เพราะเราเผชิญกับฤดูกาลที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเป็นประจำมาตั้งแต่เกิด ระบบร่างกายของเราจึงมีความสามารถพิเศษ ในการปรับตัวให้เข้ากับอุณหภูมิและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปได้เป็นอย่างดี ยกเว้นคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน หรือการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลไม่ได้เป็นไปตามธรรมชาติ แต่เกิดขึ้นเพราะฝีมือมนุษย์ ก็ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถปรับได้ทัน และอาจเกิดปัญหาต่างๆ ตามมา ดังกรณีตัวอย่างต่อไปนี้
ฤดูร้อน ฤดูแล้ง มลพิษแห่งการหายใจ ถ้าคุณคิดว่า หน้าร้อน คือฤดูที่หายใจโล่งที่สุด เพราะไม่ต้องเผชิญกับความชื้น ไม่ต้องเสี่ยงเป็นหวัดเพราะอากาศที่เย็นจัด ขอบอกว่าคุณกำลังคิดผิด แม้ว่าในฤดูร้อนจะไม่มีศัตรูตัวฉกาจอย่างความชื้นและความเย็น แต่ทว่าสิ่งที่กลัวกว่าคือ ศัตรูที่มาพร้อมกับความแห้งแล้ง นั่นคือ ฝุ่นผง ทั้งที่สามารถมองได้เห็นด้วยตาเปล่าและฝุ่นผงขนาดเล็กซึ่งมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 10 ไมครอนลงมา จัดเป็นฝุ่นละอองที่เป็นมลพิษ ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุ อาทิ ฝุ่นควันรถยนต์ เครื่องจักร โรงงาน หรือการเผาไหม้ของขยะและไฟป่า
ปัญหาดังกล่าวจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นในพื้นที่ที่อากาศไม่มีการถ่ายเท ลมสงบนิ่ง หรือเป็นชุมชนแออัดที่ขาดการจัดการเรื่องมลพิษทางอากาศ หากคุณจำเป็นต้องอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว จึงควรรู้จักป้องกันก่อนป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจในหน้าร้อน
- ใส่หน้ากากอนามัยเพื่อช่วยลดการหายใจเอาฝุ่นควันพิษเข้าไป หากฝุ่นควันมีมากให้ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ปิดปาก ปิดจมูก
- งดออกกำลังกายในที่โล่ง เพื่อป้องกันไม่ให้สูดเอาฝุ่นควันเข้าร่างกาย
- งดเผาขยะ เพื่อลดจำนวนฝุ่นควันที่จะเพิ่มขึ้นในละแวกบ้าน
เพราะฤดูฝนคือฤดูที่มาพร้อมกับความร้อน และความชื้น จึงเป็นฤดูที่ไม่สามารถเอาแน่เอานอนได้ว่าอากาศจะร้อนมากแค่ไหน หรือเย็นและชื้นเพราะฝนที่ตกลงมามากเท่าไร สิ่งเหล่านี้คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้ร่างกายปรับตัวรับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ไม่ทัน ไข้หวัดใหญ่เป็นอีกหนึ่งศัตรูตัวร้ายที่พบมากในฤดูฝน เนื่องจาก ไข้หวัดใหญ่ส่วนมากเกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งมักไม่ทนต่อความร้อนในฤดูร้อน แต่เมื่ออากาศเย็นลงเชื้อจะทนทานมากขึ้น แพร่กระจายง่ายขึ้น เมื่อเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนในเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม จะพบว่ามีผู้ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจหลายชนิด แบ่งเป็น โรคระบบทางเดินหายใจส่วนบน คือ โรคหวัด และโรคระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง คือ โรคหลอดลมอักเสบและปอดอักเสบ
วิธีการที่จะทำให้คุณและระบบทางเดินหายใจของคุณปลอดภัยจากโรคร้ายดังกล่าว สามารถทำได้เพียงง่ายๆ แต่รับรองว่าปลอดภัยแน่นอน คือ
- ล้างมือทุกครั้งก่อนทานอาหาร ไม่ควรเอามือเข้าปาก จับจมูกหรือจับตา เพราะอาจสัมผัสโดนน้ำมูกหรือน้ำลายของผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง หรือจับสิ่งของที่มีเชื้อโรคเกาะอยู่
- พักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผักผลไม้ที่มีวิตามินซีช่วยป้องกันหวัดได้ นอนหลับให้เพียงพอ และออกกำลังกายเป็นประจำ
- หลีกเลี่ยงไปในที่ที่มีคนแออัด
- เปิดหน้าต่างภายในบริเวณบ้านให้แสงแดดช่วยกำจัดเชื้อไวรัสที่กระจายออยู่ในอากาศ หรือหากเป็นบริเวณที่ไม่มีอากาศถ่ายเท อาจใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีระบบกำจัดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ช่วยลดโอกาสแพร่เชื้อได้ส่วนหนึ่ง
ลองมาดูกันสิว่า เราควรจะปรับระบบการหายใจอย่างไร เพื่อให้ฤดูหนาวเย็นสบายและมีสุขภาพดีตลอดฤดู
- คนที่เป็นภูมิแพ้ง่ายหรือเป็นโรคหอบหืด ความเย็นของฤดูหนาวคือตัวการสำคัญที่กระตุ้นให้โรคกำเริบ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีอากาศเย็นจัดและควรใส่เสื้อผ้าให้อบอุ่นตลอดเวลา
- คนส่วนหนึ่งเลือกผิงไฟเพื่อบรรเทาอาการหนาว แต่รู้หรือไม่ว่าควันไฟและขี้เถ้าจะกระตุ้นให้อาการ
- หอบหืดกำเริบ และทำให้ภูมิต้านทานของระบบทางเดินหายใจลดลงอีกด้วย
- ไม่ควรดื่มสุราแก้หนาวแต่ควรสวมใส่เสื้อผ้าและจิบน้ำอุ่นเพื่อเพิ่มอุณหภูมิให้ร่างกาย
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีอากาศเย็นจัด โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศที่อยู่ในออฟฟิศที่ติดเครื่อง
- ปรับอากาศ ประตูหน้าต่างปิดมิดชิด ไม่มีอากาศถ่ายเท
- ให้ความสำคัญกับการล้างมือเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อ
- ถ้าคุณป่วย ควรใส่หน้ากากป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไปสู่คนอื่น