5 สุดยอดต้นกำเนิดแฟชั่นสุดฮิตในปัจจุบัน
ไม่ว่าจะเป็นวัตถุสิ่งของ ธรรมชาติ มนุษย์ หรือแม้กระทั้งการแต่งตัวของคนเรานั้นต่างก็ต้องมีที่มาที่ไป มีต้นกำเนิดกันทั้งนั้น วันนี้มี 5 สุดยอดต้นกำเนิดแฟชั่นสุดฮิตในปัจจุบัน มาฝากเพื่อนๆกันคะ .. จะมีอะไรบ้างนะ ^^
5 สุดยอดต้นกำเนิดแฟชั่นสุดฮิตในปัจจุบัน
1. รองเท้าส้นสูง
แม้แต่ผู้หญิงที่นำแฟชั่นที่สุดก็ต้องยอมรับว่า การใส่รองเท้าส้นสูงนี่มันเจ็บจริงๆ นอกจากมันจะเป็นต้นเหตุของคำบ่นเรื่องอาการปวดเมื่อยขาและตาปลาแล้ว ส้นสูงยังเป็นสาเหตุของอาการเส้นประสาทและข้อต่อเสียหายถาวรอีกด้วย แต่เอาเถอะ ยังไงมันก็ทำให้คุณดูขายาวขึ้นและทำให้หลังตรงอกตึง แค่เหตุผลแค่นี้ก็เพียงพอแก่การเสี่ยงเจ็บตัวแล้ว หรือเปล่า?
ความจริงแต่ดั้งเดิมแล้วรองเท้าส้นสูงไม่ได้ออกแบบมาสำหรับผู้หญิง แต่ออกแบบมาเพื่อผู้ชายที่แมนที่สุดในเหล่าผู้ชายด้วยกัน นั่นคือ พวกทหารนั่นเอง
อ้างอิงจาก Elizabeth Semmelhack จากพิพิธภัณฑ์รองเท้าที่เมืองโทรอนโต ให้ข้อมูลไว้ว่า ผู้คน Near East ใส่รองเท้าส้นสูงเป็นรองเท้าสำหรับการขี่ม้ากันมาเป็นหลายศตวรรษ ต้นกำเนิดจริงๆ ของมันเริ่มมาจากที่เปอร์เซีย เมื่อนักรบบนหลังม้าพบว่า เป็นการยากที่ยิงธนูไปด้วยและรักษาสมดุลไปด้วยบนหลังม้า พวกเขาจึงประดิษฐ์รองเท้าที่มีรอยบากตรงพื้นขึ้นมาเพื่อจะได้ช่วยรักษาสมดุลเมื่อยืนขณะขี่ม้า
และเมื่อชาวเปอร์เซียล่องเรือไปทำการทูตที่ทวีปยุโรปตะวันตกในศตวรรษที่ 16 ชนชั้นสูงก็นำเอารองเท้าแบบนี้มาทำเป็นให้แฟชั่นโดยการเพิ่มส่วนสูงของมันเข้าไป เพื่อเป็นการแสดงสถานะที่สูงกว่าคนธรรมดานั่นเอง ผู้หญิงเพิ่งจะเริ่มใส่รองเท้าส้นสูงเมื่อตอนที่การแต่งตัวแบบผู้ชายเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมแล้วนั่นเอง
2. ตั้งปกคอเสื้อขึ้น
เสื้อโปโล เป็นเหมือนเครื่องแบบสำหรับชนชั้นกลางค่อนไปทางสูง มันทั้งคลาสสิค เหมาะสำหรับใส่ไปทำงาน ใช้สำหรับเล่นกีฬาได้ และเมื่อถึงเวลาต้องไปเที่ยวหลังเลิกงาน คุณก็แค่ตั้งปกคอเสื้อขึ้นเพื่อให้ดูเท่ห์แบบมีสไตล์ แต่จริงๆ แล้วที่มาของแฟชั่นที่ดูไร้สาระนี้ กลับมีเรื่องราวน่าสนใจอย่างไม่น่าเชื่อ
Rene Lacoste นักเทนนิส (Lacoste เดียวกับโลโก้จระเข้) เป็นผู้ที่คิดค้นเสื้อโปโลขึ้นมา มันถูกนำเสนอต่อสาธารณะชนในปี ค.ศ.1926 ซึ่งออกจะเป็นเรื่องใหญ่ในยุดนั้น เพราะโดยปกติแล้วนักเทนนิสจะถูกจำกัดให้ใส่แต่เสื้อเชิ้ตแขนยาวที่ทั้งหนักและใส่ไม่สบาย
Rene ไม่ชอบที่จะต้องเล่นเทนนิสในเสื้อผ้าที่เหมือนชุดเกราะแบบนี้ เขาจึงได้คิดที่จะสร้างเสื้อแขนสั้นที่มีน้ำหนักเบาซึ่งเหมาะกับการต้องเหวี่ยงแขนไปมากลางแดดเป็นชั่วโมง และในการออกแบบของเขา ก็มีปกคอเสื้อที่สามารถพับลงหรือตั้งขึ้นได้เพื่อป้องกันหลังคอของผู้เล่นไม่ให้โดนแดดเผานั่นเอง
จริงๆ แล้ววิธีการใส่เสื้อโปโลโดยพับคอเสื้อลงเพิ่งได้รับความนิยม โดยเริ่มจากผู้ชมที่ร่ำรวยและหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งเริ่มใส่เสื้อโปโลในสไตล์นี้ ดังนั้น จริงๆ แล้ววิธีใส่เสื้อโปโลให้ถูกวิธีก็คือ ต้องตั้งปกคอเสื้อขึ้นแทน
3. ผมทรงโมฮอก (Mohawk)
ตั้งแต่ช่วงปลายปี ค.ศ.1970 โมฮอกเป็นทรงผมที่คนกลุ่มหนึ่งเลือกที่จะทำ มันเป็นเหมือนการบอกให้คนที่มีรสนิยมทางดนตรีที่คล้ายกันได้รับรู้ว่าคนทำทรงผมนี้คือเป็นพวกเดียวกัน ผมทรงโมฮอกนี้ย้อนไปถึงยุคของชนเผ่าโมฮอก ซึ่งเป็นชนเผ่าท้องถิ่นของประเทศอเมริกา แต่มันเกี่ยวยังไงกับดนตรีแนวพังค์ร็อคก็ยังไม่มีใครทราบแน่ชัด
โมฮอกไม่ได้เป็นแค่สัญลักษณ์ของการแข็งข้อเท่านั้น ชนเผ่านี้ออกแบบทรงผมนี้ขึ้นมาเพราะพวกเขาเบื่อกับการถูกคู่ต้องสู้ดึงผมด้านข้างแล้วถลกหนังหัวออกมาต่างหาก ในการต่อสู้มีการใช้วิธีดึงผมคู่ต่อสู้แถวๆ แนวผม แล้วดึงผมออกมาพร้อมหนังศีรษะ ชาวโมฮอกจะเอาผมทางด้านข้างของหนังศีรษะออก เหลือไว้เพียงตรงกลางศีรษะ ซึ่งผมที่เหลือนี้ปกติแล้วจะถูกแบบออกเป็น 3 ส่วน แล้วถักเป็นเปียหรือใส่เครื่องประดับต่างๆ นี่เพื่อจะได้แน่ใจว่าจะได้ไม่มีผมพอบริเวณแนวผมเพื่อให้คู่ต่อสู้ดึงได้
4. อายไลเนอร์
ปกติแล้วกระแสความนิยมการแต่งหน้าแบบต่างๆ จะมาแล้วก็จากไป ยกเว้นแต่อายไลเนอร์สีดำที่ยังคงได้รับความนิยมอยู่ทุกยุคทุกสมัย ทุกวันนี้เรารู้กันว่าการแต่งหน้าก็เป็นเพียงเพื่อความสวยงามไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น จะมีเหตุผลอะไรที่เราจะเอาอะไรมาทาหน้าตัวเองนอกเหนือจากนี้อีกล่ะ?
คุณอาจจะเคยได้ยินเรื่องว่าพระนางคลีโอพัตราเป็นผู้คิดค้นอายไลเนอร์ ซึ่งนั่นไม่ใช่ความจริง ความจริงแล้วมันเริ่มต้นในยุคอียิปต์โบราณ ซึ่งไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อความสวยงาม แต่เพื่อลดแสงสะท้อนจากดวงอาทิตย์ที่เข้าตานั่นเอง นี่เป็นเหตุผลเดียวกับที่ผู้เล่นรักบี้ทาขอบตาและแก้มเป็นสีดำเหมือนกัน
อีกทั้งยังมีหลักฐานว่าอายไลเนอร์มีไว้เพื่อเหตุผลทางการแพทย์ ในสมัยก่อนการติดเชื้อในดวงตาเป็นที่ระบาดกันมาก อายไลเนอร์จะช่วยไล่แมลงวันและแมลงอื่นๆ ที่อาจะเป็นพาหะไม่ให้เข้ามายุ่งกับดวงตา นอกจากนั้น นักวิจัยยังพบว่าขาวอียิปต์โบราณมีการเติมเกลือลงอายไลเนอร์อีกด้วย ซึ่งเป็นการค้นพบที่แปลกเพราะเกลือต้องใช้กรรมวิธีในการผลิตที่ยุ่งยาก และคนปกติก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะเอาเกลือไปทาใกล้ๆ ดวงตา ดังนั้น จึงได้มีการทำทดสอบ จึงพบว่า จริงๆ แล้วเกลือที่คุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี
5. พับแขนเสื้อ
ขอเดาว่าคนที่อ่านเรื่องนี้ต้องเคยใส่เสื้อเชิร์ตที่มีประดุมตรงปลายแขนเสื้อกันทุกคน ซึ่งเพื่อความสะดวกคุณก็มักจะพับแขนเสื้อขึ้น แต่ความจริงแล้ว ที่มาของการพับแขนเสื้อขึ้นน่าสนใจกว่าเพื่อความสะดวกเพียงอย่างเดียว คนที่ใส่ชุดสูทเสื้อแขนยาวในช่วงศตวรรษที่ 19 มีโอกาสได้มากที่อยู่ๆ จะต้องล้วงแขนลึกเข้าไปในท้องของคน
จริงๆ แล้วสิ่งที่อยู่ตรงปลายแขนเสื้อของคุณ แต่ก่อนถูกเรียกว่า ข้อมือเสื้อของคนผ่าตัด (surgeon’s cuffs) ย้อนกลับไปในช่วงยุค 1800 สุภาพบุรุษที่มีสถานะสูง เช่น พวกหมอ จะมีการสั่งตัดเสื้อสูทตามแบบที่ต้องการ ซึ่งรวมถึงต้องมีเสื้อที่จำเป็นต้องม้วนแขนเสื้อขึ้นได้เวลาที่ทำการผ่าตัด (ล้วงท้อง) คนไข้
ต่อมา เมื่อชุดสูทกลายเป็นของสามัญและผู้ใส่ก็ไม่จำเป็นต้องไปล้วงท้องใครอีก ผู้ตัดชุดก็เพียงแค่ติดกระดุมตรงปลายแขนเสื้อเพื่อเพิ่มสไตล์เท่านั้นเอง ดังนั้น ความจริงคือเวลาที่คุณใส่สูท คุณก็จะแต่งตัวเหมือนกับหมอผ่าตัดไปโดยไม่รู้ตัว
ข้อมูล Cracked, everyday-readers.com