วงแหวนคุมกำเนิด ทางเลือกใหม่สำหรับคนที่ไม่ชอบทานยาคุมกำเนิด - Sanook! พีเดีย

วันนี้ Lady108 จะพาสาวๆ มารู้จักกับเรื่องของนวัตกรรมคุมกำเนิด สำหรับใครที่เป็นสาวขี้ลืม และไม่ชอบที่จะทานยาคุมกำเนิด ประมาณว่าทานไม่ครบ ทานวันเว้นวัน ทำให้เกิดภาวะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ทั้งที่ยังไม่พร้อม ตัววงแหวนคุมกำเนิด จะสามารถช่วยตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดีทีเดียวค่ะ

คนที่กำลังงง หรือว่าไม่รู้ว่าวงแหวนคุมกำเนิดนี้ มีลักษณะเป็นอย่างไร และทำจากอะไร เพียงแค่เคยได้ยินผ่านๆ มาเท่านั้น ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการคุมกำเนิด เราก็เลยอยากจะมากระซิบให้ฟังว่า “วงแหวนคุมกำเนิด” นี้ เป็นลักษณะของการคุมกำเนิด ด้วยการสอดใส่ในช่องคลอด โดยที่ “วงแหวนคุมกำเนิด” ที่ว่าจะมีลักษณะใส และไม่มีสี มีขนาดความกว้าง เป็นเส้นผ่านศูนย์กลาง 54 มิลลิเมตร มีความหนา 4 มิลลิเมตร ผลิตด้วยวัสดุที่เรียกว่า “เอธิลีนไวนิลอะซิเตทโคโพลิเมอร์” เป็นวัสดุที่มีความนุ่ม อ่อนตัว และมีสภาพที่ยืดหยุ่น อีกทั้งยังไม่ละลายในร่ายกายของเรา ภายในนั้น มีการบรรจุออร์โมนทั้ง 2 ตัว และเมื่อ “วงแหวนคุมกำเนิด” ถูกสอดใส่เข้าไปในช่องคลอดแล้ว ตัวฮอร์โมนทั้ง 2 ชนิดนี้ จะค่อยๆ ถูกปล่อยออกมา เพื่อเป็นการยับยั้งการตกไข่ และทำให้มูกบริเวณปากมดลูก มีความเหนียวข้น และเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำให้สเปิร์ม เคลื่อนที่ผ่านได้ยาก ซึ่งมีผลเช่นเดียวกัน กับยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมน ที่ใช้การรับประทาน

หลายคนอาจจะมีคำถามว่า การใส่ “วงแหวนคุมกำเนิด” เราสามารถทำเองได้รึเปล่า？ ครั้งแรกที่เริ่มใช้จะต้องให้แพทย์ เป็นผู้แนะนำวิธีการใส่ และถอดวงแหวนคุมกำเนิดให้ หลังจากนั้น เมื่อรู้ขั้นตอน และวิธีการแล้ว ก็สามารถทำเองได้ โดยการใส่วงแหวนคุมกำเนิด จะต้องเริ่มใส่ในวันแรกของการมีประจำเดือน หรือไม่ ก็ห้ามเกินวันที่ 5 ของการมีประจำเดือน จากนั้น ก็ให้ปล่อยวงแหวนนั้นไว้ในช่องคลอด เป็นเวลา 1 สัปดาห์ จากนั้นก็ต้องถอดออก และทำการพักเป็นระยะเวลาอีก 1 สัปดาห์ ซึ่งช่วงนี้ ก็จะเป็นช่วงที่ประจำเดือนมาพอดี ซึ่งปกติแล้ว หลังการถอดวงแหวนคุมกำเนิดราวๆ 2-3 วัน ประจำเดือนก็จะมา จากนั้นก็เริ่มใส่วงแหวนอันใหม่ เมื่อครบ 1 สัปดาห์ ถึงแม้ว่าตอนนั้น จะยังมีประจำเดือนอยู่ก็ตาม

คนที่ลืมถอดวงแหวนคุมกำเนิดออก เมื่อเลยกำหนดระยะเวลาแล้ว ซึ่งก็คือ 3 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 4 สัปดาห์ ประสิทธิภาพของการคุมกำเนิด จะไม่ลดลงแต่อย่างใด แต่ให้ถอดวงแหวนคุมกำเนิดออก จากนั้นก็ห็หยุดใช้เป็นเวลา 1 สัปดาห์เหมือนเดิม ก่อนที่จะเปลี่ยนวงแหวนอันใหม่

คนที่ใส่วงแหวนคุมกำเนิด จะมีอาการปวดท้องน้อย เจ็บที่บริเวณเต้านม รู้สึกปวดศีรษะข้างเดียว รู้สึกปวดประจำเดือน มีสิว น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น และมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการติดเชื้อในช่องคลอดได้ แต่จะพบได้ไม่บ่อยนัก

1. คนที่เป็นโรคหลอดเลือดอุดตัน และโรคตับ ห้ามใช้
2. คนที่มีความเสี่ยง ในการเป็นโรคหลอดเลือดอุดตัน เช่น คนที่มีประวัติเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดอักเสบ โรคความดันโลหิตสูง ไม่ควรใช้
3. คนที่คิดว่าจะเป็น หรือเป็นมะเร็งเต้านม ไม่ควรใช้
4. ไม่ใช้ในคนที่มีอาการเลือดออกผิดปกติในช่องคลอด และยังไม่ทราบสาเหตุ
5. คนที่มีอายุมากกว่า 35 ปี และสูบบุหรี่เป็นประจำ ควรจะปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
6. ห้ามใช้ในสตรีที่สงสัยว่าตัวเองตั้งครรภ์ หรือตั้งครรภ์

ข้อมูลจาก : https://www.lady108.com/