:: ประวัติย่อ :: ตลอดระยะเวลาห้าสิบปีที่ผ่านมา ดารายอดนิยมผู้นี้มีผลงานหลากหลายทั้งในฐานะนักแสดง ผู้กำกับ ผู้อำนวยการสร้าง มือเขียนบท ศิลปิน นักเขียนและนักขี่ม้า เขาเป็นบุคคลผู้หนึ่งที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในป๊อปคัลเจอร์และเขายังสร้างชื่อในฐานะพ่อพระคนสำคัญของฮอลลีวูดอีกด้วย
แชตเนอร์เกิดในมอนทรีอัล เขาได้เริ่มสนใจการแสดงตั้งแต่อายุน้อย และเขาก็เริ่มทำงานที่บริษัทแคนาเดียน บรอดคาสติง คัมปะนี (ซีบีซี) ก่อนหน้าที่เขาจะก้าวเข้าสู่วัยรุ่นเสียอีก เขารู้สึกถูกดึงดูดเข้าหาโลกของละครเวทีและท้ายที่สุด เขาก็ได้เข้าร่วมเทศกาลสแตรทฟอร์ด เชคสเปียร์ ภายใต้การสอนของเซอร์ ไทรอน กุธรี “Tamburlaine” ซึ่งเป็นหนึ่งในละครที่จัดแสดงในเทศกาลนั้น ได้เปิดการแสดงบนเวทีบรอดเวย์ และแชตเนอร์ก็สะดุดตานักวิจารณ์นิวยอร์กทันที ขณะอยู่ที่สแตรทฟอร์ด แชตเนอร์ยังเจียดเวลาเขียนบทละครให้กับซีบีซีอีกด้วย จากนั้น เขาก็ย้ายไปนิวยอร์กและเป็นส่วนหนึ่งของตำนานยุคทองละครโทรทัศน์ ด้วยการทำงานในซีรีส์อย่าง “Playhouse 90” และ “Studio One” เขาได้เปิดตัวในแวดวงจอเงินเป็นครั้งแรกในภาพยนตร์ปี 1957 เรื่อง “The Brothers Karamazov” ตามมาด้วย “Judgment at Nuremburg” และ “The Intruder” ในช่วงเดียวกันนั้นเอง เขาได้แสดงละครบรอดเวย์เรื่อง “The World of Suzie Wong” และ “A Shot in the Dark”
หลังจากนั้น เขาก็ได้เป็นดารารับเชิญให้กับซีรีส์โทรทัศน์หลายร้อยเรื่อง รวมไปถึงซีรีส์คลาสสิกอย่าง “The Twilight Zone,” “Alfred Hitchcock Presents” และ “Mission: Impossible” เขายังมีบทประจำในซีรีส์ยอดนิยมอีกหลายเรื่องเช่น “77 Sunset Strip” และ “Dr. Kildare” ก่อนที่เขาจะได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลเอ็มมีจากการแสดงของเขาใน “3rd Rock from the Sun”
ในปี 1966 แชตเนอร์ได้กลายเป็นนักแสดงคนแรกที่รับบทกัปตัน เจมส์ ที. เคิร์กในซีรีส์ “Star Trek” ซึ่งโด่งดังเป็นพลุแตกหลังจากที่มันถูกระงับการออกอากาศและถูกนำกลับมาฉายใหม่ ซีรีส์นี้ได้แผ่ขยายเป็นแฟรนไชส์ภาพยนตร์และแชตเนอร์ก็ได้รับบทเคิร์กในภาพยนตร์ “Star Trek” เจ็ดเรื่อง นับตั้งแต่นั้น เขาก็ได้แสดงในภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ เช่น “Airplane II: The Sequel,” “Loaded Weapon I” และ “Miss Congeniality” ทั้งสองภาค แชตเนอร์ได้รับบทนำในซีรีส์ฮิตเรื่อง “T.J. Hooker” ก่อนที่เขาจะไปรับหน้าที่พิธีกรซีรีส์ทางซีบีเอสเรื่อง “Rescue 911” หกซีซัน เขามีผลงานการกำกับครั้งแรกในปี 1989 ด้วยเรื่อง “Star Trek V: The Final Frontier” ซึ่งเขาทั้งนำแสดงและช่วยคิดเรื่องราว หลังจากนั้น เขาก็ได้กำกับภาพยนตร์ ซีรีส์โทรทัศน์ และเอพิโซดอีกมากมาย ล่าสุด เขาได้กำกับและอำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง “Groom Lake” ภาพยนตร์เกี่ยวกับพื้นที่ลึกลับที่ห้อมล้อมรอสเวล, นิวเม็กซิโก
ความรักและชื่นชมดนตรีของแชตเนอร์เป็นแรงบันดาลใจให้เขาเข้าสตูดิโอและบันทึกเสียงอัลบัม “Has Been” ซึ่งเป็นการรวมเพลงที่เขาบันทึกเสียงกับศิลปินชั้นนำอย่างเบน โฟลด์ส (ผู้ที่โปรดิวซ์อัลบัมชุดนี้ด้วย), แบรด เพสลีย์, โจ แจ็คสัน, ไอมี แมนน์และเฮนรี โรลลินส์ อัลบัมชุดนี้โดดเด่นด้วยน้ำเสียงอันเป็นเครื่องหมายการค้าของแชตเนอร์และแสดงถึงความรักในบทกวีและการประพันธ์เนื้อร้องของเขา
สำหรับงานนอกจอแล้ว แชตเนอร์ได้เขียนหนังสือเบสต์เซลเลอร์กว่ายี่สิบเล่ม ทั้งในแนวนวนิยายและไม่ใช่นวนิยาย นิยายซีรีส์ “TekWar” ถูกสร้างขึ้นเป็นซีรีส์ทางไซไฟ เน็ตเวิร์ค และเขาก็ได้นำแสดงและกำกับซีรีส์ดังกล่าวด้วย นิยายเรื่องอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมของเขาได้แก่ “Man O’War,” “Star Trek Avenger” และ “Ashes of Eden” เขาได้เขียนหนังสือสองเล่มจากประสบการณ์ในการแสดง “Star Trek” ของเขา ซึ่งได้แก่ “Star Trek Memories” และ “Star Trek Movie Memories” ก่อนที่เขาจะเขียนหนังสือเรื่อง “Get a Life!” ซึ่งนำเสนอมุมมองที่ขบขันแต่น่ารักที่มีต่อกระแสคลั่งไคล้ “Star Trek”
นอกจากงานในอุตสาหกรรมบันเทิงแล้ว เขายังประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพผสมพันธุ์ม้าอีกด้วย ความรักม้าของเขาทำให้เขาได้เข้าไปเกี่ยวกับข้องกับ อะเฮด วิธ ฮอร์สซิส ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่ทำให้เด็กๆ ที่พิการด้านร่างกายและสติปัญญาได้ตื่นเต้นกับการขี่ม้า ซึ่งเป็นการกระตุ้นความมั่นใจและความเชื่อมั่นในตัวเองของพวกเขา ตลอดระยะเวลาสิบสี่ปีที่ผ่านมา เขาได้เป็นผู้จัดงานแสดงโชว์การกุศลม้าฮอลลีวูดขึ้นที่สถาบันลอสแองเจลิส อีเควสเทรียน งานดังกล่าวที่จัดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิของทุกปีนั้น จัดขึ้นเพื่อหาทุนให้กับองค์กร อะเฮด วิธ ฮอร์สซิสและองค์กรการกุศลเพื่อเด็กองค์กรอื่นๆ ในอาณาบริเวณลอสแองเจลิส ในเดือนกันยายน ปี 2004 แชตเนอร์ได้รับรางวัลเอ็มมีจากบทหุ้นส่วนบริษัทกฎหมาย เดนนี เครนในซีรีส์ “The Practice” ดรามาเกี่ยวกับกฎหมายที่สร้างโดยเดวิด อี. เคลลี และเพิ่งจบไปทางเอบีซีในปี 2004 เขาได้รับบทประจำในซีรีส์ฮิตทางเอบีซีเรื่อง “Boston Legal” และการแสดงของเขาก็ผลักดันให้เขาได้รับรางวัลลูกโลกทองคำครั้งแรกในเดือนมกราคม ปี 2005 รวมทั้งรางวัลเอ็มมีในเดือนกันยายนปี 2005
แชตเนอร์ยังคงแสดง เขียนบท อำนวยการสร้างและกำกับงานจอแก้วจอเงินไปพร้อมๆ กับการเจียดเวลาไปทำงานการกุศลและฝึกฝนทักษะการขี่ม้าของตัวเอง เขาและเอลิซาเบธ ภรรยาของเขาและลูกๆ สามคนใช้ชีวิตอยู่ในลอสแองเจลิส
