ประวัติย่อ ริชาร์ด เกียร์ ได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มที่ประสบความสำเร็จ และเซ็กซี่ที่สุดคนหนึ่งแห่งยุคเอทตีส์และต้นยุคไนน์ตีส์ นอกจากความหล่อเหลาดูดีแล้ว ความสามารถในด้านการแสดงของเขายังเป็นที่ยอมรับ แลยังรับบทได้หลากหลาย ตั้งแต่บทรักโรแมนติก, บทจอมบู๊ ไปจนถึงบทอัศวินยุคกลาง หรือแม้แต่บทวายร้ายผู้โหดเหี้ยม ซึ่งทำให้เขากลายเป็นดาราที่ยืนยงที่สุดคนหนึ่งจากยุคของเขา
เกียร์ เกิดที่เมืองฟิลาเดลเฟีย แต่ไปเติบโตที่มหานครนิวยอร์ค หลังจากที่เรียนจบไฮสคูล เขาได้รับทุนนักกีฬายิมนาสติกของมหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตต์ แต่หลังจากที่เรียนสาขาวิชาปรัชญาที่นั่นได้เพียง 2 ปี เขาก็หยุดพักการเรียนไว้ เพื่อเป็นนักแสดงและนักดนตรีอาชีพ เขาเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการแสดงละครเวทีในนิวยอร์คและซีแอตเติล และเล่นดนตรีเมื่อมีโอกาส แต่ความพยายามของเขาในการก่อตั้งวงดนตรีก็ไม่ประสบความสำเร็จ
ในปี 1973 เขาเดินทางไปลอนดอน และได้รับบท แดนนี ซูโก ในละครเวทีเรื่อง Grease ซึ่งในเวลาต่อมา เขาได้สวมบทเดียวกันนี้อีกครั้งบนเวทีบรอดเวย์ด้วย ขณะที่อยู่ในลอนดอนนั้น เกียร์ยังได้รับเกียรติให้อย่างสูง จากการเป็นหนึ่งในนักแสดงชาวอเมริกันเพียงไม่กี่คน ที่มีโอกาสได้แสดงที่ ยัง วิค เธียร์เตอร์ โดยเขาปรากฏตัวในเรื่อง The Taming of the Shrew
เมื่อเดินทางกลับสู่สหรัฐฯ และได้แสดงหนังใหญ่เป็นครั้งแรก กับบทเล็ก ๆ ในเรื่อง Report to the Commissioner (1975) หลังจากนั้น เขาหวนมารับบทเล็ก ๆ ในละครออฟบรอดเวย์ของ แซม เชพาร์ด เรื่อง Killer’s Head และหลังจากที่แสดงหนังเรื่อง Looking for Mr. Goodbar (1977) แล้ว เกียร์ได้กลับมาร่วมงานกับเชพาร์ดอีกครั้ง ในหนังใหญ่เรื่อง Days of Heaven (1978) ซึ่งเป็นฝีมือการกำกับของ เทอร์เรนซ์ มาลิค
เกียร์เริ่มเป็นที่จับตาของใคร ๆ หลายคน จากการรับบทนำในหนัง American Gigolo (1980) ของ พอล ชเรเดอร์ เดิมทีผู้สร้างวางตัวไว้แล้วว่าจะให้ จอห์น ทราโวลต้า มารับบทนี้ แต่ทราโวลต้าปฏิเสธ โอกาสอันแสนงามจึงตกเป็นของเกียร์ แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะไม่ถึงกับโด่งดังมากมายนัก แต่บทบาทการแสดงของหนุ่มเกียร์ก็ทำให้ชื่อของเขาเป็นที่รู้จักมากขึ้น จนกระทั่งเขาก้าวสู่ความเป็นดาราดังอย่างแท้จริงในอีกสองปีถัดมา เมื่อเขาได้รับบทนำคู่กับ เดบรา วิงเกอร์ ใน An Officer and a Gentleman (1982)
อย่างไรก็ตาม เส้นทางของเกียร์ในฐานะนักแสดงชื่อดัง กลับต้องพบกับช่วงที่ไม่น่าอภิรมย์นัก เพราะหนังที่เขาแสดงต่างไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เช่นเรื่อง King David (1985) หรือแม้กระทั่งเรื่อง The Cotton Club (1984) ของผู้กำกับ ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปล่า ที่ไม่สามารถหนุนให้ชื่อของเกียร์ทวีความร้อนแรงยิ่งขึ้นได้ เวลาผ่านไปจนถึงปลายยุคเอทตีส์ แต่เกียร์ยังไม่มีผลงานที่ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่น จนดูเหมือนหนทางดาราของเขาได้มาถึงจุดตีบตันเสียแล้ว
สำหรับเกียร์ ฟ้าเริ่มเปิดให้เห็นความสดในอีกครั้งในปี 1990 เริ่มจากความสำเร็จในบทตำรวจมือไม่สะอาดในเรื่อง Internal Affairs ของ ไมค์ ฟิกกิส แล้วตามด้วยบทนักธุรกิจผู้มีจิตใจแห้งเหี่ยวไร้ความรู้สึก แต่ชีวิตพลิกผันเมื่อได้พบกับโสเภณีสาว (รับบทโดย จูเลีย โรเบิร์ตส) ในหนังโรแมนติกเบาสมองเรื่อง Pretty Woman (1990) ของผู้กำกับ แกร์รี มาร์แชล ที่กวาดรายได้ไปอย่างมโหฬารเกินความคาดหมาย หลังจากนั้น เกียร์สวมบทนำในหนังอีกหลาย ๆ เรื่องอย่างต่อเนื่อง เช่น Sommersby (1993), Intersection (1994), First Knight (1995) และ Primal Fear (1996) ที่เขาได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากจากบท มาร์ติน เวล ทนายฝีมือดีที่รับว่าความในคดีที่ดูเหมือนไม่มีทางชนะ เพื่อช่วยเด็กหนุ่มที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนฆ่าบาทหลวงคาธอลิคผู้เป็นที่นับหน้าถือตา
เกียร์ตอกย้ำความสำเร็จของเขาอีกครั้ง ด้วยการแสดงคู่กับ จูเลีย โรเบิร์ตส อีกครั้ง ใน Runaway Bride (1999) แม้ว่าเสียงตอบรับจากทางด้านนักวิจารณ์จะไม่ดีนัก แต่ในปีถัดมา เขาก็สามารถเรียกเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์ได้มากมาย จากบทนรีแพทย์ที่ต้องปวดเศียรเวียนเกล้ากับผู้หญิงมากมายที่รายล้อมตัวเขาอยู่ ในผลงานการกำกับของ โรเบิร์ต อัลท์แมน เรื่อง Dr. T and the Women (2000)
ริชาร์ด เกียร์ นับถือศาสนาพุทธ และใช้เวลานอกจอของเขาช่วยเหลืองานเพื่อศาสนาขององค์ดลัยลามะด้วย ในปี 2002 เขามีผลงานให้ชมถึงสามเรื่อง คือ The Mothman Prophecies, Unfaithful และ Chicago: The Musical
ประวัติเรียงตาม :: - ผลงานแสดง