กาแฟ..หอม..อร่อย..อันตราย!!
เคยได้ยินหรือไม่ว่า การดื่มกาแฟวันละแก้ว เพียงพอแล้วที่จะทำให้คุณติดสารเสพติด?
กาแฟ เครื่องดื่มยอดนิยมที่สุดบนพื้นพิภพ ถูกศึกษาและวิเคราะห์ในเกือบทุกประเทศทั่วโลกที่มีสถาบันวิจัย ในแง่ของคุณภาพและผลพวงต่อมนุษย์ เรียกได้ว่าไม่นานหลังจากถูกค้นพบ กาแฟก็กลายเป็นหัวข้อถกเถียงกันทั่วไป
ตัวอย่างเช่นในปี 1679 ดร. คอมโบแห่งมหาวิทยาลัยมาร์เซย์ส กล่าวว่าเครื่องดื่มชนิดนี้มีอนุภาคที่ถูกเผาผลาญจำนวนมาก ซึ่งมีพลังถึงขั้นที่สามารถทำลายน้ำเหลืองทั้งหมดและทำให้ไตเหือดแห้ง อนุภาคดังกล่าวยังสามารถสกัดกั้นน้ำที่ไปหล่อเลี้ยงสมอง ทำให้ผู้ดื่มหมดแรง เป็นอัมพาตและหมดสมรรถภาพทางเพศ
กว่า 300 ปีมาแล้วนับจากการวิเคราะห์ดังกล่าว อย่างไรก็ดี จนวันนี้ นักวิจัยยังคงไม่ยอมวางมือจากการศึกษาค้นคว้าถึงพิษภัยของกาแฟ
จากข้อมูลของโรแลนด์ กริฟฟิตส์แห่งสถาบันจอห์น ฮอปกินส์ ระบุว่า การดื่มกาแฟวันละหนึ่งแก้วเพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้ดื่มติดสารเสพติด โดยกริฟฟิตส์อ้างอิงอาการ อาทิ ปวดศรีษะและปวดกล้ามเนื้อ เหนื่อยล้า การขาดสมาธิ และการคลื่นไส้วิงเวียนอันเกิดจาก ‘การเลิก’ คาเฟอีน ที่พบในคนครึ่งหนึ่งที่เคยดื่มกาแฟเป็นประจำ
นักวิจัยผู้นี้จึงแนะนำว่า ควรใส่การติดกาแฟไว้ในรายชื่อโรคทางกายและสุขภาพจิตที่เกิดจากการเสพติดลงไปด้วย
ทั้งนี้ คาเฟอีน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของกาแฟ เป็นสารกระตุ้นที่อาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นและชีพจรเต้นเร็วขึ้นชั่วคราว นี่เองที่เป็นสาเหตุให้ผู้ที่มีความเครียดสูงและผู้ที่มีปัญหาโรคหัวใจ ได้รับคำแนะนำให้งดเว้นการดื่มกาแฟ
นักวิจัยจากโรงพยาบาลเฮนรี ดูแนนท์ในเอเธนส์ ประเทศกรีซ เชื่อว่า กาแฟเพียงวันละ 1 แก้วสามารถทำให้ความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากจะทำให้ระดับคาเฟอีนในกระแสเลือดเพิ่มขึ้น ผนังหลอดเลือดหนาขึ้น และความดันโลหิตสูงขึ้น
ทว่า สำหรับแพทย์โรคหัวใจของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยซูริก สวิตเซอร์แลนด์ กลับระบุว่า กาแฟทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นเฉพาะผู้ที่นานๆ ดื่มทีเท่านั้น แต่พวกคอกาแฟที่ซดกันวันละ 2-3 แก้วปลอดภัยหายห่วงจากเรื่องนี้
ขณะเดียวกัน วอลเตอร์ วิแลตตีจากบอสตัน ได้ทำการทดลองเพื่อหาความเป็นไปได้ของความเกี่ยวพันระหว่างการดื่มกาแฟกับโรคโลหิตจาง ด้วยการติดตามสุขภาพพยาบาล 85,747 คนจากปี 1980-1990 โดยผลปรากฏว่า ไม่พบความเกี่ยวโยงใดๆ ระหว่างสองสิ่งดังกล่าว อย่างน้อยในหมู่ผู้หญิง อีกทั้งพบว่า ถึงดื่มกาแฟวันละ 6 แก้วก็ไม่ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคโลหิตจางเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
กาแฟมีทั้งคุณและโทษเช่นเดียวกับอีกหลายสรรพสิ่งในโลก ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละบุคคลว่าต้องการเลือกสิ่งใดให้ตัวเอง และต่อไปนี้คือ
ข้อดีอื่นๆ ของกาแฟ
- กาแฟดีต่อถุงน้ำดี (ลดความเสี่ยงในการเป็นนิ่ว เนื่องจากคาเฟอีนช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำดี)
- กาแฟดีสำหรับผู้ป่วยโรคหอบ เพราะช่วยขยายทางเดินหายใจ
- กาแฟปกป้องตับจากอันตรายของแอลกอฮอล์ และลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับ
- กาแฟช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของยาปฏิชีวนะ
- กาแฟเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยลดโอกาสในการเป็นโรคร้ายมากมายหลายอย่าง