แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต นามสกุลเดิม คือ "ปัญญศิริ" เป็นคนชาวบางปะหันจังหวัดอยุธยา โดยกำเนิดมีชื่อเล่น "ตุ๊กตา" เป็นลูกสาวคนเล็กของพี่น้องจำนวน 2 คน เติบโตมาท่ามกลางญาติพี่น้องหญิงล้วน 5 คน
เมื่ออายุได้ 15 ปี ชีวิตได้เปลี่ยนไป เมื่อสูญเสียมารดา ทำให้เธอตัดสินใจเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาเรียนต่อระดับปริญญาตรี และได้เข้าสู่วงการนางแบบ และได้เป็น “รองมิสออด๊าซ” ควบรางวัลนางงามบุคลิกภาพ เธอโลดแล่นเป็นดาวเด่นของสังคม
จนอายุล่วงเลยมาที่ 27 ปีแม่ชีศันสนีย์รุ้สึกว่า ชีวิตนี้ไม่สุขสงบ ไม่สบาย เหมือน ดังเช่นตอนที่เป็นเด็กๆ แม่ชีจึงตัดสินใจหันหน้าเข้าพึ่งพาพระพุทธศาสนา ณ วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิตร
เมื่อได้เดินบนเส้นทางธรรม ในร่มธรรมนำทางชีวิตใหม่ ในวิถีแห่งธรรมแม่ชีศันสนีย์จึงเป็นผู้หนึ่งที่มีบทบาทในการเผยแพร่ธรรมะ ให้เป็นที่พึ่งทางใจแก่ผู้คน ท่ามกลางความบีบรัดการใช้ชีวิตในสังคม ที่สลับซับซ้อนมากขึ้นทุกที
ให้ธรรมะนำหน้า แล้วแม่ก็จะเป็นตัวตนเล็กๆ เหมือนเดิม คนจะรู้จักแม่มาก ก็เพราะแม่ทำงานมาก แต่ตัวตนแม่ต้องเล็กลงนะ แล้วงานจะยิ่งใหญ่ นั่นคือเป้าหมาย และคือการอุทิศชีวิตของแม่ แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต
เกียรติประวัติ
แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต กับ รางวัลแห่งเสียงอันศักดิ์สิทธิ์
“กับรางวัลที่ได้รับ ข้าพเจ้าเชื่อเหลือเกินว่า ถ้าเราเชื่อในกฎของกรรม เชื่อในกฎของธรรมชาติ ว่าทำอะไรได้อย่างนั้น รางวัลของการทำงานจริง ๆ ก็ย่อมจะเป็นความสุขที่ได้จากการทำงาน ส่วนการได้รับรางวัลที่ผู้อื่นมอบให้ก็เป็นเหตุปัจจัยที่ควรอนุโมทนาในการทำงานอย่างมีความสุขของคนแต่ละคน เพราะฉะนั้น การให้รางวัลชีวิต ก็คือการรักษาความสุข สนุกอยู่ในงานของเรา และนั่นก็เท่ากับว่า เราได้รางวัลทุกวันอยู่แล้วรางวัล Spiritual Leadership Award ที่ข้าพเจ้าได้รับในครั้งนี้ ไม่ใช่ของผู้หนึ่งผู้ใด หากแต่เป็นของชาวพุทธทุกคน เพราะรางวัลนี้จะถูกนำไปสนับสนุนการทำงาน ‘สาวิกาสิกขาลัย’...ขอให้โลกนี้มีธรรมเป็นมารดา...ซึ่ง เป็นการศึกษาที่ใช้การทำงานเป็นฐานแห่งการภาวนา ใช้อริยมรรคมีองค์แปดเป็นหนทางที่จะทำให้เราเดินอย่างไม่หลงทาง โดยมีปัญญา ศีล และสมาธิ ประคองใจให้เราไปถึงเป้าหมาย ซึ่งก็คือการมีชีวิตที่สงบเย็น มีวิถีชีวิตประจำวันที่เดินทางไปกับคนข้างหน้าเราอย่างคนที่มีมรรคจิต มรรคภาวนา ทำให้ทั้งเราและเขาพ้นทุกข์ร่วมกัน และมีชีวิตอยู่อย่างสงบเย็นและเป็นประโยชน์
และด้วยเหตุที่วิถีชีวิตอันจะได้มาซึ่งรางวัลนี้ คือ วิถีชีวิตของชาวพุทธ หน้าที่ของชาวพุทธคือการดูแลจิตใจ ขัดเกลากิเลสในจิตใจของเรา ให้เรารู้ตื่นและเบิกบานในขณะที่ทำหน้าที่ โลกกำลังต้องการวิถีชีวิตเยี่ยงนี้ เพราะปัญหาของโลกนี้นับวันจะทวีขึ้น การเริ่มต้น ขัดเกลาตัวเองให้สามารถอยู่กับโลกนี้ได้อย่างสงบเย็นและเป็นประโยชน์... จึงเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน”
แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต
ผู้อำนวยการเสถียรธรรมสถาน
ภารกิจธรรม
ตามเกร็ดประวัติ “แม่ชี” ศันสนีย์ เท่าที่พอจะนำมาเล่าสู่กันฟังได้ว่าตลอดระยะกว่า 25 ปี กับภารกิจธรรมอันยิ่งใหญ่ ที่ทำให้แม่ชีศันสนีย์มีผลงานโดดเด่นไม่น้อย ที่รู้จักกันดี คือ การสร้าง “เสถียรธรรมสถาน” สถานที่ปฏิบัติธรรม ซึ่งแต่ละปีมีผู้สนใจเข้าฟังธรรมหลายพันคน และบ้านสายสัมพันธ์ บ้านแห่งชีวิตใหม่ของผู้หญิงที่ประสบปัญหาชีวิตท้องขณะไม่พร้อม
“เสถียรธรรมสถานเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ ที่มีธรรมะเป็นหยดน้ำ ที่ทำให้ชีวิตงอกงามได้ เมื่อใดก็ตามที่มีธรรมะ เมื่อนั้นชีวิตงอกงามได้ เหมือนเมื่อใดก็ตามที่มีหยดน้ำ ชีวิตก็ปรากฏขึ้นได้" แม่ชีศันสนีย์เคยให้สัมภาษณ์ ผ่านนิตยสาร “โพสิชั่นนิ่ง แม๊กกาซีน” ซึ่งสัมภาษณ์โดย “จิราจารีย์ ชัยมุสิก” เมื่อเดือนกรกฎาคม 2549
แม่ชียังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในฐานะตัวแทนนำเสียงผู้หญิงไปสู่เวทีโลก ในงานประชุมผู้นำสตรีทางศาสนาและจิตวิญญาณเพื่อสันติภาพโลก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อปี 2002 ทำให้ “แม่ชี” ได้เจอกับ “วิคตอเรีย โฮลท์” สื่อมวลชนชาวอังกฤษ ที่ประทับใจในคำพูดที่แฝงแง่คิด และสนใจศึกษาเรื่องราวแม่ชีอย่างจริงจัง
คุณธรรมที่ควรเอาเป็นแบบอย่าง
- เป็นผู้ที่มีความมานะอดทนไม่ย้อท้อต่อปัญหาที่เกิดขึ้นกับตนเอง
- เป็นผู้ที่มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ทั้งทางโลกและทางธรรม
- เป็นผู้ที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาและสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ดำรงสืบต่อไป
- เป็นบุคคลที่ให้อภัยแก่ผู้อื่น ไม่ถือโทษโกรธผู้ที่กระทำสิ่งไม่ดีต่อตนเอง
- เป็นบุคคลที่อยู่ในศีลธรรมอันดีงามและสามารถเสียสละผลประโยชน์ส่วนตนให้กับผู้อื่น สมควรแก่การยกย่อง
- เป็นสตรีที่สตรีทั้งหลายควรเอาเป็นแบบอย่าง
ที่มา www.pcccr.ac.th