เพชรา เชาวราษฎร์ เกิดวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2485 มีชื่อเล่น อี๊ด ชื่อจริงว่า ปัทมา ชาวราษฎร์ เกิดที่ ตำบลน้ำดอก อำเภอเมือง จังหวัดระยอง คุณพ่อมีเชื้อสายจีน และแม่เป็นคนไทย มีก๋งที่เดินทางมาจากเมืองจีน ครอบครัวเธอเป็นครอบครัวที่ทำมาค้าขายและทำสวนไร่ เธอเป็นลูกคนที่สี่ ในจำนวนเจ็ดคน พี่ๆ ต้องไปทำงาน ส่วนเธอต้องดูแลน้องๆ ภายในบ้าน
ในปี 2504 ขณะที่เธอมีอายุได้ 19 ปี และอาศัยอยู่กับพี่สาวที่ ปากตรอกขี้เถ้า ย่านมหานาค เธอถูกชักชวนให้ประกวด "เทพธิดาเมษาฮาวาย" ในปี 2504 ของกองสลากกินแบ่งรัฐบาล เธอคว้าตำแหน่งชนะเลิศ ทำให้ชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่สนใจ ขณะเดียวกัน ผู้สร้างภาพยนตร์ ศิริ ศิริจินดา และ ดอกดิน กัญญามาลย์ เห็นเข้า จากการที่ จุรี โอศิริ ได้นำภาพเธอมาให้ดู จนทำให้อยากเจอตัวจริงและติดต่อเข้าพบผ่านพี่สาว และต้องรอเป็นเวลาหลายวันก่อนที่พี่สาวเพชราจะตอบตกลง ดอกดิน ได้เปลี่ยนชื่อจาก ปัทมา ชาวราษฏร์ มาเป็น เพชรา เชาวราษฏร์ โดยอ้างว่า พระตั้งให้
ภาพยนตร์เรื่องแรกที่ เพชรา แสดง คือเรื่อง "บันทึกรัก ของพิมพ์ฉวี" ออกฉายเมื่อปี 2505 ปีเดียวกันมีภาพยนตร์เรื่อง "ดอกแก้ว" ทำให้ชื่อเสียงเธอโด่งดัง โดย "บันทึกรัก ของพิมพ์ฉวี" แสดงคู่กับพระเอกที่โด่งดังในขณะนั้นคือ มิตร ชัยบัญชา ต่อมาทั้งคู่ก็กลายเป็นคู่ขวัญที่โด่งดังมากที่สุด ในช่วงระหว่างปี 2505-2513
ในปี 2507 ภาพยนตร์เรื่อง "นกน้อย" เพชรา พลิกบทบาท จากที่เคยเล่นแต่บทหญิงสาวที่อ่อนแออาภัพ มาเป็นบทแก่นแก้วแบบทอมบอย ปี 2508 เพชรา ได้รับรางวัลตุ๊กตาทองตัวแรก (รางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี) จากเรื่อง "นกน้อย" โดยได้รับพระราชทานรางวัลจากฝีพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ปี 2508 ภาพยนตร์เรื่อง "เงินเงินเงิน" ได้ตอกย้ำของการเป็นคู่ขวัญได้รับรางวัล "คู่ขวัญดาราทอง" ของปีเดียวกัน ในช่วงปี 2513 หลังมิตร ชัยบัญชา ได้เสียชีวิตลง จากอุบัติเหตุตกเครื่องบิน เพชรา ยังคงแสดงเรื่อยมา โดยได้แสดงคู่กับ สมบัติ เมทะนี ปี 2516 เพชรา เริ่มมีปัญหาทางสายตา และต้องเข้ารับการรักษาอยู่ตลอดเวลา ในปี 2521 เพชรา ได้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกจากเรื่อง "ไอ้ขุนทอง" นำแสดงโดย สรพงศ์ ชาตรี และ ปิยะมาศ โมยะกุล หลังจากนั้น เพชรา ก็หันหลังให้วงการอย่างถาวรกระทั่งดวงตาได้ปิดสนิทลง หลังปี 2524 เพชรา ไม่ปรากฏตัวที่ไหนอีกเลย โดยมีชรินทร์ นันทนาคร คู่ชีวิตคอยให้กำลังใจเสมอมา
ล่าสุดอดีตนางเอกหมายเลข 1 ของเมืองไทย เพชรา เชาวราษฎร์ เจ้าของฉายา "นัยน์ตาหยาดน้ำผึ้ง" ได้ตัดสินใจรับงานถ่ายโฆษณาให้กับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางยี่ห้อดัง "มิสทีน" เป็นการกลับมารับงานพรีเซ็นเตอร์หลังจากไม่เคยปรากฎตัวให้ได้เห็นเลยตลอด 30 ปี ที่ผ่านมา และได้มีการยิงภาพยนตร์ชุดที-เซอร์ หรือโปรโมท ออกมาชิมลางบ้างแล้ว
ยังไม่มีการเปิดเผยค่าตัวพรีเซ็นเตอร์ คาดว่าน่าจะอยู่ที่ 7 หลัก ความสามารถในการเชื้อเชิญ เพชรา ยอมแสดงโฆษณาชิ้นนี้ซึ่งอาจเป็นการทำงานในวงการบันเทิงครั้งสุดท้ายของ เพชรา เชาวราษฎร์ คนใกล้ชิดเล่าว่า เดิมที เพชรา มีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือคนพิการทางสายตา ตั้งใจจัดตั้ง "มูลนิธิเพชรา" เพื่อช่วยเหลือคนพิการทางสายตา
มูลเหตุของการตัดสินใจรับงานโฆษณาของ มิสทีน คือต้องการนำรายได้ไปช่วยคนพิการทางสายตาของมูลนิธิคนตาบอด ขณะที่ ชรินทร์ นันทนาคร คู่ชีวิตกล่าวว่า
"อี๊ดเขาตัดสินใจเอง หลังเซ็นสัญญาแล้วถึงได้มาบอกผม ซึ่งผมก็แล้วแต่เขา ที่ผ่านมา อี๊ดก็ออกกำลังกาย ฟิตหุ่น ทำตามคอร์สที่หมอบอก โดยใช้วิธีว่ายน้ำ แต่เนื่องจากภรรยามีปัญหาทางสายตา จึงต้องขึงเชือกเอาไว้ หัวสระ ท้ายสระ และใช้วิธีว่ายตามเชือก ซึ่งค่อนข้างลำบากเหมือนกัน "คือถ้าถ่ายหนัง ถ่ายโฆษณาอี๊ดเขาโอเค เพราะว่าถ่ายซ่อมได้ แต่ถ้าเป็นรายการสด อี๊ดจะกลัวมาก จะไม่มั่นใจ อีกอย่างคือเขากลัวว่าจะเชย เพราะมีบ่นๆ ว่า ออกไปแล้ว คงจะเชยระเบิด พูดจาไม่ทันสมัย เพราะไม่ได้ไปไหนเลย ผมก็บอกไปว่า ไม่ต้องกลัว สมัยนี้มีช่างหน้า ช่างผม ทำให้พร้อม ไม่เหมือนดาราสมัยก่อน ที่ต้องทำกันเอง" ชรินทร์สรุป
สำหรับภาพยนตร์โฆษณา มิสทีน จะออกอากาศครั้งแรกในวันที่ 30 กันยายนนี้ ผ่านรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ไม่ใช่เพียงแต่ อี๊ด-เพชรา เท่านั้น ที่ร่วมเล่นในโฆษณาชิ้นนี้ แต่ยังมีดาราระดับซูเปอร์สตาร์ที่เคยเป็นพรีเซนเตอร์ของมิสทีน อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ, แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ มาร่วมในงานโฆษณาชิ้นนี้ รวมถึงมีเพลง "หยาดเพชร" ประกอบอยู่ในภาพยนตร์ชุดที-เซอร์ หรือโปรโมท
ที่มาเว็บไซต์ พลังจิตดอทคอม
ภาพจากเว็บไซต์ ชรินทร์ดอทคอม