ด้วยโครงการจัดสรรอันยิ่งใหญ่ของ คุณนาย ลัดดา พันธาภา นักธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งสามีของท่านคือพล.ต ประดิษฐ์ พันธาภา และเป็นเจ้าของกิจการ ?โรงหนังเวียงพิงค์? การเล็งเห็นศักยภาพของที่ดินรกร้างผืนใหญ่อยู่ใกล้ดอยสุเทพ พื้นที่ผืนนี้จึง ถูกพัฒนาให้เป็น อุทยานการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ แล้วพัฒนามาเป็นที่พักหรือบ้านในรูปแบบของรีสอร์ทในรูปแบบล้านนาในแบบเมือง เหนือ ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ซึ่งในยุคนั้นยังไม่มีสถานที่ใดโดดเด่นเท่า
ตามคนเก่าคนแก่ก่อนได้เล่าว่า ?..
เมืองเชียงใหม่?เมื่อก่อนย้อนไปน่าจะซัก 40 กว่าปีได้
ลัดดาแลนด์ เป็นสวนดอกไม้เมืองหนาวที่โด่งดังมากเพราะมีสวนกล้วยไม้ที่ใหญ่ มากๆ?แล้วโครงการขนาดใหญ่ที่ครองใจผู้คนในยุคนั้นก็เกิดขึ้น ด้วยการจัดศูนย์แสดง-สาธิต ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ทั้งพิพิธภัณฑ์ชาวเขา การทำเครื่องเขิน การแกะสลักไม้ การทอผ้าไหม การแสดงฟ้อนรำต่างๆ ภายใต้การควบคุมของคณะ วัดเจ้าพ่อเม็งราย อันโด่งดังในยุคนั้น มีทั้งช้างให้นั่ง มีรถม้า มีรถไฟเล็ก การแสดงฟ้อนรำต่างๆ ทำให้หน้าหนาวทุกปีจะมีคนขึ้นมาเที่ยวเยอะมาก รวมไปถึง การมัดใจเด็กๆ และครอบครัว ด้วยการให้บริการช้าง ม้า และรถไฟเล็กให้นั่ง ด้วยค่าบริการประมาณ 8 หรือ 10 บาท มี ?น้ำมะเกี๋ยง? (น้ำลูกหว้า) เป็นที่แรกและเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่แห่งนี้ รวมทั้งมีการเปิดเพลงของคณะ ดิอิมพอสสิเบิ้ล ซึ่งโด่งดังในขณะนั้นเกือบตลอดทั้งวัน??
เป็นสถานที่ยอดฮิตของวัยรุ่นสมัยนั้นจะไปออกเดทกันเพราะมีความเชื่อว่า
- คู่ไหนไปอธิฐานขอความรักกับต้นไทรหน้าลัดดาแลนด์แล้วคู่นั้นจะได้รักกันไปตลอดชีวิต
- ส่วนประชากรในหมู่บ้านทั้งหมดนั้น ล้วนเป็นคนที่มีฐานะดีเข้าไปอยู่ จึงอาจเรียกได้ว่าเป็นหมู่บ้านเศรษฐีก็ได้
- ตอนเริ่มสร้างก็มีคนงานที่ก่อสร้างฆ่ากันตายแล้วหมกศพ แล้วก็มีการปิดข่าวกันในช่วงนั้นอย่างเงียบๆ โดยเรื่องมาแตกเอาในภายหลังจากนั้น
- ช่วงที่มีการเปิดบริการมีหญิงสาวผมยาวคนนึงโดดน้ำตายในบึงกลางน้ำ วันดีคืนดีมักจะมีคนโผล่ขึ้นมาจากน้ำมาจับขา
- ตอนที่บ้านหลังหนึ่งถูกโจรขึ้นและโดนคนร้ายฆาตกรรมเสียชีวิตทั้งครอบครัว แล้ว เรื่องสยองขวัญสั่นประสาทก็เริ่มขึ้นจากตรงนี้เพราะคนที่อยู่ใกล้ๆ กับบ้านหลังนั้น บางคืนก็ได้ยินเสียงคนร้องไห้บ้าง อะไรบ้าง บางคืนก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ หรือบางครั้งก็ได้ยิน เสียงหัวเราะ
- แต่จุดที่ผู้คนแถบนั้นเจอความเฮี้ยนกันจนอยู่ไม่ได้คือ บางคืนคนแถวนั้นจะเห็นครอบครัว ที่เสียชีวิตไปแล้วออกมายืนหน้าบ้าน ออกมารดน้ำต้นไม้ คนที่ผ่านไปมาโดนหลอกทุกคน ทำให้ตอนเที่ยงคืนจนถึงเช้าไม่มีใครจะกล้าออกจากบ้านเลย
- นานวันเข้ายิ่งเฮี้ยนหนักจนถึงขั้นตามมาหลอกถึงบ้าน คนแถวนั้นอยู่ไม่ไหวเลยพากันย้ายออกไปเกือบหมด ทำให้แถวนั้นกลายเป็นบ้านร้างเยอะ แต่ยังมีบ้านอีก 3 หลังที่ยังไม่ไปไหน และ 1 ใน 3 หลังนั้นเจ้าของเป็นฝรั่งไม่ค่อยได้อยู่ แต่จะบินมาเที่ยวเฉพาะฤดูหนาว เพราะอย่างที่รู้กันว่าเมืองเชียงใหม่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อมาก
- เจ้าของบ้านที่เป็นฝรั่งท่านนั้นได้จ้างเด็กสาวชาวพม่ามาเฝ้าบ้าน แต่ผ่านไปไม่ นานก็มีโจรมาขึ้นบ้านหลังนั้น และฆ่าเด็กสาวคนนั้น แล้วหมกศพไว้ในห้องเก็บของใต้บันไดกว่าเจ้าหน้าที่ ตำรวจจะมาพบก็ผ่านไปเกือบ 2 เดือน
- สาเหตุที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาพบได้ก็คือ บ้านที่ยังเหลืออยู่ใกล้ๆ กัน ได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากในบ้าน แต่ก็ไม่ได้สงสัยเพราะยังคงเห็นเด็กสาว คนนี้มานั่งอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้านทุกวัน จนวันหนึ่งเพื่อนบ้านดังกล่าวทนกลิ่นเหม็นเน่าที่โชยคละคลุ้งไม่ ไหว จึงได้ตะโกนบอกเด็กสาวคนนั้นว่าให้ทำความสะอาดบ้านบ้าง อะไรบ้าง เพราะอาจจะมีหนูตาย พูดยังไม่ทันจบ เด็กสาวก็หันหน้าเละๆ มา เพื่อนบ้านก็เลยรีบวิ่งแจ้นไปแจ้งความและแจ้งให้เจ้าของบ้านทราบ พอเจ้า หน้าที่ตำรวจมาเปิดบ้านเพื่อทำการตรวจสอบจึงพบศพดังกล่าว
- มีคู่รักคู่หนึ่งที่รักกันมากและมาอธิฐานขอให้ความรักสมหวังกับต้นไทรที่ลัด ดาแลนด์ แต่แล้วพ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่ยอมรับฝ่ายชาย ทั้งสองจึงมาแขวนคอตายคู่กันที่ใต้ต้นไทรนั้น คนแถวนั้นเล่ากันว่า ทุกวันครบรอบวันที่ทั้งคู่ผูกคอตายเวียนมาบรรจบ คือตอนสามทุ่มสมาสิบสามนาที คนแถวนั้นส่วนใหญ่มักจะเห็นทั้งคู่ห้อยหัวโตงเตงพร้อมกับส่งยิ้มมาให้คนที่ ผ่านไปมาตามใต้ต้นไม้ในนั้น
- ช่วงก่อนที่จะสร้างสวนสาธารณะนี้เสร็จ ตอนที่ขุดหลุมเพื่อที่จะทำบ่อน้ำ ทางโครงการได้พบกับโครงกระดูกมนุษย์จำนวน หนึ่ง แต่ไม่เปิดเผยให้บุคคลทั่วไปได้ทราบกัน ซึ่งมาพบในตอนหลังว่าเป็นเจ้าของที่เก่า อยู่ห่างจากบ้านคุณนายลัดดาเพียง 100 เมตร ฝั่งตะวันออก
- เมื่อ 20 กว่าปีก่อนสถานที่แถวนั้นเป็นที่รกร้างและเปลี่ยวมาก จึงมีการนำศพคนตายที่ ถูกปล้นหรือถูกฆ่าข่มขืนมาทิ้งไว้ที่นั้น ที่พอทราบมา ณ ขณะนี้ จากรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจคือ อย่างน้อยๆ ก็ 8 ศพ แต่ที่ไม่รู้อีกน่าจะเยอะมาก
- มีหญิงสาวและหญิงขายบริการหลายคนที่ทำแท้ง แล้วนำซากเด็กทารกไปทิ้งไว้ในสระ น้ำของโครงการลัดดาแลนด์เป็นจำนวนมากเพราะสถานที่แห่งนี้ไม่มีคนพลุกพล่าน มาก หลายคนบอกว่ามากกว่า 300 เลยทีเดียว บางครั้งมีการค้นพบว่าเอาฝังไว้ใต้ต้นไม้ในนั้น แล้วทำพิธีผูกวิญญานเด็กไว้ไม่ให้เกิด
- มีขี้ยาคนหนึ่งที่อัพยาเกินขนาดแล้วเกิดช็อคตายคาศาลาที่ริมสระน้ำของ โครงการ กว่าจะมีคนมาพบ ศพก็เน่าหมดแล้ว แต่บางแหล่งข่าวเล่าว่า ที่ช็อคเพราะหัวใจวายเนื่องจากเห็นบางอย่างที่หน้า สะพรึงกลัวมากๆ (หน้าของศพดวงตาเบิกโพลง และลิ้นจุกปาก) และสุดท้ายก็โดนเอาไปเป็นตัวตายตัวแทน เพราะกัญชายังเหลือ อยู่ข้างๆ ศพอีกเยอะเลย มีคนพบคนไม่มีหัวนั่งเอาเท้าแกว่งน้ำเล่นตรงบริเวณนั้น
- มีการนำศาลพระภูมิรวมถึงตุ๊กตาสะเดาะเคาระห์มาทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก จนทาง เทศบาลต้องมารื้อไปทิ้งไว้นอกเมือง แต่ก็ไม่เคยทำได้สำเร็จ เพราะถึงจะย้ายไปไกลแค่ไหน วันรุ่งขึ้นตุ๊กตาและศาลเหล่านั้นก็จะกลับมา อยู่ ณ ที่เดิม โดยไม่ทราบสาเหตุ
- มีหญิงสาวที่มาขอความรักกับต้นไทรแล้วผิดหวังในความรัก เลยมาผูกคอตาย ตายใต้ต้นไทรหลังโครงการลัดดาแลนด์โดยที่ทิ้งจดหมายไว้สั้นๆ ว่า ?จะอยู่ข้างๆเธอตลอดไป? หลังจากนั้น ชาวบ้านแถบนั้นเล่าว่า วิญญาณจะสิ่งอยู่ในตุ๊กตาสัตว์ที่วางไว้อยู่มากมายในโครงการ
- อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะพบศพและได้ทำพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลทางศาสนาแล้ว แต่เด็กสาวคน นั้นก็ยังมานั่งอยู่ที่เดิมทุกวัน ถ้านั่งธรรมดาไม่มายุ่งกะชาวบ้านก็คงจะดี ไม่มีใครเดือดร้อน แต่เพื่อนบ้านแถบนั้นเล่าว่า บางคืนเด็กสาวจะตามมายืนมอง หน้าต่างห้องนอนตอนนอนกลางคืนเลยด้วยซ้ำดังนั้น เพื่อนบ้านทั้งแถบจึงพากั นย้ายออกอย่างไม่เสียดายบ้าน
แหล่งที่มา : https://www.banprak-nfe.com/webboard/index.php?PHPSESSID=f39e859c8704cdf2cb461d643547c0d7&topic=1786.0