ความหมายของภพ
ภพ เรียกตามไทยว่า เรือนชะตามีอยู่ ๑๒ เรือน หรือ ๑๒ ภพ เมื่อคำนวณดวงชะตาวางลัคนาเรียบร้อยแล้ว ให้ถือเอาภพที่ลัคนาสถิต เป็นภพที่ ๑ แล้วนับเวียนซ้ายเรียงลำดับกันไป ซึ่งมีความหมายแต่ละภพ ดังนี้
๑. ตนุ แปลว่า ตัวตน –ได้แก่รูปร่างสภาพของบุคคล นิสัย ความประพฤติ จริต กิริยา สุขภาพ อนามัย ที่อยู่อาศัย (ตัวตนหมายถึง ศีรษะจรดเท้า)
๒. กฏุมพะ แปลว่า สมบัติ – ได้แก่ทรัพย์สินเงินทอง ที่อื่น ๆ เรียกว่า ศูนย์พาหะคือทำให้เกิดกำลัง หรือหมายถึงครอบครัวก็ได้
๓. สหัสชะ แปลว่า เกิดร่วมกัน – ได้แก่เพื่อน คนใกล้ชิด พี่น้องเกิดท้องเดียวกัน เรื่องเพื่อนต้องหมายถึงการสมาคม ทางสากลจึงหมายเอาถึงการเขียนจดหมาย การเดินทางใกล้ ๆ อีก
๔. พันธุ แปลว่า ที่ติดเนื่องกัน – ได้แก่สิ่งที่ติดเนื่องมากับเจ้าชะตาเวลาเกิด เช่น บ้าน ที่ดิน พ่อ แม่ญาติพี่น้อง ทางภาระตะหมายถึงความสุขทั่ว ๆ ไป การศึกษาและ ยานพาหนะ
๕. ปุตตะ แปลว่า การดื่ม ความยินดี ได้แก่บุตร ธิดา บริวาร ควรหมายถึง ความรัก สถานที่ รื่นเริงบันเทิงใจ ความรู้สึกทางกามารมณ์ โชคลาภที่เกิดขึ้นเกินความคาดฝัน
๖. อริ แปลว่า ศัตรู – ได้แก่ผู้คิดร้าย อุปสรรค โรคภัยไข้เจ็บ ทางภารตะหมายถึง หนี้สิน ภัยที่เกิดจากโจร ความทุกข์ระทม
๗. ปัตนิ แปลว่า สิ่งตรงข้าม – ได้แก่คู่ครอง การสมรส และยังหมายถึงการเซ็นสัญญาการติดต่อ ธุรกิจ การเดินทางได้อีก และคดีความด้วย
๘. มรณะ แปลว่า การตาย – ได้แก่การแตกทำลาย การสูญเสีย การแปรสภาพ และยังหมายถึงสิ่งตาย ๆ เช่น มรดก พินัยกรรม ความสุดสิ้นของโรคภัยไข้เจ็บ เครื่องหมายทางเพศ
๙. ศุภะ แปลว่า ความสวยงาม -- ได้แก่ความสงบเรียบร้อย ได้แก่การงานภายในบ้าน ที่อยู่อาศัย การดำเนินชีวิต การเดินทางไกล เช่น ต่างประเทศ ความเคารพเชื่อถือ
๑๐. กัมมะ แปลว่า การงาน – ได้แก่อาชีพ งานอดิเรก ตำแหน่งกรรมเก่าที่ตนสร้างมาแต่อดีตชาติ
๑๑. ลาภะ แปลว่า การได้ --- ได้แก่โชค ความสำเร็จ เพื่อนหรือผู้ให้ความช่วยเหลือ อำนาจที่อยู่เหนือเจ้าชะตา
๑๒. วินาศ แปลว่า ความฉิบหาย – ได้แก่ความวิบัติ การจองจำกักขัง ศัตรูลับ การทรยศหักหลัง ความอึดอัดใจ การสุรุ่ยสุร่าย บาปนรก
“โหราศาสตร์” เป็นวิชาที่ใช้หลักวิชาทางสถิติ การโคจรของดวงดาว เพื่อใช้ในการอ่านกรรมที่เรียกว่า “ดวงเดิม” และใช้ผลกระทบจาดาวจรในปัจจุบันที่มีผลกระทบกับดวงเดิม เพื่อการอ่านเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและใช้สถิติผลกระทบกันระหว่างดาวจรกับดาวตั้งรับในดวงเดิมเป้นการอ่านเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อป้องกัน ระมัดระวังสำหรับการดำเนินชีวิตให้ปลอดภัยและพยายามทำให้ดีที่สุด นอกจากนี้ ยังช่วยให้รู้จักอุปนิสัยใจคอ และวาสนาของผู้อื่นอีกด้วย
ดังนั้น วิชาโหราศาสตร์ จึงผูกพันกับสัจธรรมของชีวิตคือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ความสุข และ ความทุกข์ การติดตามสถิติได้อย่างมากก็ชั่วอายุของโหรเท่านั้น การพิสูจน์หรือทดลอง จึงไม่ค่อยมีมากเท่ากับการเก็บสถิติ ตามคำบอกเล่าของผู้ที่ประสบโชคหรือเคราะห์เท่าที่จะรวบรวมมาได้ การพิสูจน์สถิติอย่างซ้ำซากได้กลายเป็นตำราโหราศาสตร์ หรือ ข้อสังเกตทางโหราศาสตร์สำหรับคนรุ่นต่อไป
ที่มา https://www.horawej.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=3594&Ntype=3