตามตำรายาไทยใช้ใบเสลดพังพอน แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย และแก้เริม งูสวัด โดยนำใบมาขยี้เอาน้ำทาที่แผล ในการศึกษาทางวิทยาศาสตร์พบว่า น้ำคั้นจากใบเสลดพังพอนตัวเมียสามารถลดการอักเสบที่ผิวหนังได้ ซึ่งฤทธิ์เช่นนี้จึงช่วยลดอาการแสบคันได้นั่นเองและเมื่อผสมกับแป้งดินสอพอง ซึ่งเป็นเภสัชวัตถุอย่างหนึ่ง มีสรรพคุณเป็นยากำจัดเชื้ออ่อนๆ และมีคุณสมบัติเย็น จึงเสริมฤทธิ์ให้แป้งน้ำเสลดพังพอนสยบอาการคันในหน้าร้อนแบบนี้ดีนัก
การศึกษายังพบว่าเสลดพังพอนมีฤทธิ์ในการต้านเชื้อไวรัส ซึ่งเป็นสาเหตุของเริมและงูสวัดได้ด้วย ซึ่งตรงกับการใช้ของบรรพชน ภูมิปัญญาโบราณนี้ได้รับการพัฒนาเป็นยาสำเร็จรูปครีมพญายอใช้แก้เริมและงูสวัด และยังพัฒนาเป็นรูปแบบยาน้ำใช้กับอาการแผลในปากได้ด้วย ท่านใดที่อากาศร้อน และเกิดอาการร้อนในมีแผลในปาก ให้นำใบเสลดพังพอนตัวเมียมาล้างน้ำแล้วเคี้ยวกินให้ตัวยาไปทาที่แผลในปาก ช่วยรักษาแผลและลดการอักเสบที่ทรมานในช่องปากได้ดี
ใบเสลดพังพอนตัวเมียกินได้ บางท้องถิ่นของภาคเหนือมีการนำใบสดมากินเป็นผักพร้อมอาหารด้วย
แต่ท่านที่หาพญายอไม่ได้ รอบบ้านมีต้นสะเดาและเหง้าขมิ้นเหลืองไปเก็บและขุดมา หรือไปตลาดซื้อมาทั้ง 2 อย่างเลยก็ได้ นำมาอย่างละเท่าๆ กัน ล้างน้ำแล้วใส่ครกตำผสมให้เข้ากัน สูตรยานี้ถือว่าสุดยอดสู้กับอาการผดผื่นคัน เป็นการรวมพลังยาแก้โรคผิวหนัง 2 ชนิดในครกเดียวกัน ลองมาแล้วหลายรายบรรเทาอาการคันได้ดี ยกเว้นรายใดที่มีอาการคันพิเศษที่ต้องพบแพทย์เท่านั้น ถ้าท่านใดยังหาพืชสมุนไพรทั้ง 3 ชนิดนี้ไม่ได้เลย แนะนำสิ่งที่ง่ายสุดอีก 2 สูตร เพราะยามร้อนตับแทบแตกและคันแบบสุดๆ นั้น ให้หาน้ำแข็งมาสัก 1 ก้อน ทาบและทาไปทั่วบริเวณที่คันและแสบ ไอเย็นของน้ำแข็งช่วยลดการอักเสบได้อย่างฉับพลัน เป็นการทุเลาอาการได้
สูตรที่ 2 แบบยาใกล้ตัว เข้าครัวเอาข้าวสุกมาสัก 2-3 ช้อน นำมาบดเอาน้ำข้าวทา หรืออยู่ในที่ๆ พอกได้ให้พอกไว้ ช่วยบรรเทาผดผื่นคันและอาการแสบร้อนที่ผิวหนังได้ แถมท้ายทำแป้งแก้คัน ให้บดดินสอพอง (ที่ทำความสะอาดดีแล้ว) ใช้ 3 ส่วน ผสมพิมเสนบดอีก 1 ส่วน ได้ผงแป้งไว้ทาแก้ผดผื่นคัน ที่ทำได้เองแบ่งให้เพื่อนใช้สู้กับโรคคันในคิมหันต์นี้ด้วย
แหล่งที่มา : https://www.thaihealth.or.th/healthcontent/article/28163