การขัดผิวหน้า หรือ การสครับ (Facial Scrub) เป็นการช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่หมองคล้ำ เมื่อเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่ สภาพผิวก็จะดีขึ้น และดูเปล่งปลั่งมากกว่าเดิม ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้คุณสาวๆ หลายๆ คนที่ใจร้อน อยากที่จะทำการขัดผิวหน้าบ่อยๆ เพื่อให้ใบหน้าเนียนกระจ่างใสอยู่เป็นประจำ แต่ในความเป็นจริงแล้วการขัดผิวหน้าบ่อยมากๆ จนเกินพอดีนั้น เป็นผลเสียต่อผิวหน้ามากกว่าผลดี เพราะทำให้ผิวบนใบหน้าเกิดการระคายเคือง จนนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ เช่น สิว ความแห้งกร้านของผิวหน้า เป็นต้น สำหรับในวันนี้ จึงจะขอแนะนำให้รู้จักกับ วิธีการขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี เพื่อเป็นการช่วยป้องกันการเกิดปัญหา และทำให้ใบหน้าของคุณสาวๆ ขาวใสจากการขัดผิวโดยไร้ความกังวล
ข้อควรจำในการขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี
1. ไม่ควรทำการขัดหน้าบ่อยจนเกินไป โดยความถี่ที่เหมาะสมในการขัดหน้า คือ 1-2 ครั้ง ต่อสัปดาห์ ซึ่งถือว่าเพียงพอแล้ว นอกจากนี้การทิ้งระยะเวลาในการขัดหน้าจะช่วยเปิดโอกาสให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทนแทนเซลล์ผิวเก่าที่ถูกขัดออกไป ดังนั้นถ้าหากฝืนทำการขัดหน้าบ่อยๆ แทนที่จะทำให้หน้าใส กลับเป็นการรบกวนผิว ทำให้ใบหน้าแห้งกรัง เกิดสิว แถมริ้วรอยยังมาเยือนอีกต่างหาก2. ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์หรือครีมที่มีส่วนผสมของกรดอัลฟา ไฮดรอกซี (Alpha hydroxylacids) ที่มากจนเกินไป เพราะถึงแม้ว่ากรดดังกล่าวจะมีฤทธิ์ในการช่วยผลัดเซลล์ผิว แต่หากใช้ในปริมาณมากจนเกินไป หรือทาบ่อยๆเป็นประจำทุกวัน การกระตุ้นให้ผิวหน้าผลัดเซลล์อยู่ตลอดเวลาจะทำให้ผิวใบหน้าถูกทำลายมากกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาด้านผิวเกิดขึ้นตามมาในระยะยาว
3. ไม่ควรนำผลิตภัณฑ์ขัดผิวตัวมาใช้ในการขัดผิวหน้า ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับการขัดผิวหน้าโดยเฉพาะ และไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิวหน้าที่มีเม็ดขรุขระ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเม็ดละเอียด เพื่อความปลอดภัยต่อผิวหน้าที่มากขึ้น ให้คุณสาวๆนำผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ทำการขัดผิวหน้า มาทดลองขัดที่ผิวหนังบริเวณหลังมือก่อน ถ้าหากทำการถูแล้วไม่รู้สึกเจ็บ หรือแสบผิว จึงค่อยนำไปใช้ในการขัดผิวหน้าต่อไป
4. ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการขัดผิวหน้ามากที่สุด คือ เวลากลางคืน เพราะหลังจากที่เราทำการขัดผิวหน้าเสร็จแล้ว ในขณะที่นอนหลับ เซลล์ผิวหน้าจะได้ทำการซ่อมแซม ฟื้นฟู จากการสูญเสียที่เกิดขึ้นในขณะที่ทำการขัดหน้า
5. สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องสิวแต่อยากทำการขัดผิวหน้า ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิวหน้าสำหรับคนที่เป็นสิวเป็นเฉพาะ เพื่อช่วยลดโอกาสที่จะไปสร้างความระคายเคืองให้กับผิวหน้าในขณะที่ทำการขัดผิวหน้า ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้เกิดสิว หรือสิวอักเสบมากขึ้น แต่ทางที่ดีที่สุดคือ ควรงดการขัดผิวหน้าในขณะที่เป็นสิวจนกว่าจะหายดี
6. ควรหลีกเลี่ยงการขัดผิวหน้าเมื่อรู้ว่าจำเป็นต้องไปในสถานที่ที่มีแสงแดดจัด เช่น ชายทะเล เป็นต้น ไม่ควรทำการขัดผิวหน้า อย่างน้อย 48 ชั่วโมง ก่อนไปในบริเวณที่มีแสงแดดมาก เพราะการขัดผิวหน้าทำให้ผิวหน้าบางลง ผิวหน้าจึงมีความไวต่อแสงแดดมากขึ้นตามไปด้วย
7. หลังจากที่ทำการขัดผิวหน้าควรทาครีมกันแดด ที่มีค่า SPF มากกว่า 15 เมื่อจำเป็นที่จะต้องออกไปข้างนอกบ้าน เพราะการขัดผิวหน้าจะทำให้ผิวบอบบางลง และไว้ต่อแสงแดดมากยิ่งขึ้น
8. ในขณะที่ทำการขัดผิวหน้าด้วยมือ ควรขัดเบาๆ พร้อมกับใช้มือขัดในลักษณะถูเป็นวงกลมเล็กๆ ไล่ให้ทั่วใบหน้า โดยเน้นที่บริเวณหน้าผาก จมูกและคางเป็นพิเศษ เนื่องจากในบริเวณดังกล่าวมักจะเกิดการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งทำให้เกิดสิวขึ้น อีกทั้งยังไม่ควรขัดผิวหน้านานจนเกินไปนัก ควรใช้เวลาในการขัดประมาณ 10-15 นาที หรือน้อยกว่านั้นก็เพียงพอแล้ว
9. หลังจากที่ทำการขัดผิวหน้าควรทำการบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ทุกครั้ง เพื่อเป็นการคืนความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ข้อมูลจาก : https://www.kondoodee.com/